สคบ.แนะประชาชนและนักเก็งกำไรทองคำตรวจสอบราคาขายคืนต้องถูกหักไม่เกินกว่า 5% ของราคาปัจจุบัน ย้ำต้องรักษาสิทธิไม่ให้ร้านทองเอาเปรียบ เผยบังคับใช้ตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา ขู่เชือดร้านทองขี้ฉ้อกดราคาอาจโดนลงโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ "จินฮั้วเฮง" ยอมรับมีร้านทองบางแห่งแหกคอกเพราะลูกค้าไม่รู้เรื่อง
หลังราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศคาดว่าก่อนสิ้นปีจะเห็นราคาทองคำบาทละ 9,000บาท ขณะนี้มีกระแสการเก็งกำไรทั้งระดับพ่อค้าและประชาชนทั่วไปอย่างคึกคัก
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ.มีมาตรการรองรับเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา แต่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ จึงอยากให้ผู้ที่ซื้อขายทองคำทราบด้วยว่า หากพบร้านทองกดราคาเกินกว่า 5% ของราคากลางของสมาคมค้าทองคำ ซึ่งอ้างอิงจากราคาปัจจุบัน สามารถร้องเรียนมาที่ สคบ.ได้ และสคบ.จะเข้าไปตรวจสอบหากพบว่ามีความผิดจริง จะมีโทษทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2546 คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 13(2546) เรื่องให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก(ฉบับที่ 2) ที่มาของประกาศดังกล่าว สคบ.ระบุว่า เนื่องจากปัจจุบันร้านค้าทองรูปพรรณที่เป็นผู้ผลิต หรือผู้จำหน่าย มีการรับซื้อคืนสินค้าทองรูปพรรณ ในราคาที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการรับซื้อคืนสินค้าดังกล่าว ดังนั้นเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จึงควรเพิ่มเติมข้อความในฉลากเกี่ยวกับสินค้าทองรูปพรรณให้มีความเหมาะสม
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30 และ 31 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2541 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งตามมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการว่าด้วยฉลากจึงออกประกาศเพิ่มเติมต่อไปนี้ เป็น (8) ของข้อ 4 แห่งประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2544) เรื่องให้ทองคำรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก (6) ราคารับซื้อคืนทองคำรูปพรรณขั้นต่ำ ตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา สำหรับบทลงโทษ หากพบว่ามีความผิดในลักษณะรุนแรง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ที่ผ่านมามีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนแต่ยังน้อย โดยรายที่ร้องเรียนระบุว่า ร้านทองกดราคารับซื้อในราคาต่ำเกินจริง สคบ.เองก็ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ร้านค้าดังกล่าว เพื่อให้ปรับปรุงราคาให้เป็นไปตามที่สคบ.ประกาศแล้ว หากยังไม่แก้ไขปรับปรุงเราจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามที่ออกประกาศ"
**ร้านทองรับมีแหกคอก เหตุลูกค้าไม่ทราบกม.
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี เจ้าของร้านทองจินฮั้วเฮง ยอมรับว่า มีร้านค้าทองคำบางแห่งมีการกดราคารับซื้อทองคำเกินกว่าที่สมาคมค้าทองคำกำหนดไว้ ส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าไม่ทราบว่ามีการกำหนดราคารับซื้อคืนไว้ ซึ่งถือเป็นช่องว่างให้ร้านค้าทองคำบางแห่งกดราคา ทางออกในเรื่องนี้ ผู้บริโภคควรที่จะสำรวจราคา และที่สำคัญหากซื้อทองคำจากร้านใด ควรขายคืนให้กับร้านนั้น เพื่อที่จะไม่ให้โดนกดราคามาก เนื่องจากร้านแต่ละแห่งจะออกใบเสร็จ และมีการการันตีราคารับซื้อคืน
นายวรชัย กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นบางครั้งร้านค้าทองคำที่กดราคาเกินกว่าที่สมาคมประกาศราคารับซื้อ จะอ้างว่า เนื้อทองไม่ได้มาตรฐาน และไม่ใช่ยี่ห้อของร้าน ทำให้ราคาที่รับซื้อคืนต่ำกว่าที่ประกาศไว้ แต่สำหรับร้านทองย่านเยาวราช ปัญหานี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น เนื่องจากร้านแต่ละแห่งต่างปฏิบัติตามเกณฑ์ที่สคบ.ได้ประกาศไว้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานในการรับซื้อคืนทองคำ และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ คาดว่ายังคงมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น และภาวะราคาทองคำที่ผันผวน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอาจส่งผลให้พฤติกรรมของบริษัท,ห้างร้าน หรือบุคคลทั่วไป ที่ก่อนหน้ามักจะซื้อทองคำให้กับคนใกล้ชิด หันมาซื้อข้าวของเครื่องใช้อย่างอื่นเป็นของกำนัลในช่วงปลายปีแทนการให้ของขวัญที่เป็นทองคำ ซึ่งปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นมาก
นายวรชัย กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนผ่านทองคำมากขึ้น เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ย และมีบางส่วนที่ถือครองอยู่ ก็นำออกมาขายทำกำไร ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นต้องตรวจสอบราคาให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกร้านค้าทองคำฉวยโอกาสกดราคาเกินความเป็นจริง
สำหรับราคาทองคำตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทองคำแท่งรับซื้อคืนในราคา 8,400 บาท ขายออกราคา 8,500 บาท ทองคำรูปพรรณ รับซื้อคืนในราคา 8,322.84 บาท ขายออกราคา 8,700 บาท
หลังราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศคาดว่าก่อนสิ้นปีจะเห็นราคาทองคำบาทละ 9,000บาท ขณะนี้มีกระแสการเก็งกำไรทั้งระดับพ่อค้าและประชาชนทั่วไปอย่างคึกคัก
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ.มีมาตรการรองรับเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา แต่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ จึงอยากให้ผู้ที่ซื้อขายทองคำทราบด้วยว่า หากพบร้านทองกดราคาเกินกว่า 5% ของราคากลางของสมาคมค้าทองคำ ซึ่งอ้างอิงจากราคาปัจจุบัน สามารถร้องเรียนมาที่ สคบ.ได้ และสคบ.จะเข้าไปตรวจสอบหากพบว่ามีความผิดจริง จะมีโทษทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2546 คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 13(2546) เรื่องให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก(ฉบับที่ 2) ที่มาของประกาศดังกล่าว สคบ.ระบุว่า เนื่องจากปัจจุบันร้านค้าทองรูปพรรณที่เป็นผู้ผลิต หรือผู้จำหน่าย มีการรับซื้อคืนสินค้าทองรูปพรรณ ในราคาที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการรับซื้อคืนสินค้าดังกล่าว ดังนั้นเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จึงควรเพิ่มเติมข้อความในฉลากเกี่ยวกับสินค้าทองรูปพรรณให้มีความเหมาะสม
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30 และ 31 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2541 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งตามมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการว่าด้วยฉลากจึงออกประกาศเพิ่มเติมต่อไปนี้ เป็น (8) ของข้อ 4 แห่งประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2544) เรื่องให้ทองคำรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก (6) ราคารับซื้อคืนทองคำรูปพรรณขั้นต่ำ ตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา สำหรับบทลงโทษ หากพบว่ามีความผิดในลักษณะรุนแรง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ที่ผ่านมามีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนแต่ยังน้อย โดยรายที่ร้องเรียนระบุว่า ร้านทองกดราคารับซื้อในราคาต่ำเกินจริง สคบ.เองก็ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ร้านค้าดังกล่าว เพื่อให้ปรับปรุงราคาให้เป็นไปตามที่สคบ.ประกาศแล้ว หากยังไม่แก้ไขปรับปรุงเราจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามที่ออกประกาศ"
**ร้านทองรับมีแหกคอก เหตุลูกค้าไม่ทราบกม.
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี เจ้าของร้านทองจินฮั้วเฮง ยอมรับว่า มีร้านค้าทองคำบางแห่งมีการกดราคารับซื้อทองคำเกินกว่าที่สมาคมค้าทองคำกำหนดไว้ ส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าไม่ทราบว่ามีการกำหนดราคารับซื้อคืนไว้ ซึ่งถือเป็นช่องว่างให้ร้านค้าทองคำบางแห่งกดราคา ทางออกในเรื่องนี้ ผู้บริโภคควรที่จะสำรวจราคา และที่สำคัญหากซื้อทองคำจากร้านใด ควรขายคืนให้กับร้านนั้น เพื่อที่จะไม่ให้โดนกดราคามาก เนื่องจากร้านแต่ละแห่งจะออกใบเสร็จ และมีการการันตีราคารับซื้อคืน
นายวรชัย กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นบางครั้งร้านค้าทองคำที่กดราคาเกินกว่าที่สมาคมประกาศราคารับซื้อ จะอ้างว่า เนื้อทองไม่ได้มาตรฐาน และไม่ใช่ยี่ห้อของร้าน ทำให้ราคาที่รับซื้อคืนต่ำกว่าที่ประกาศไว้ แต่สำหรับร้านทองย่านเยาวราช ปัญหานี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น เนื่องจากร้านแต่ละแห่งต่างปฏิบัติตามเกณฑ์ที่สคบ.ได้ประกาศไว้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานในการรับซื้อคืนทองคำ และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ คาดว่ายังคงมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น และภาวะราคาทองคำที่ผันผวน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอาจส่งผลให้พฤติกรรมของบริษัท,ห้างร้าน หรือบุคคลทั่วไป ที่ก่อนหน้ามักจะซื้อทองคำให้กับคนใกล้ชิด หันมาซื้อข้าวของเครื่องใช้อย่างอื่นเป็นของกำนัลในช่วงปลายปีแทนการให้ของขวัญที่เป็นทองคำ ซึ่งปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นมาก
นายวรชัย กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนผ่านทองคำมากขึ้น เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ย และมีบางส่วนที่ถือครองอยู่ ก็นำออกมาขายทำกำไร ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นต้องตรวจสอบราคาให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกร้านค้าทองคำฉวยโอกาสกดราคาเกินความเป็นจริง
สำหรับราคาทองคำตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทองคำแท่งรับซื้อคืนในราคา 8,400 บาท ขายออกราคา 8,500 บาท ทองคำรูปพรรณ รับซื้อคืนในราคา 8,322.84 บาท ขายออกราคา 8,700 บาท