หนองคาย - ท่าเทียบเรือนหนองคาย ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว เงียบเหงาสุดๆ ยอดนักท่องเที่ยวลดลงกว่าร้อยละ 90 เหตุลาวเข้มงวดการเข้าเมืองช่วงเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซียนซัมมิต แม่ค้าถูกห้ามนำของเข้าเวียงจันทน์ ส่วนร้านปลอดภาษีเชิงสะพานฯถูกสั่งปิดทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดหนองคายว่า บรรยากาศที่ท่าเทียบเรือหนองคาย เขตเทศบาลเมืองหนองคาย เมื่อ 29 พ.ย.47 เป็นไปด้วยความเงียบเหงา จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ท่าเทียบเรือยอดผู้ที่ผ่านเข้าออกที่บริเวณท่าเทียบเรือแห่งนี้ ลดลงจากเดิมมาก ประมาณ 90 % มีเพียงแม่ค้าชาวลาวบ้านท่าเดื่อ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่อยู่ตรงข้ามกับท่าเทียบเรือหนองคายเดินทางมายังหนองคายวันละไม่ถึง10 คน
แม่ค้าชาวลาวรายหนึ่ง บอกว่าสินค้าที่ซื้อจากหนองคายข้ามไปยัง สปป.ลาว ไม่สามารถนำผ่านเข้าไปกรุงเวียงจันทน์เหมือนช่วงปกติที่ผ่านมา เพราะทางการลาวห้ามนำเข้าสินค้าหรือนำผ่านเข้าไปอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทใดก็ตาม ซึ่งสินค้าที่ข้ามมาซื้อในช่วงนี้เป็นสินค้าประเภทที่นำไปจำหน่ายภายในหมู่บ้านท่าเดื่อเท่านั้น
ผู้ประกอบการเรือโดยสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้เที่ยวเรือแต่ละเที่ยวมีผู้โดยสารไม่เกินเที่ยวละ 3 คน จากเดิมที่มีผู้โดยสารช่วงปกติ 20 - 30 คนทำให้ระยะเวลาการออกเรือเลื่อนเวลาการออกเรือให้เหลือจำนวนเที่ยวน้อยลง โดยเฉลี่ยระยะนี้ประมาณ 1 ชม./1 เที่ยวเรือ หากผู้โดยสารหรือแม่ค้าที่มีรายได้พอประมาณก็จะใช้วิธีการเหมาลำเรือเพื่อไม่ให้เสียเวลารอผู้โดยสารรายอื่น ในราคาค่าเหมาเที่ยวละ 150 บาท
ส่วนเรือโดยสารลาวเองเมื่อได้ผู้โดยสาร 2-3 คน ก็จะมาส่งแล้วตีเรือกลับทันทีไม่เข้าคิวรอเหมือนเช่นเดิม เพื่อให้เรือโดยสารไทยมีรายได้บ้าง เพราะส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะเป็นชาวลาว ส่วนกรรมกรรับจ้างขนสินค้าลงเรือ ตอนนี้มีบางส่วนไม่ได้ทำงาน มาถึงท่าเทียบเรือแล้วก็ต้องกลับไป เนื่องจากไม่มีสินค้าให้ขนลงเรือเช่นเดิม บรรยากาศก็เป็นไปอย่างเงียบเหงาต่างรอคอยแม่ค้าชาวลาวที่จะนำสินค้ามาแต่ก็มีน้อยมาก
ด้านเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย บอกว่าท่าเรือแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้า แม่ค้า ทั้งชาวไทย ชาวลาว เข้าออกเป็นประจำ ที่มีอยู่ประมาณ 40 รายซึ่งแต่ละรายจะมีการเข้าออกวันละหลายรอบ แต่เมื่อทางการลาวเข้มงวดการเข้าออกประเทศ ทำให้มีเพียงพ่อค้าแม่ค้าชาวลาวข้ามมาซื้อสินค้าไม่ถึง 10 ราย และมาเพียงวันละรอบเท่านั้น
นอกจากนี้ที่บริเวณคิวรถโดยสารประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว สภาพโดยทั่วไปเป็นเหมือนการปิดด่านโดยปริยายไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเลย มีเพียงไม่กี่คน มีเฉพาะชาวลาวข้ามมา ไม่มีชาวไทยข้ามไป เนื่องจากข้ามไปแล้วก็เข้าไปยังเวียงจันทน์ไม่ได้ ที่หนองคายก็ไม่มีการออกบัตรผ่านแดนชั่วคราว แต่ก็ยังต้องเดินรถปกติ เนื่องจากเป็นข้อกำหนดร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารสะพานมิตรภาพไทย- ลาว ที่ได้ทำข้อตกลงไว้
นอกจากนี้ร้านค้าปลอดภาษีทางการลาวก็ได้มีคำสั่งให้ปิดร้านทุกร้าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 ร้าน ไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าทุกชนิด จากเดิมที่เปิดเป็นบางร้าน หลังจากที่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นบริเวณสะพานมิตรภาพ คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้าย หรือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ป้องกันการก่อความไม่สงบในพื้นที่ช่วงการเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซี่ยนซัมมิตได้อย่างเต็มกำลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดหนองคายว่า บรรยากาศที่ท่าเทียบเรือหนองคาย เขตเทศบาลเมืองหนองคาย เมื่อ 29 พ.ย.47 เป็นไปด้วยความเงียบเหงา จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ท่าเทียบเรือยอดผู้ที่ผ่านเข้าออกที่บริเวณท่าเทียบเรือแห่งนี้ ลดลงจากเดิมมาก ประมาณ 90 % มีเพียงแม่ค้าชาวลาวบ้านท่าเดื่อ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่อยู่ตรงข้ามกับท่าเทียบเรือหนองคายเดินทางมายังหนองคายวันละไม่ถึง10 คน
แม่ค้าชาวลาวรายหนึ่ง บอกว่าสินค้าที่ซื้อจากหนองคายข้ามไปยัง สปป.ลาว ไม่สามารถนำผ่านเข้าไปกรุงเวียงจันทน์เหมือนช่วงปกติที่ผ่านมา เพราะทางการลาวห้ามนำเข้าสินค้าหรือนำผ่านเข้าไปอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทใดก็ตาม ซึ่งสินค้าที่ข้ามมาซื้อในช่วงนี้เป็นสินค้าประเภทที่นำไปจำหน่ายภายในหมู่บ้านท่าเดื่อเท่านั้น
ผู้ประกอบการเรือโดยสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้เที่ยวเรือแต่ละเที่ยวมีผู้โดยสารไม่เกินเที่ยวละ 3 คน จากเดิมที่มีผู้โดยสารช่วงปกติ 20 - 30 คนทำให้ระยะเวลาการออกเรือเลื่อนเวลาการออกเรือให้เหลือจำนวนเที่ยวน้อยลง โดยเฉลี่ยระยะนี้ประมาณ 1 ชม./1 เที่ยวเรือ หากผู้โดยสารหรือแม่ค้าที่มีรายได้พอประมาณก็จะใช้วิธีการเหมาลำเรือเพื่อไม่ให้เสียเวลารอผู้โดยสารรายอื่น ในราคาค่าเหมาเที่ยวละ 150 บาท
ส่วนเรือโดยสารลาวเองเมื่อได้ผู้โดยสาร 2-3 คน ก็จะมาส่งแล้วตีเรือกลับทันทีไม่เข้าคิวรอเหมือนเช่นเดิม เพื่อให้เรือโดยสารไทยมีรายได้บ้าง เพราะส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะเป็นชาวลาว ส่วนกรรมกรรับจ้างขนสินค้าลงเรือ ตอนนี้มีบางส่วนไม่ได้ทำงาน มาถึงท่าเทียบเรือแล้วก็ต้องกลับไป เนื่องจากไม่มีสินค้าให้ขนลงเรือเช่นเดิม บรรยากาศก็เป็นไปอย่างเงียบเหงาต่างรอคอยแม่ค้าชาวลาวที่จะนำสินค้ามาแต่ก็มีน้อยมาก
ด้านเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย บอกว่าท่าเรือแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้า แม่ค้า ทั้งชาวไทย ชาวลาว เข้าออกเป็นประจำ ที่มีอยู่ประมาณ 40 รายซึ่งแต่ละรายจะมีการเข้าออกวันละหลายรอบ แต่เมื่อทางการลาวเข้มงวดการเข้าออกประเทศ ทำให้มีเพียงพ่อค้าแม่ค้าชาวลาวข้ามมาซื้อสินค้าไม่ถึง 10 ราย และมาเพียงวันละรอบเท่านั้น
นอกจากนี้ที่บริเวณคิวรถโดยสารประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว สภาพโดยทั่วไปเป็นเหมือนการปิดด่านโดยปริยายไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเลย มีเพียงไม่กี่คน มีเฉพาะชาวลาวข้ามมา ไม่มีชาวไทยข้ามไป เนื่องจากข้ามไปแล้วก็เข้าไปยังเวียงจันทน์ไม่ได้ ที่หนองคายก็ไม่มีการออกบัตรผ่านแดนชั่วคราว แต่ก็ยังต้องเดินรถปกติ เนื่องจากเป็นข้อกำหนดร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารสะพานมิตรภาพไทย- ลาว ที่ได้ทำข้อตกลงไว้
นอกจากนี้ร้านค้าปลอดภาษีทางการลาวก็ได้มีคำสั่งให้ปิดร้านทุกร้าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 ร้าน ไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าทุกชนิด จากเดิมที่เปิดเป็นบางร้าน หลังจากที่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นบริเวณสะพานมิตรภาพ คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้าย หรือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ป้องกันการก่อความไม่สงบในพื้นที่ช่วงการเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซี่ยนซัมมิตได้อย่างเต็มกำลัง