“อภิรักษ์” ปฏิเสธแถลงผลงานไม่ได้หาเสียง แค่แจงให้ประชาชน ทราบถึงผลการดำเนินงานรอบ 3 เดือน ประกาศรถเมล์บีอาร์ที ต.ค.48 เปิดแน่ 2 สาย ด้าน “สุดารัตน์” ดักคออาจมีเบื้องหลังเพื่อเป็นกลไกสนับสนุน ปชป. ให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวแถลงผลงานในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยระบุถึงความคืบหน้าโครงการต่างๆ ตามนโยบาย 7 ด้าน ที่ประกาศไว้ อาทิ โครงการรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) กำหนด 2 เส้นทางนำร่อง ได้แก่ สายนวิมนทร์-เกษตร-หมอชิต ระยะ 14 กม.และสายช่องนนทรี-สะพานกรุงเทพ ระยะ 13 กม. คาดว่าจะสามารถเปิดใช้ได้ในเดือนตุลาคม 2548 นี้และจะขยายออกไปอีก 8 เส้นทางตามแผน ส่วนการแก้ปัญหาจราจรเร่งด่วนในจุดวิกฤต 10 แห่ง มีการประสานกับทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหา ทำให้สภาพการจราจร คล่องตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ในปี 2548 นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจะเป็นนโยบายหลักที่จะต้องมีการวางกรอบเป้าหมายและเห็นผลที่เด่นชัดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันวา การแถลงผลงานครั้งนี้เป็นสิ่งที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้น ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคและไม่ได้หารือกันล่วงหน้าแต่อย่างใด
“ผมเคยประกาศไว้ว่าครบ 3 เดือนแล้วจะแถลง เพื่อให้มองเห็นภาพรวมชัดเจนขึ้น ซึ่งระยะเวลา 3 เดือนเป็นช่วงที่เหมาะสม และจะทำต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือน ทั้งนี้ประชาชนคงสามารถแยกแยะออกระหว่างหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.และพรรคการเมืองที่ต้องมีนโยบายต่างๆ เราแค่สื่อสารให้คนเข้าใจว่า เราดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง บางคนที่เขาไม่เห็น หรือเห็นว่าทำงาน 4 ปี กทม.ก็ไม่เปลี่ยนแปลงนั้น อาจเป็นเพราะเขายังไม่ทราบ และสะท้อนให้เห็นว่าเราจะต้องทำงานให้หนักมากขึ้น”
“ส่วนปัญหาอุปสรรคในช่วงระยะเวลา 3 เดือนจะเป็นข้อจำกัดระยะสั้นๆ ในการปรับตัวเข้าหากัน เนื่องจากยังไม่เข้าใจวิธีการทำงาน หากได้ทำงานใกล้ชิดและอยู่บนพื้นฐานของการแก้ไขปัญหาก็น่าจะปรับตัวได้”
นายอภิรักษ์กล่าวถึงกรณีที่มีการอนุมัติงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อรณรงค์การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทุกด้านในสื่อทุกแขนงเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นนำงบมาประชาสัมพันธ์ตัวเองนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะแค่แถลงข่าวอย่างเดียวก็พอแล้ว
สำหรับการทำงานร่วมกับรัฐบาล การที่ไม่ได้อยู่พรรคเดียวกัน หากเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ชาวกทม.อยากเห็น ก็น่าจะทำงานร่วมกันได้ แต่ถ้าหากงานไม่เร็วดังที่หวังก็อาจจะมองอย่างนั้นได้
ด้านนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และประธานภาคกทม.กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน แต่ถ้าเป็นการแถลงนโยบายและผลงานทั่วไป ก็เป็นเรื่องที่ทำกัน หวังว่าพรรคประชาธิปัตย์คงจะไม่เข้ามาแทรกแซงให้นายอภิรักษ์ใช้กลไกมาสนับสนุนพรรคเพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง
นอกจากนั้น ขณะนี้ ส.ส.ในพรรคจำนวนมากเริ่มแสดงความไม่พอใจถึงกรณีที่ กทม.สั่งเก็บป้ายหาเสียงผู้สมัครอย่างหนักใน 7 เขต พื้นที่รอบในและฝั่งธนบุรี เพราะการติดป้ายบริเวณหน้าตึกแถวหรือในซอยเป็นเรื่องที่ปฏิบัติมานานและเจ้าของตึกก็อนุญาต แต่กทม.ได้ปลดป้ายออก ซึ่งพรรคจะประสานไปยังผู้ว่าฯกทม.ถึงความชัดเจนในการติดป้ายต่อไป
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวแถลงผลงานในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยระบุถึงความคืบหน้าโครงการต่างๆ ตามนโยบาย 7 ด้าน ที่ประกาศไว้ อาทิ โครงการรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) กำหนด 2 เส้นทางนำร่อง ได้แก่ สายนวิมนทร์-เกษตร-หมอชิต ระยะ 14 กม.และสายช่องนนทรี-สะพานกรุงเทพ ระยะ 13 กม. คาดว่าจะสามารถเปิดใช้ได้ในเดือนตุลาคม 2548 นี้และจะขยายออกไปอีก 8 เส้นทางตามแผน ส่วนการแก้ปัญหาจราจรเร่งด่วนในจุดวิกฤต 10 แห่ง มีการประสานกับทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหา ทำให้สภาพการจราจร คล่องตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ในปี 2548 นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจะเป็นนโยบายหลักที่จะต้องมีการวางกรอบเป้าหมายและเห็นผลที่เด่นชัดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันวา การแถลงผลงานครั้งนี้เป็นสิ่งที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้น ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคและไม่ได้หารือกันล่วงหน้าแต่อย่างใด
“ผมเคยประกาศไว้ว่าครบ 3 เดือนแล้วจะแถลง เพื่อให้มองเห็นภาพรวมชัดเจนขึ้น ซึ่งระยะเวลา 3 เดือนเป็นช่วงที่เหมาะสม และจะทำต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือน ทั้งนี้ประชาชนคงสามารถแยกแยะออกระหว่างหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.และพรรคการเมืองที่ต้องมีนโยบายต่างๆ เราแค่สื่อสารให้คนเข้าใจว่า เราดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง บางคนที่เขาไม่เห็น หรือเห็นว่าทำงาน 4 ปี กทม.ก็ไม่เปลี่ยนแปลงนั้น อาจเป็นเพราะเขายังไม่ทราบ และสะท้อนให้เห็นว่าเราจะต้องทำงานให้หนักมากขึ้น”
“ส่วนปัญหาอุปสรรคในช่วงระยะเวลา 3 เดือนจะเป็นข้อจำกัดระยะสั้นๆ ในการปรับตัวเข้าหากัน เนื่องจากยังไม่เข้าใจวิธีการทำงาน หากได้ทำงานใกล้ชิดและอยู่บนพื้นฐานของการแก้ไขปัญหาก็น่าจะปรับตัวได้”
นายอภิรักษ์กล่าวถึงกรณีที่มีการอนุมัติงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อรณรงค์การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทุกด้านในสื่อทุกแขนงเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นนำงบมาประชาสัมพันธ์ตัวเองนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะแค่แถลงข่าวอย่างเดียวก็พอแล้ว
สำหรับการทำงานร่วมกับรัฐบาล การที่ไม่ได้อยู่พรรคเดียวกัน หากเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ชาวกทม.อยากเห็น ก็น่าจะทำงานร่วมกันได้ แต่ถ้าหากงานไม่เร็วดังที่หวังก็อาจจะมองอย่างนั้นได้
ด้านนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และประธานภาคกทม.กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน แต่ถ้าเป็นการแถลงนโยบายและผลงานทั่วไป ก็เป็นเรื่องที่ทำกัน หวังว่าพรรคประชาธิปัตย์คงจะไม่เข้ามาแทรกแซงให้นายอภิรักษ์ใช้กลไกมาสนับสนุนพรรคเพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง
นอกจากนั้น ขณะนี้ ส.ส.ในพรรคจำนวนมากเริ่มแสดงความไม่พอใจถึงกรณีที่ กทม.สั่งเก็บป้ายหาเสียงผู้สมัครอย่างหนักใน 7 เขต พื้นที่รอบในและฝั่งธนบุรี เพราะการติดป้ายบริเวณหน้าตึกแถวหรือในซอยเป็นเรื่องที่ปฏิบัติมานานและเจ้าของตึกก็อนุญาต แต่กทม.ได้ปลดป้ายออก ซึ่งพรรคจะประสานไปยังผู้ว่าฯกทม.ถึงความชัดเจนในการติดป้ายต่อไป