xs
xsm
sm
md
lg

จี้กกต.ส่งร่างพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง "วิษณุ"ขีดเส้นต้องไม่เกิน10-15ธ.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วิษณุ”จี้ กกต.รีบส่งร่างพ.ร.ฎ เลือกตั้งโดยด่วน ขีดเส้นไม่ควรเกิน 10-15ธ.ค.นี้ อ้างลงคำนำหน้ายุ่งยาก ส่งผลวันเดือนปี อาจเคลื่อนได้ ขณะที่ กกต.เลื่อนถกวันเลือกตั้งไป 7ธ.ค. ด้าน“จรัล”หนุน 13 ก.พ.เหมาะสมให้จัดเลือกตั้ง เลขาฯ กกต.ชง 3 วันให้เลือก เผยข้อเสนอทุกแนวทางสามารถจัดได้ ไร้ปัญหา

เมื่อวานนี้ (30พ.ย.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.)ส่งหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ส่งร่างพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งให้ครม.ทราบกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ว่า กกต.จะทำหน้าที่ยกร่างพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นสิทธิและอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ใน มาตรา 115 และพ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 7 โดยกกต.จะกำหนดวัน เดือนปี มาเรียบร้อย และส่งให้ครม. ซึ่งครม.จะแนะนำหรือเสนออะไรก็ได้ แต่ถ้า กกต.ยืนยันตามที่ส่งมา ก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา จากนั้นครม.มีหน้าที่นำพระราชกฤษฎีกา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยเรียบร้อยแล้ว นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ลงนามรับสนอง

“สาเหตุที่ กกต.ต้องส่งร่างพระราชกฤษฎีกามาที่รัฐบาล เพราะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งเราได้บอกกับเลขากกต.เมื่อครั้งที่มาชี้แจงขอเงิน 200 ล้านบาทไปรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง โดยบอกให้กรุณาเร่งเสนอร่างพระราชกฤษฎีกามาโดยด่วน เพราะเดือนสุดท้ายเป็นปลายปี เวลาที่ได้รับมาและนำขึ้นถวายนั้น การจะลงคำนำข้างหน้าจะยุ่งยากมาก ดังนั้นควรจะทำมาเสียแต่เนิ่นๆ เราจะได้ถวายเสียแต่เนิ่นๆ ซึ่งจริงๆแล้ว ถ้ากกต.ทำมาช้า เราก็ต้องถวายอยู่ดี แต่เราเคยมีประสบการณ์ว่า การถวายกฎหมายใดในเดือนสุดท้าย โอกาสที่วันเดือนปีเคลื่อนจะมี เพราะเมื่อขึ้นวันที่ 1 ม.ค.ปี พ.ศ.ก็จะเปลี่ยนไป เช่น ถ้าปีนี้เป็นปีที่ 59 แต่พอขึ้นเดือนม.ค.จะกลายเป็นปีที่ 60 ซึ่งของพวกนี้ต้องใส่ตั้งแต่แรก เมื่อถวายไปแล้วก็ไม่รู้ว่าท่านจะถวายลงมาเมื่อไร จึงได้ประสานกกต.ให้รีบทำมา เพราะเราอยากถวายกฎหมายทุกอย่างให้เร็วที่สุด จริงๆแล้วหลังวันที่ 10-15 ธ.ค.ไม่ควรจะถวายอะไรแล้วด้วยซ้ำ”นายวิษณุ กล่าว

**กกต.เลื่อนถกวันเลือกตั้งไป 7 ธ.ค.

นายจรัล บูรณพันธุ์ศรี กกต.เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวานนี้ว่า ยังไม่ได้มีการหารือถึงการร่นวันเลือกตั้ง และที่ผ่านมากกต.ยังไม่เคยมีมติว่าจะให้วันที่ 13 ก.พ.47เป็นวันเลือกตั้ง กำหนดดังกล่าวเป็นในระดับเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องมีการหารือในที่ประชุมกกต.อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวแม้จะไม่ต้องมีมติเป็นเอกฉันท์แต่ควรให้กกต.ทุกคนได้อยู่ประชุมพร้อมกันเพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ

นายจรัล กล่าวอีกว่า กกต.ได้เคยพูดคุยถึงระยะเวลาที่เหมาะสม และส่วนตัวเห็นว่าวันที่ 13 ก.พ.มีความเหมาะสมแล้ว ส่วนวันที่ 6 ก.พ.นั้น คงจะไม่เหมาะ เพราะถือเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน เราต้องเคารพสิทธิ์ของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่จะไม่สะดวกในการเดินทางมาใช้สิทธิ์

อย่างไรก็ตามการจะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันใด สำคัญที่สุดคือต้องคำนึงถึงระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เรื่องของการสมัครรับเลือกตั้ง กฎหมายเขียนให้อำนาจผอ.กกต.เขตในการวินิจฉัยคุณสมบัติเป็นเวลา 7 วัน หากไม่ประกาศรับสมัครก็ให้สิทธิ์ผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาในช่วง 7 วันต่อมา และตามระเบียบศาลฎีกา ได้เขียนให้ศาลต้อพิจารณาคำอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน ขั้นตอนตรงนี้จะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 12 วัน เราจึงต้องนำสิ่งเหล่านี้มาพิจารณาด้วย รวมถึงสิทธิ์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ดังนั้นการร่นวันเลือกตั้งหรือไม่ต้องคิดว่าจะไม่ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกับพรรคการเมืองใด และต้องไม่ทำให้เกิดข้อครหาได้ ทั้งนี้ทำอะไรไปก็ต้องคำนึงถึงการให้ประชาชนไว้ใจกกต.ด้วย

ด้านพล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการกกต.กล่าวว่า ที่ไม่ไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือในที่ประชุม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ แต่ได้มีการบรรจุเรื่องดังกล่าวไว้ในวาระการประชุมแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติได้เสนอวันเลือกตั้งเป็น 3 วัน คือวันที่ 30 ม.ค. , 6 ก.พ.และ 13 ก.พ. พร้อมกับเหตุผลสนับสนุนต่อ กกต.เรียบร้อยแล้ว แต่คงจะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมวันที่ 7 ธ.ค.นี้ เนื่องจาก พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ เดินทางกลับมาจากแอฟริกา และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ เดินทางกลับจากประเทศไต้หวันแล้ว

ทั้งนี้ไม่ว่ากกต.จะเลือกวันใดเป็นวันเลือกตั้ง ก็อยู่ในวิสัยที่กกตจัดการเลือกตั้งได้อย่างไม่มีปัญหา โดยวันที่ 30 ม.ค. แม้จะกระชั้นชิดแต่ก็สามารถร่นระยะเวลาในการรับสมัครและตรวจคุณสมบัติซึ่งทำไปพร้อม ๆ กันได้

**“ชวน”กรีดถ้าเชื่อดวงก็ไม่ต้องอาย

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า นายกรัฐมนตรี ต้องการให้เลื่อนการเลือกตั้งให้เร็วขึ้น เพราะเชื่อเรื่องดวง ว่า ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่หากเป็นอย่างนั้นก็ควรบอกความจริงแก่ประชาชน ไม่ใช่บอกว่า รังเกียจโหราศาสตร์ ไสยศาสาตร์ แต่ตัวเองทำอยู่ทุกวัน อย่างนี้ก็หลอกลวง เชื่อแล้วทำเป็นปฏิเสธ ดูถูกดูแคลน แต่กลับทำอย่างนั้น ก็เรียกว่าไม่ตรงไปตรงมา ไม่ใช่คนที่น่าเชื่อถือ

ส่วนกรณีที่ กกต.เสนอยุบสภา เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดนั้น นายชวน กล่าวว่า คงยุบไม่ได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดไปแล้ว นักการเมืองต้องรักษาคำพูด

“ไม่เข้าใจว่าจะเร่งรีบทำไม เพราะมีหลายอย่างต้องเร่งรีบกว่า แต่กลับไม่ทำ เช่น การตั้งกมธ.ที่ผ่านมา รัฐบาลใช้เวลา 100 กว่าวัน อาจเป็นเพราะรัฐบาลต้องถูก กมธ.ตรวจสอบ จึงถ่วงเวลา ดังนั้น หากจะอ้างอะไรก็ควรให้สอดคล้องกันทุกรื่อง และในช่วงรัฐบาลรักษาการณ์ สภาก็ยังทำหน้าที่ได้เหมือนเดิม หากรัฐบาลขอเปิดประชุมวิสามัญ ก็ทำได้ คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ก็ทำหน้าที่ปกติ การอ้างความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะปัญหาเกิดจากการกระทำของรัฐบาล ดังนั้น การที่บอกว่าจะเกิดช่องว่าง จึงไม่เป็นความจริง” นายชวน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะเบาลงหลังการเลือกตั้ง นายชวนหัวเราะ และตอบว่า คงหมายถึงเปลี่ยนรัฐบาล เพราะถ้าไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ นโยบายก็จะต่างไป เช่น นโยบายความมั่นคงในจังหวัดภาคใต้ ความมั่นคงของชาติ และความมั่นคงในระดับภูมิภาคของพรรคประชาธิปัตย์ตอนเป็นรัฐบาล ก็มีบทพิสูจน์แล้วว่า ทำให้สถานการณ์คลี่คลายตามลำดับ แต่รัฐบาลนี้ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา มีความสามารถทำให้คนตายจำนวนมาก อย่างที่ไม่มีรัฐบาลชุดใดทำได้มาก่อน เกิดความขัดแย้งของ 2 ศาสนา อย่างที่ไม่เคยปรากฏ เป็นเรื่องที่ประชาชนเปรียบเทียบได้ มั่นใจได้ว่า หากเปลี่ยนรัฐบาล คงไม่มีใครกำหนดนโยบายเหมือนพรรคไทยรักไทย ด้วยการฆ่าคนและยิงทิ้ง

**เร่งวันเลือกตั้งไม่เกี่ยวกับดวง

นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรี ต้องการเลื่อนวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้น เนื่องจากมีความเชื่อว่าวันที่ 13 ก.พ.เป็นวันไม่ดี ว่า จริงๆ แล้วเป็นเพราะมีประเด็นทางการเมืองขึ้นมา จึงพยายามพูดให้เสียหายมากกว่า แต่รัฐบาลไม่ได้มีเป้าว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งวันไหน อย่างไร แต่สาเหตุมาจากการพูดคุยในเรื่องของปัญหาภาคใต้ที่ต่อเนื่อง และมีบางท่านถามขึ้นมาว่าวันเลือกตั้งเป็นวันไหนกันแน่ จึงมีการเสนอและแสดงความคิดเห็นกันว่าเลือกตั้งเร็วที่สุด และช้าที่สุดวันไหน เพราะมีการห่วงใยว่าในภาคใต้มีขบวนการที่ทำให้เกิดความรุนแรง ฉะนั้นถ้าเลือกตั้งให้เร็วขึ้นก็คงจะดี ซึ่งเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นกันในวงสนทนาเล็กๆ และเมื่อมีข่าวออกไป ทางพรรคประชาธิปัตย์ พรรคมหาชน ก็เดือดเนื้อร้อนใจ และพยายามจะขยายผลให้เป็นผลเสียทางการเมืองกับพรรคไทยรักไทย

“อย่าไปขยายความเรื่องการเมืองกันมากไป ต่างคนต่างไปเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง และสู้กันในกติกาดีกว่า วันนี้ไปถึงเรื่องไสยศาสตร์กันแล้ว สงสัยหัวหน้าพรรคบางพรรคคง จะงมงายกับเรื่องนี้มากไป”นางสุดารัตน์ กล่าว

**มหาชนโวยถูกบีบเหมือนแซนด์วิช

นายอรรคพล สรสุชาติ รองหัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวว่า พรรคมหาชนไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเลือกวันใดก็ตาม แต่พรรคต้องการเพียงให้การเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยเฉพาะกกต.ต้องมีความพร้อมในการเตรียมการ และขอย้ำอีกครั้งว่า หากจะให้เลือกตั้งในวันที่ 30ม.ค.48 เป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะจากการสอบถามไปยังประเทศต่าง ๆ พบว่ายังไม่ได้รับการประสานงานเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจาก กกต.แต่อย่างใด รวมทั้งการนับวันผู้มีอายุครบ 18 ปีที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ไม่ทราบว่า กกต.จะเริ่มนับวันใด และ ที่สำคัญที่สุดคือ การจัดเตรียมบุคคลากรรวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ

“ผมไม่อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่อัปยศ เป็นการเลือกตั้งสีเทา และไม่อยากให้มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้รัฐบาลสามารถชี้นำได้ พรรคมหาชนต้องการเห็นความเป็นกลางของระบบที่ประชาชนเชื่อถือได้ ไม่อยากให้ต้องมาเสียงบประมาณเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งโดยไม่จำเป็น อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งการถูกกทม.สั่งปลดป้ายหาเสียง กับการร่นวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้น ทำให้พรรคมหาชนเจอบีบ 2 ข้าง อย่างนี้ก็หนักพอ ๆ กับโดนแซนด์วิช” นายอรรคพล กล่าว

**ปฏิเสธบีบ กกต.ร่นวันเลือกตั้ง

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลน.)ทำหนังสือเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่งร่างพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งให้คณะรัฐมนตรีทราบกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ว่า เหตุผลคือ สำนักเลขาธิการครม.จะต้องทำเรื่องทูลเกล้าฯถวาย เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีเวลาพิจารณาในการลงพระปรมาภิไธย แต่จะประกาศพระราชกฤษฎีกา การเลือกตั้งก่อนวันที่ 5 ธ.ค.นี้ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าเมื่อสภาผู้แทนราษฎรปิดสมัยการประชุม หรือสิ้นอายุ พระมหากษัตริย์ จะได้ทรงตราพระราชกฤษฎีกา เพื่อให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป

ดังนั้น จะประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา ให้มีการเลือกตั้งทั่วไปไม่ได้จนกว่าสภาฯจะสิ้นอายุ ส่วนวันเลือกตั้งจะเป็นวันไหน ต้องดูในพระราชกฤษฎีกา ทั้งนี้ที่มีข่าวว่ารัฐบาลพยายามจะให้มีการเลือกตั้งก่อนวันที่ 5 ม.ค.นั้น เป็นไปไม่ได้ เป็นการฟังไม่ได้ศัพท์ และจับไปกระเดียด
กำลังโหลดความคิดเห็น