กกต.ยังไม่หารือเรื่องร่นวันเลือกตั้ง “วาสนา”ชี้ไม่เกินกลาง ธ.ค.รู้แน่ เผยอยากให้เลือกตั้งเร็ว แต่ต้องคำนึงฝ่ายปฏิบัติ และไม่ลิดรอนสิทธิผู้เกี่ยวข้อง "ปริญญา"ระบุ 13ก.พ.เหมาะสุด ยันกระแสการเมืองกดดันเปลี่ยนวันเลือกตั้งไมได้ ด้านกองสลากฯระบุ หากเลือกตั้ง 30 ม.ค.พิมพ์บัตรปาร์ตี้ลิสต์ไม่ทันแน่ "สุดารัตน์"อ้างนายกฯห่วงปัญหาภาคใต้ ไม่อยากให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองนาน ยันไม่เกี่ยวกับโหราศาสตร์ ดวงเมือง
เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า จะมีการพิจารณา เรื่องการเลื่อนกำหนดวันเลือกให้เร็วขึ้นตามที่รัฐบาลต้องการหรือไม่
พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานกกต.กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ไม่ได้มีการหารือเกี่ยวกับการเลื่อนวันเลือกตั้ง แต่อาจจะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุม กกต.วันนี้ (30 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้รับการประสานจากเลขาธิการครม.ว่าให้ กกต.เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งไปยัง ครม.ภายในวันที่ 16 ธ.ค.นี้
ประธานกกต.ยืนยันว่า ไม่ได้รับการประสานมาจากรัฐบาลว่าขอให้กำหนดวันเลือกตั้งเร็วขึ้น แต่การพูดคุยหรือหารือในเรื่องของวันเลือกตั้งมีการพูดเป็นการทั่วไป เช่นไปเจอใครก็จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ความเห็นนั้นไม่สามารถบีบบังคับ หรือมาแทรกแซง กกต.ได้ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบทำอะไรเร็วๆ ดังนั้นเมื่อจะต้องมีการเลือกตั้ง ก็อยากจะเลือกให้เสร็จโดยเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานว่าต้องมีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย
“จะเลือกวันไหนตอนนี้ยังตอบไม่ได้ แต่รับรองไม่เกินกลางเดือนธ.ค.ต้องรู้แน่ ส่วนที่พูดกันว่า กกต.กำหนดให้วันที่ 13ก.พ.เป็นวันเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่กำหนดการที่ตายตัว ดังนั้นไม่มีใครที่จะมาบีบได้ เพราะการจะกำหนดวันไหนเป็นวันเลือกตั้ง ต้องคำนึงถึงการปฏิบัติงานว่าต้องให้เป็นไปโดยความเรียบร้อย ทำแล้วไมผิดกฎหมายและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องพร้อม”
พล.อ.วาสนา ยังกล่าวอีกว่า การจะกำหนดวันใดเป็นวันเลือกตั้งนั้น กกต.จะยึดหลักว่า ต้องไม่ไป กระทบสิทธิของบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เช่น ในการสมัครรับเลือกตั้ง กฎหมายกำหนดให้เวลา 7 วัน กับผองกกต.เขต ในการใช้ดุลยพินิจว่าจะประกาศให้บุคคลนั้นได้รับการเป็นผู้สมัครหรือไม่ หรือระเบียบของศาลฎีกา ที่กำหนดให้ศาลฎีกาพิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศให้เป็นผู้สมัครภายใน 7 วัน และการเพิ่มชื่อถอนชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังไม่รวมไปถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่จะใช้ในการเลือกตั้งประมาณล้านคนเศษ ถ้าอบรมไม่ดี ก็จะนำมาสู่ปัญหาการเลือกตั้งไม่เรียบร้อย ระยะเวลาในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จะไม่นำเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ หรือประเด็นทางการเมืองมาพิจารณา
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากข่าวว่ารัฐบาลขอให้มีการร่นวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้น ปรากฏว่า หน่วยงานสนับสนุนการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย การสื่อสารแห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษา ต่างก็ต้องการให้กกต.แสดงความชัดเจนโดยเร็ว เพราะหากจะมีการร่นวันเลือกตั้งจริง ก็จะต้องมีการปรับแผนใหม่ทั้งหมด โดยขณะนี้ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 48 ล้านใบ ได้แจ้งมายัง กกต. แล้วว่า หากร่นวันเลือกตั้งมาเป็นวันที่ 30 ม.ค.ไม่สามารถพิมพ์บัตรเลือกตั้งให้กกต.ได้ทัน
อย่างไรก็ตามน่า เชื่อว่ากกต.จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้ได้ข้อยุติภายในวันนี้ เนื่องจากเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งกฎหมายบัญญัติให้เป็นมติเอกฉันท์ ซึ่งองค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 4 คน และขณะนี้องค์ประชุมเหลือเพียง 4 คนโดย พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ กกต.เดินทางไปแอฟริกา ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.มีกำหนดกลับวันที่ 6 ธ.ค. และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ ก็มีกำหนดการเดินทางไปตรวจความพร้อมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ประเทศไต้หวัน ในวันที่1 ธ.ค.มีกำหนดกลับในวันที่ 4 ธ.ค. และถ้าไม่มีความชัดเจนในวันนี้ ก็ต้องรอไปถึงวันที่ 6 ธ.ค.ซึ่งจะมีผลต่อหน่วยงานสนับสนุน
ด้านนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต.กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า วันที่กกต.กำหนดไว้เดิม คือวันที่ 13 ก.พ.เหมาะสมที่สุด ส่วนวันอื่นๆ ไม่ว่าจะ 6 ก.พ.หรือ 30 ม.ค.นั้นยังไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจน ต้องดูข้อกฎหมายในการปฏิบัติด้วย
อย่างไรก็ตาม จะกำหนดวันใดเป็นวันเลือกตั้งต้องหารือกันในที่ประชุมกกต.อีกครั้ง และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย ทั้งนี้ยืนยันว่า กระแสต่างๆในขณะนี้ไม่สามารถจะมากดดันกกต.ได้ เพราะหากผิดกฎหมาย กกต.ก็จะไม่ทำเด็ดขาด
“ผมเห็นว่า วันที่เหมาะสมที่สุดคือ วันที่ 13 ก.พ.รองลงมาก็คือวันที่ 6 ก.พ. ส่วนกระแสที่อยากให้กกต.จัดการเลือกตั้งในวันที่ 30 ม.ค.นั้น ต้องดูว่าจะสามารถทำได้ทันหรือไม่ เพราะเลือกตั้งเร็วขึ้น อาจจะทำให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบกันพอสมควร ซึ่งกกต.กำหนดวันไหนเป็นวันเลือกตั้ง ก็จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าพอสมควรอยู่แล้ว และทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปี 48 นี้จะมีการเลือกตั้งแน่นอน ดังนั้นทุกพรรคสามารถหาเสียงได้ในตอนนี้หากกลัวเสียเปรียบ” นายปริญญา กล่าว
**อ้างไม่อยากให้เกิดสุญญากาศนาน
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึง กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องการเลื่อนการเลือกตั้งให้เร็วขึ้น ว่า นายกรัฐมนตรีพูดในครม.ว่า เป็นห่วงปัญหาภาคใต้ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เสียที และได้ถามขึ้นมาว่าทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้กำหนดวันเลือกตั้งหรือยังว่าเป็นวันไหน และก็มีตัวเลขวันที่ 30 ม.ค.48 และ 20 ก.พ.48 ออกมา เพราะถ้าเลือกตั้งเร็วก็จะทำให้เกิดสูญญากาศสั้น และ ถ้าสูญญากาศสั้นก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการฉวยโอกาสของการกระทำการใดๆ ได้น้อย ไม่ได้มีเรื่องของความได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไร
“การที่ ปชป.พยายามที่ขยายความเรื่องนี้ก็เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคไทยรักไทย บอกว่าเป็นการชิงความได้เปรียบของทรท.ซึ่งถ้าทรท.คิดอย่างนั้นจริง เรายุบสภาตอนไหนก็ได้ ที่ผ่านมามีคนยุให้นายกรัฐมนตรียุบสภา เพราะกระแสของพรรคกำลังดี จะได้ชิงความได้เปรียบ แต่นายกฯบอกว่า ถ้ายุบสภาก็ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไรมากมายหรอก ควรจะอยู่ให้ครบเทอมดีกว่า และทุกพรรคก็รู้ดีกว่าอายุของรัฐบาลนี้จะครบเทอมวันที่ 5 ม.ค.48 ดังนั้นก็แล้วแต่พรรคไหนจะใช้กลยุทธอะไรเพื่อชิงความได้เปรียบ ส่วนวันเลือกตั้งจะเป็นวันไหนอยู่ที่กกต.จะเป็นผู้กำหนด แต่รัฐบาลแค่เป็นห่วงเท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้สั่งให้ใครไปประสานกับกกต.เรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ไม่มี แต่เรื่องที่พูดกันไม่รู้หลุดไปถึงนักข่าวได้อย่างไร และก็มีการไปถามนายกฯซ้ำอีกที ก็เท่านั้น เมื่อถามว่า ในทางโหราศาสตร์มีการระบุว่า ดวงการเมืองขณะนี้ควรให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 30 ม.ค. นางสุดารัตน์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ และหมอทางโหราศาสตร์ก็ออกมาบอกหลังจากมีข่าวกำหนดวันไปแล้ว ถ้าแม่น ก็ควรจะออกมาก่อนที่จะมีข่าวนี้เกิดขึ้น
**ยิ่งนานรัฐบาลยิ่งเสียคะแนน
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ไม่ว่าใครจะล็อบบี้อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญก็คือ กกต.ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเป็นความหวังเรื่องความเป็นอิสระและความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นกกต.เคยบอกว่ารัฐบาลนี้ครบวาระวันที่ 5 ม.ค. และช่วงเวลาเลือกตั้งน่าจะเป็น 13 ก.พ. ดังนั้น การอธิบายเหตุผลข้อกังวลและการเปลี่ยนแปลงความคิดให้เร็วขึ้นจะสะท้อนให้เห็นว่า การกำหนดไว้ตอนแรกไม่รอบคอบ ส่งผลต่อการเชื่อมั่นของประชาชน ทั้งนี้ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่ถ้าสมมติอยากเลือกตั้งเร็วจริงก็อยากเสนอแนะให้รัฐบาลยุบสภาก่อนครบวาระหากไม่ติดเรื่องการอยู่ครบวาระ
ส่วนที่รัฐบาลอ้างมีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้น และมีการแจกจ่ายวีซีดีให้ประชาชนนั้น เห็นว่าไม่ใช่เหตุผล เพราะรัฐบาลมีอำนาจรัฐครบถ้วนอยู่ในมือ และมีกลไกและวิสัยที่จะจัดการได้อยู่แล้ว ดังนั้นคิดว่ารัฐบาลคงเห็นว่าหากยืดระยะเวลาออกไป เวทีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจะมีมากจนทำให้รัฐบาลเสียคะแนน อย่างไรก็ตามยอมรับว่า หากเลือกตั้งเร็วจะทำให้พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่เสียเปรียบ หรือแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง เพราะระยะเวลาในการปราศัยหาเสียงก็ทำได้เพียงเป็นจุดๆ เมื่อเทียบกับนายกฯที่พูดผ่านรายการทุกวันเสาร์ มีคนฟังหลายล้านคนในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นรัฐบาลไม่น่าคิดเล็กคิดน้อยเอาเปรียบเพื่อน ควรเปิดใจกว้างมากกว่า
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่ยอมยุบสภา เพราะตามหลักโหราศาสตร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการทำให้เป็นประวัติศาสตร์ให้ได้ว่าสภาอยู่ครบเทอม คล้ายกับข่มดวงของสภา และข่มดวงของฝ่ายค้าน ดังนั้นนายกฯ คงจะปล่อยให้ครบวาระในการบริหารประเทศ แต่ไปเร่งรัดกกต.แทน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเป็นเรื่องของนายกฯ และพรรคไทยรักไทยมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องโหราศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง อาจเป็นไปได้ว่าหากหย่อนบัตรลงคะแนนในวันที่ 13 ก.พ.จะไปข่มดวงของนายกฯ และการบริหารประเทศ ทำให้ดวงวิกฤต จึงต้องการแก้ไขวันเลือกตั้งให้เป็นวันที่ 30 ม.ค.แทน
ส่วนกรณีที่พรรคไทยรักไทยเห็นว่า ถ้าเลื่อนการเลือกตั้งเร็วขึ้นจะไม่เกิดสูญญากาศทางการเมืองนั้น นายเอนก กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะถ้ากลัวจะเกิดสูญญากาศทางการเมืองทำไมถึงไม่ยุบสภาวันนี้ พรุ่งนี้เสียเลย เหตุผลดังกล่าวฟังไม่ขึ้น
เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า จะมีการพิจารณา เรื่องการเลื่อนกำหนดวันเลือกให้เร็วขึ้นตามที่รัฐบาลต้องการหรือไม่
พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานกกต.กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ไม่ได้มีการหารือเกี่ยวกับการเลื่อนวันเลือกตั้ง แต่อาจจะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุม กกต.วันนี้ (30 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้รับการประสานจากเลขาธิการครม.ว่าให้ กกต.เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งไปยัง ครม.ภายในวันที่ 16 ธ.ค.นี้
ประธานกกต.ยืนยันว่า ไม่ได้รับการประสานมาจากรัฐบาลว่าขอให้กำหนดวันเลือกตั้งเร็วขึ้น แต่การพูดคุยหรือหารือในเรื่องของวันเลือกตั้งมีการพูดเป็นการทั่วไป เช่นไปเจอใครก็จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ความเห็นนั้นไม่สามารถบีบบังคับ หรือมาแทรกแซง กกต.ได้ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบทำอะไรเร็วๆ ดังนั้นเมื่อจะต้องมีการเลือกตั้ง ก็อยากจะเลือกให้เสร็จโดยเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานว่าต้องมีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย
“จะเลือกวันไหนตอนนี้ยังตอบไม่ได้ แต่รับรองไม่เกินกลางเดือนธ.ค.ต้องรู้แน่ ส่วนที่พูดกันว่า กกต.กำหนดให้วันที่ 13ก.พ.เป็นวันเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่กำหนดการที่ตายตัว ดังนั้นไม่มีใครที่จะมาบีบได้ เพราะการจะกำหนดวันไหนเป็นวันเลือกตั้ง ต้องคำนึงถึงการปฏิบัติงานว่าต้องให้เป็นไปโดยความเรียบร้อย ทำแล้วไมผิดกฎหมายและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องพร้อม”
พล.อ.วาสนา ยังกล่าวอีกว่า การจะกำหนดวันใดเป็นวันเลือกตั้งนั้น กกต.จะยึดหลักว่า ต้องไม่ไป กระทบสิทธิของบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เช่น ในการสมัครรับเลือกตั้ง กฎหมายกำหนดให้เวลา 7 วัน กับผองกกต.เขต ในการใช้ดุลยพินิจว่าจะประกาศให้บุคคลนั้นได้รับการเป็นผู้สมัครหรือไม่ หรือระเบียบของศาลฎีกา ที่กำหนดให้ศาลฎีกาพิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศให้เป็นผู้สมัครภายใน 7 วัน และการเพิ่มชื่อถอนชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังไม่รวมไปถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่จะใช้ในการเลือกตั้งประมาณล้านคนเศษ ถ้าอบรมไม่ดี ก็จะนำมาสู่ปัญหาการเลือกตั้งไม่เรียบร้อย ระยะเวลาในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จะไม่นำเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ หรือประเด็นทางการเมืองมาพิจารณา
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากข่าวว่ารัฐบาลขอให้มีการร่นวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้น ปรากฏว่า หน่วยงานสนับสนุนการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย การสื่อสารแห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษา ต่างก็ต้องการให้กกต.แสดงความชัดเจนโดยเร็ว เพราะหากจะมีการร่นวันเลือกตั้งจริง ก็จะต้องมีการปรับแผนใหม่ทั้งหมด โดยขณะนี้ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 48 ล้านใบ ได้แจ้งมายัง กกต. แล้วว่า หากร่นวันเลือกตั้งมาเป็นวันที่ 30 ม.ค.ไม่สามารถพิมพ์บัตรเลือกตั้งให้กกต.ได้ทัน
อย่างไรก็ตามน่า เชื่อว่ากกต.จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้ได้ข้อยุติภายในวันนี้ เนื่องจากเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งกฎหมายบัญญัติให้เป็นมติเอกฉันท์ ซึ่งองค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 4 คน และขณะนี้องค์ประชุมเหลือเพียง 4 คนโดย พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ กกต.เดินทางไปแอฟริกา ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.มีกำหนดกลับวันที่ 6 ธ.ค. และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ ก็มีกำหนดการเดินทางไปตรวจความพร้อมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ประเทศไต้หวัน ในวันที่1 ธ.ค.มีกำหนดกลับในวันที่ 4 ธ.ค. และถ้าไม่มีความชัดเจนในวันนี้ ก็ต้องรอไปถึงวันที่ 6 ธ.ค.ซึ่งจะมีผลต่อหน่วยงานสนับสนุน
ด้านนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต.กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า วันที่กกต.กำหนดไว้เดิม คือวันที่ 13 ก.พ.เหมาะสมที่สุด ส่วนวันอื่นๆ ไม่ว่าจะ 6 ก.พ.หรือ 30 ม.ค.นั้นยังไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจน ต้องดูข้อกฎหมายในการปฏิบัติด้วย
อย่างไรก็ตาม จะกำหนดวันใดเป็นวันเลือกตั้งต้องหารือกันในที่ประชุมกกต.อีกครั้ง และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย ทั้งนี้ยืนยันว่า กระแสต่างๆในขณะนี้ไม่สามารถจะมากดดันกกต.ได้ เพราะหากผิดกฎหมาย กกต.ก็จะไม่ทำเด็ดขาด
“ผมเห็นว่า วันที่เหมาะสมที่สุดคือ วันที่ 13 ก.พ.รองลงมาก็คือวันที่ 6 ก.พ. ส่วนกระแสที่อยากให้กกต.จัดการเลือกตั้งในวันที่ 30 ม.ค.นั้น ต้องดูว่าจะสามารถทำได้ทันหรือไม่ เพราะเลือกตั้งเร็วขึ้น อาจจะทำให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบกันพอสมควร ซึ่งกกต.กำหนดวันไหนเป็นวันเลือกตั้ง ก็จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าพอสมควรอยู่แล้ว และทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปี 48 นี้จะมีการเลือกตั้งแน่นอน ดังนั้นทุกพรรคสามารถหาเสียงได้ในตอนนี้หากกลัวเสียเปรียบ” นายปริญญา กล่าว
**อ้างไม่อยากให้เกิดสุญญากาศนาน
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึง กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องการเลื่อนการเลือกตั้งให้เร็วขึ้น ว่า นายกรัฐมนตรีพูดในครม.ว่า เป็นห่วงปัญหาภาคใต้ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เสียที และได้ถามขึ้นมาว่าทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้กำหนดวันเลือกตั้งหรือยังว่าเป็นวันไหน และก็มีตัวเลขวันที่ 30 ม.ค.48 และ 20 ก.พ.48 ออกมา เพราะถ้าเลือกตั้งเร็วก็จะทำให้เกิดสูญญากาศสั้น และ ถ้าสูญญากาศสั้นก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการฉวยโอกาสของการกระทำการใดๆ ได้น้อย ไม่ได้มีเรื่องของความได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไร
“การที่ ปชป.พยายามที่ขยายความเรื่องนี้ก็เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคไทยรักไทย บอกว่าเป็นการชิงความได้เปรียบของทรท.ซึ่งถ้าทรท.คิดอย่างนั้นจริง เรายุบสภาตอนไหนก็ได้ ที่ผ่านมามีคนยุให้นายกรัฐมนตรียุบสภา เพราะกระแสของพรรคกำลังดี จะได้ชิงความได้เปรียบ แต่นายกฯบอกว่า ถ้ายุบสภาก็ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไรมากมายหรอก ควรจะอยู่ให้ครบเทอมดีกว่า และทุกพรรคก็รู้ดีกว่าอายุของรัฐบาลนี้จะครบเทอมวันที่ 5 ม.ค.48 ดังนั้นก็แล้วแต่พรรคไหนจะใช้กลยุทธอะไรเพื่อชิงความได้เปรียบ ส่วนวันเลือกตั้งจะเป็นวันไหนอยู่ที่กกต.จะเป็นผู้กำหนด แต่รัฐบาลแค่เป็นห่วงเท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้สั่งให้ใครไปประสานกับกกต.เรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ไม่มี แต่เรื่องที่พูดกันไม่รู้หลุดไปถึงนักข่าวได้อย่างไร และก็มีการไปถามนายกฯซ้ำอีกที ก็เท่านั้น เมื่อถามว่า ในทางโหราศาสตร์มีการระบุว่า ดวงการเมืองขณะนี้ควรให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 30 ม.ค. นางสุดารัตน์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ และหมอทางโหราศาสตร์ก็ออกมาบอกหลังจากมีข่าวกำหนดวันไปแล้ว ถ้าแม่น ก็ควรจะออกมาก่อนที่จะมีข่าวนี้เกิดขึ้น
**ยิ่งนานรัฐบาลยิ่งเสียคะแนน
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ไม่ว่าใครจะล็อบบี้อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญก็คือ กกต.ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเป็นความหวังเรื่องความเป็นอิสระและความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นกกต.เคยบอกว่ารัฐบาลนี้ครบวาระวันที่ 5 ม.ค. และช่วงเวลาเลือกตั้งน่าจะเป็น 13 ก.พ. ดังนั้น การอธิบายเหตุผลข้อกังวลและการเปลี่ยนแปลงความคิดให้เร็วขึ้นจะสะท้อนให้เห็นว่า การกำหนดไว้ตอนแรกไม่รอบคอบ ส่งผลต่อการเชื่อมั่นของประชาชน ทั้งนี้ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่ถ้าสมมติอยากเลือกตั้งเร็วจริงก็อยากเสนอแนะให้รัฐบาลยุบสภาก่อนครบวาระหากไม่ติดเรื่องการอยู่ครบวาระ
ส่วนที่รัฐบาลอ้างมีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้น และมีการแจกจ่ายวีซีดีให้ประชาชนนั้น เห็นว่าไม่ใช่เหตุผล เพราะรัฐบาลมีอำนาจรัฐครบถ้วนอยู่ในมือ และมีกลไกและวิสัยที่จะจัดการได้อยู่แล้ว ดังนั้นคิดว่ารัฐบาลคงเห็นว่าหากยืดระยะเวลาออกไป เวทีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจะมีมากจนทำให้รัฐบาลเสียคะแนน อย่างไรก็ตามยอมรับว่า หากเลือกตั้งเร็วจะทำให้พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่เสียเปรียบ หรือแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง เพราะระยะเวลาในการปราศัยหาเสียงก็ทำได้เพียงเป็นจุดๆ เมื่อเทียบกับนายกฯที่พูดผ่านรายการทุกวันเสาร์ มีคนฟังหลายล้านคนในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นรัฐบาลไม่น่าคิดเล็กคิดน้อยเอาเปรียบเพื่อน ควรเปิดใจกว้างมากกว่า
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่ยอมยุบสภา เพราะตามหลักโหราศาสตร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการทำให้เป็นประวัติศาสตร์ให้ได้ว่าสภาอยู่ครบเทอม คล้ายกับข่มดวงของสภา และข่มดวงของฝ่ายค้าน ดังนั้นนายกฯ คงจะปล่อยให้ครบวาระในการบริหารประเทศ แต่ไปเร่งรัดกกต.แทน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเป็นเรื่องของนายกฯ และพรรคไทยรักไทยมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องโหราศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง อาจเป็นไปได้ว่าหากหย่อนบัตรลงคะแนนในวันที่ 13 ก.พ.จะไปข่มดวงของนายกฯ และการบริหารประเทศ ทำให้ดวงวิกฤต จึงต้องการแก้ไขวันเลือกตั้งให้เป็นวันที่ 30 ม.ค.แทน
ส่วนกรณีที่พรรคไทยรักไทยเห็นว่า ถ้าเลื่อนการเลือกตั้งเร็วขึ้นจะไม่เกิดสูญญากาศทางการเมืองนั้น นายเอนก กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะถ้ากลัวจะเกิดสูญญากาศทางการเมืองทำไมถึงไม่ยุบสภาวันนี้ พรุ่งนี้เสียเลย เหตุผลดังกล่าวฟังไม่ขึ้น