ผมยังนั่งรอนอนรออยู่ว่าจะพยายามเข้าให้ถึงพระผู้เป็นเจ้าที่โกหกตอแหลกันอยู่นี้ว่า ถ้าหากพระองค์จะเสด็จมาพอให้สามารถ "เข้าถึง" ได้ตามที่มีผู้ประกาศโกหกตอแหลอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ทุกวันนี้ แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้เห็นพระองค์เสด็จมาพอที่จะหาทางเข้าถึงได้ เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่สามารถช่วยอะไรพรรคพวกที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ตามที่เขาขอร้องมาให้ช่วยพูดกับพระเจ้าเฮงซวยที่ว่านั้นให้ช่วยขจัดปัดเป่าความเลวร้ายของปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ให้ยุติลงไปได้
เฉพาะอย่างยิ่งความเป็นธรรมที่คนที่นั่นควรจะได้รับ ซึ่งไม่มีใครยอมพูดถึงหรือมองเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่มนุษย์ด้วยกันควรจะนำมาพูดถึงด้วย
เพราะคนที่นัดกันตายภายในไม่กี่ชั่วโมง เพราะถูกจับยัดกันให้เดินทางไปตายที่ไหนสักแห่งหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนในประเทศนี้?
ซึ่งทำเหมือนว่า เป็นความประสงค์ของเขาทุกคนที่จะตายหรือต้องการหาเรื่องตายอย่างคาดไม่ถึง เพราะการเข้าไปร่วมชุมนุมกันประท้วงที่ตากใบกันอย่างพร้อมเพรียงกันในวันนั้น ซึ่งคนที่เป็นญาติพี่น้องพ่อแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ของเขาทุกวันนี้ต้องการจะรู้ว่ามีเหตุผลและมีความจำเป็นอะไรที่เขาจะต้องรีบนัดกันไปตายอย่างพร้อมเพรียงกันอย่างนั้น ในวันเดียวเวลาเดียวกันและภายใต้ปากกระบอกปืนกระบอกเดียวกัน
การตายอย่าง บูรณาการ ถึง 78 คนในเวลาเดียวกัน และไม่รู้ว่าใครมีความผิดอะไรอย่างไร เป็นเรื่องที่มนุษย์เราไม่เคยรู้จักนอกจากในสงครามระหว่างชาติต่อชาติ
พรรคพวกที่จังหวัดนราธิวาสที่ญาติพี่น้องของเขาต้องไปตายอย่างเงียบสงบวันนั้น ถามผมมาว่า "เขาผิดอะไร บอกหน่อยได้ไหมครับ ทำไมเขาต้องตาย?"
แน่นอนครับ ก็อย่างที่รู้กันทั่วทั้งโลกคือจะไม่มีใครบอกได้ รู้แต่ว่าอาจจะเป็นความประสงค์ของพวกเขาหรือ พวกเขาถูกบังคับให้เกิดความประสงค์ที่จะต้องตายขึ้นมา
"เขาผิดอะไร" นั่นคือสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ "มันจะต้องรู้สาเหตุถ้าหากจะเกิดมีการตายเกิดขึ้น?"
นั่นเป็นคำถามที่ไม่มีใครตอบได้
คนไทยเรานั้น ทุกวันนี้อาจจะประสบความวิบัติฉิบหายหรือเดือดร้อนอะไรขึ้นมาก็ได้ โดยไม่มีความผิดหรือไม่ได้ทำอะไรผิดก็ถือกันว่าเป็นเรื่องปกติ เฉพาะอย่างยิ่งในความรับผิดชอบของกฎหมาย และอุดมการณ์ของกฎหมายในความสนใจไยดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจของชาติ และสถาบันเกี่ยวกับความเป็นธรรมในชาติ
เช่นอยู่ดีๆ ถ้าเคราะห์หามยามร้ายขึ้นมาก็จะถูกลากไป กระทืบกันเล่นบนโรงพัก แล้วเอาไฟฟ้าจี้ อวัยวะเพศ เล่นพอหอมปากหอมคอก็ทำได้หรือโทรศัพท์ไปขู่ว่า ถ้าไม่ยอมรับเงินจาก นักเผาอวัยวะเพศ พวกนั้นแล้วก็จะต้องถูกพวกฉิบหายนั่นฆ่าทิ้ง
หรือผู้หญิงที่ไม่ประสีประสากับชีวิตที่กำลังจะคลอดลูก ก็อาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลากเข้าไปคลอดลูกในคุกเพื่อให้ได้อยู่ในคุกหรือให้ติดคุกโดยไม่ได้ทำผิดอะไรนอกจากหลุดออกมาจากท้องแม่
ร้อยเรื่องพันกรณี ล้วนแต่เรื่องชั่วๆ พวกนี้จะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาในประเทศไทยเช่นเดียวกับกรณีคนไทย คนมุสลิม 78 คนที่ตากใบไปร่วมชุมนุมกันเพื่อรอเวลาตายโหงที่มีข่าวออกมาอึกทึกครึกโครมไปทั้งโลก แต่ในเมืองไทยไม่เคยมีใครสนใจ ไม่ว่าเราจะมีรัฐธรรมนูญ มีกฎหมาย มีตำรวจเต็มบ้านเต็มเมือง และมีรัฐบาลที่ทำหน้าที่ปกครองประเทศชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีประกาศความเก่งกาจของตัวเองแก่โลกออกมาว่า "คนที่คิดร้าย คิดมักใหญ่ใฝ่สูง อยากแบ่งแยกดินแดน ผมจัดการแน่ ไม่เอาไว้ทำพ่อสักคน" หลังจากปล่อยให้เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นจะครบรอบปีมาแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นว่าคนร้ายที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน
มีมากมายหลายเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นธรรม เกี่ยวกับคุณธรรมและกฎหมายในเมืองไทยที่ไม่มีใครสนใจหรือไม่ได้ใช้กัน
อย่างที่กล่าวมาแล้ว เมืองไทยนั้นมีความชั่ว 3 ประการที่ไม่มีใครแก้ได้ แม้แต่พระเจ้าไม่ว่าพระเจ้าที่ว่านั้นจะเป็นพระเจ้าชาติไหนมาจากแห่งหนตำบลใด ถ้ามาเจอความชั่วร้ายทั้ง 3 ประการนี้จะสิ้นคิดทันที นั่นคือ (1) ความเป็นธรรมหรือความยุติธรรมที่มันไม่มีอยู่ที่กล่าวมาแล้ว (2) ก็คือกฎหมายที่เป็นระเบียบแบบแผนตามที่ทั่วโลกเขาใช้กันในประเทศไทยจะไม่ใช้กัน (3) คนที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เรียกกันว่า ตำรวจ (บางคน) จะไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามความหมายของหน้าที่และความรับผิดชอบ
หรืออาจจะพูดกันชัดๆ ได้ว่าการเกิดมาเป็นคนไทย ถ้าเป็นคนธรรมดาสามัญและยากจนเบี้ยน้อยหอยน้อย ถ้าหากโชคไม่ดีพอหรือไม่มีชีวิตที่ฟลุกเพียงพอแล้วจะฉิบหายอะไรเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ การจะไปหวังพึ่งกฎหมาย หวังพึ่งความเป็นธรรมหรือความถูกต้องใดๆ นั้น ไม่ต้องหวัง เพราะมันเป็นความชั่วถาวรที่ประเทศนี้ จะต้องธำรงคงไว้เท่าๆ กับรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่โกหกตอแหลว่ามันมีอยู่อย่างที่เป็นเรื่องของมนุษย์ทั่วโลกเขามีกัน
คนไทย 78 คนที่ต้องไปตายอย่างพร้อมเพรียงกันในวันเดียวและเวลาเดียวกันโดยไม่มีสาเหตุหรือไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะอะไรนั้น ก็เพราะเขาบังเอิญเกิดมามีชีวิตอยู่ภายใต้บทบัญญัติ 3 ประการนี้ในฐานะที่เป็นคนไทย
เพราะฉะนั้น ปัญหาของประเทศไทยที่นับวันที่เรามีชีวิตอยู่ได้เห็น ทุกคนจะต้องพบแต่ความชั่วและความฉิบหายนานาประการเกิดขึ้นแก่คน และแก่ชาติไม่มีวันหยุด เพราะเราไม่สามารถจะงดเว้นการใช้ความชั่วทั้ง 3 ประการนี้ เป็นหลักในการปกครองประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจอิทธิพลฮุบที่ดินและทำลายป่าไม้เป็นหมื่นๆ พันๆ ไร่ที่นายทุนทุกภาคทำกันอยู่ หรือการค้ายาเสพติดนานาชนิดเป็นล้านๆ เม็ดที่เรามีปัญหาอยู่หรือการคอร์รัปชันขนาดใหญ่ชนิดกินบ้านกินเมืองฉิบหายวายวอดอย่างที่กินกันเห็นๆ อยู่ทุกวันนี้ รวมถึงเรื่องราวที่เขียนไว้เป็นที่ระลึกที่ประชาชนจำนวนหนึ่งเขียนส่งไปยังสำนักงานป.ป.ช.ถึง 6,000 เรื่องที่กำลังจะทำให้หมดอายุความไป เพื่อไม่ให้ใครมีความผิดหรือไม่ยอมให้มีการชำระสะสางนั้น ก็จะกลายเป็นเพียงสายลมและแสงแดดไปฟรีๆ เพราะมันจะไม่มีใครสามารถกำจัดความชั่วร้ายทั้ง 3 ประการนี้ออกไปจากบ้านเมืองหรือมิหนำซ้ำเรายังพยายามปกป้องทะนุถนอมมันไว้ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เป็นเจตนารมณ์หรือเป็นตัวบุคคลที่มีอำนาจ
แม้แต่เหตุการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่มีความรุนแรงยิ่งขึ้นทุกที และนับวันยิ่งจะหนักยิ่งขึ้นนั้น มันก็เกิดจากความชั่วร้าย 3 ประการนี้เท่านั้น
ไม่ต้องเอาเหตุผลอื่นหรือเอาหลักฐานอื่นมาอ้าง มันมาจากสาเหตุประการเดียวกันทั้งสิ้น แต่เรากลับไปตีความว่าเป็นเรื่องของ "โจรกระจอก" ไปในสมัยหนึ่ง และเราก็ถือว่าคนไทยนั้นมันเก่งกว่าใครจะทำอะไรก็ไม่ต้องกลัว เพราะเราเป็นชนชาติที่เก่งกว่าใครอื่น เพราะเรามีภาษาปลอบใจว่า "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ใครจะทำอะไรก็เชิญ ว่างั้นเถอะ
สนุกสนานดี
ทุกวันนี้บ้านเมืองเต็มไปด้วยปัญหา ผู้คนทุกคนเต็มไปด้วยปัญหา (ยกเว้นนักการเมืองที่เป็นใหญ่เป็นโตและขายบ้านขายเมืองได้มากพอ) มีคนไม่น้อยยังสงสัยลังเลและไม่สามารถจะเข้าใจได้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ถ้าหากว่าบ้านเมืองเรายังไม่ทำลายความชั่วร้ายนี้เสีย
หรือถ้าหากว่าเราไม่มีพระผู้เป็นเจ้าตัวหนึ่งตัวใดที่จะพอฝากผีฝากไข้ได้มาช่วยชีวิตคนไทยมันจะย่ำแย่มาก
คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์จากความชั่วของบ้านเมืองทั้ง 3 ประการนี้ อาจจะยังนั่งหัวเราะหรือเล่นหุ้นอย่างสนุกสนานหวานมันอยู่ได้ โดยไม่เคยรู้ว่าความชั่วที่พระเจ้าทั้งหลายไม่กล้าแตะต้องนี้ มันให้อะไรแก่คนที่มีเคราะห์กรรมที่ได้รับผลของมันบ้าง?
ในคนจำนวนมากมายที่ได้รับผลกรรมจากความชั่ว 3 ประการนี้ ผมไม่อยากจะพูดถึงเด็กหนุ่มที่ต้องเอาอวัยวะเพศสังเวยความชั่วของตำรวจ (บางคน) ที่ว่านั้นหรือผู้หญิงอายุ 17 ที่ต้องดันทุรังหอบลูกไปคลอดและอยู่กันในคุกเพื่อความสุขหรรษาของตำรวจที่เป็นข่าวเท่านั้น ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยรับผลกรรมด้วยการสังเวยความชั่วทั้ง 3 ประการของชาติทำนองนี้มากับเขาด้วย เฉพาะคนที่เราจะต้องจองเวรจองกรรมกันไปให้ถึงที่สุดอีกหลายชาติหลายชีวิตที่จะยอมเลิกกันไม่ได้ก็คือ สิ่งที่เรียกว่าตำรวจ (บางคน) ที่ว่านั้นนั่นเอง
ความจริงผมเองเป็นคนเขียนหนังสือที่อยู่กับการเขียนหนังสือมาค่อนชีวิต ผมมีเพื่อนมาก ทั้งนักการเมือง และตำรวจแม้กระทั่งอธิบดีกรมตำรวจหลายคนก็เคยเป็นเพื่อนเป็นมิตรคบหากันมา จนกระทั่งเกิดความคิดขึ้นมาว่าตำรวจไม่มีเวรมีภัยอะไรกับใคร เพราะตำรวจก็คือคนธรรมดานี่เองหรือเกิดมาเป็นคนเหมือนคนไทยอื่นๆ นั่นเอง ผมเองก็ให้ความเคารพนับถือตำรวจเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นตำรวจอะไรมาจากไหน ผมเชื่อว่าความเป็นคนของเขาคงจะไม่เปลี่ยนแปลงไปง่ายๆ
แต่ผมก็คิดผิดและเข้าใจผิดอย่างไม่คิดว่าจะได้พบได้เห็น
เพราะผมพบว่ามีตำรวจสองสามนายหรือจำนวนหนึ่ง เฉพาะตัวนายตำรวจชั้นหัวหน้าที่ทำหน้าที่รับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่โรงพักแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นี่เองที่ได้แสดงความชั่วชาติให้ผมเห็นโดยเล่นงานผมเพื่อเรียกเงิน 1 ล้านบาท
ผมเป็นคนมาจากบ้านนอกตั้งแต่สมัยรุ่นๆ มีลูกหลานและญาติพี่น้องที่ยากจนมากไม่มีจะกิน ไม่มีอาชีพ และเพื่อนฝูงหลายคนที่เคยร่วมขบวนการ 14 ตุลาคมมาด้วยกันที่ถูกจับไปขังคุกเอาไว้ 6 เดือนแล้วก็ได้รับการปลดปล่อยมา ทุกคนค่อนข้างจะอดอยากไม่มีจะกิน ต่างก็พากันมาปรึกษาหารือกับผมเพื่อจะหาอาชีพสักอย่างหนึ่งพอได้เลี้ยงครอบครัว ก็ตกลงกันว่าให้ผมในฐานะที่อาวุโสกว่าทุกคน และรู้จักคนมีเงินมีทองหลายคน เขาขอให้ผมไปช่วยหาทุนมาสำหรับทำโรงงานอะไรสักอย่างหนึ่ง
น้องภรรยาของผมซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจชั้นพลตรีให้ผมยืมที่ดิน 100 กว่า ตารางวาสร้างโรงงานขึ้นมาเพื่อทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์ แต่ทำไปไม่ไหวเพราะมีปัญหามากมาย ลูกหลานผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยทำงานโรงงานเย็บเสื้อผ้าก็แนะนำให้ผมเปลี่ยนเป็นโรงงานรับจ้างเย็บเสื้อผ้า โดยลูกหลานที่ว่านั้นจะรับผิดชอบในการหางานและหาคนมาช่วยกันเย็บมาช่วยกันทำ ผมก็ตกลงทำตามนั้นโดยไปกู้เงินเพื่อนฝูงมาจำนวนหนึ่งมาตั้งโรงงานเย็บเสื้อผ้าขึ้นมาให้ลูกหลานเหล่านั้นทำกินกัน
คำว่า โรงงานที่ว่านั้นไม่ใช่โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่จะต้องดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายโรงงาน ผมไปติดต่อเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อขอคำชี้แนะเขาก็จัดการออกใบอนุญาตให้ดำเนินงานโดยไม่ผิดกฎหมาย เสียภาษีและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยผมต้องเสียค่าน้ำร้อนน้ำชาหรือซื้อความสะดวกไป10,000 บาท ตามกติกาว่าการขออนุญาตทำมาหากินอะไรในเมืองไทยนั้น จะไม่เสียค่าน้ำร้อนน้ำชาพอหอมปากหอมคอนั้น เป็นไปไม่ได้
ผมก็มอบให้พวกลูกหลานเป็นคนดำเนินงานและดูแลโรงงานที่ขออนุญาตถูกต้องนั้นดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการหางาน การหาคนมาทำสนามหรือการอุทิศโรงงานที่ทำขึ้นมาพอทำมาหากินได้นั้น เป็นโรงงานสำหรับกินอยู่หลับนอนเสร็จ
ทำมา 9 ปีเต็มๆ โดยผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง
แต่ให้ภรรยาไปดูแลบ้างเพราะมีทรัพย์สิน บางครั้งต้องดูแลซ่อมแซม
และในปีที่ 9 คือในปี 2544 รัฐบาลประกาศว่าเจ้าของโรงงานที่มีคนงานต่างด้าวมารับจ้างทำงานอยู่ให้ไปจดทะเบียนให้ถูกต้องตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมไปจนถึงสิ้นเดือน ผมก็ปฏิบัติตามนั้น รอถึงกลางเดือนสิงหาคมจะต้องพาคนงานต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายไปจดทะเบียน แต่ก่อนที่จะถึงกำหนดวันจดทะเบียน 14 วัน ตำรวจสันติบาลและท้องที่ร่วมมือกันเข้าไปจับกุมคนงานของผม และเด็กที่ดูแลโรงงานในข้อหา ต่างๆ หลายข้อหา ไม่ว่าจะเป็นการจ้างแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมาย ใช้แรงงานต่างด้าวและอื่นๆ อีก ทั้งๆ ที่ตลอดเวลา 9 ปีที่ผมทำมานั้นตำรวจที่โรงพักนี้ นอกจากจะส่งคนเข้าไปรีดไถตามปกติแล้ว ไม่ยอมจับกุมผมหรือตั้งข้อหาว่าผมทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 แต่มาจับเมื่อปีที่ 9 หรือมารู้ว่าผมทำผิดเมื่อปีที่ 9 และลงมือปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นปีที่ร้อนเงิน เพราะเมื่อมีการจับกุมแล้วก็จัดการยัดเยียดข้อกล่าวหามากมายเอากับผมและเรียกเงินผม 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท)
และในวันที่เรียกตัวผมกับทนายไปตั้งข้อกล่าวหาที่โรงพักยังได้สำทับกับผม และน้องชายที่เป็นนายตำรวจเจ้าของที่ดินว่าคดีของผมนี้จะต้องเสีย 1,000,000 บาท และผมจะต้องติดคุก 25 ปี
ผมต้องไปประกันตัวพร้อมกับภรรยาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโรงงานนอกจากเคยเข้าไป "เยี่ยว" ในบางครั้งเป็นเงิน 800,000 บาท ซึ่งทำให้ผมต้องเช่าโฉนดชาวบ้านไปประกันตัว จนบัดนี้ 4 ปีที่ผมประกันตัวมาด้วยการกู้เงินเสียดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีเป็นเวลา 4 ปี โดยไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ทั้งสิ้นและก็ไม่มีการดำเนินคดีต่อไปแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการแกล้งผมให้เสียเงินเสียเวลาเพราะผมไม่ยอมจ่ายเงิน 1 ล้านบาทนั้นเอง
นี่คือความเป็นธรรมในเมืองไทยที่มันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งทุกเวลา และการไม่ยอมใช้กฎหมายเพราะเรามีไอ้พวกตำรวจเดียรัจฉาน ประเภทนี้ที่ทำได้ทุกอย่างแม้แต่ จองเวรกับอวัยวะเพศ ชาวบ้าน!!
แล้วจะไปเรียกพระผู้เป็นเจ้าที่ไหนมาบอกว่าจะต้องทำอะไรกับมัน ถ้าหากพระผู้เป็นเจ้าอะไรนั่นไม่มีหูมีตา ทั้งๆ ที่เป็นพระผู้เป็นเจ้าที่มีปัญญาที่จะทำให้คนมีความสุขได้?
เฉพาะอย่างยิ่งความเป็นธรรมที่คนที่นั่นควรจะได้รับ ซึ่งไม่มีใครยอมพูดถึงหรือมองเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่มนุษย์ด้วยกันควรจะนำมาพูดถึงด้วย
เพราะคนที่นัดกันตายภายในไม่กี่ชั่วโมง เพราะถูกจับยัดกันให้เดินทางไปตายที่ไหนสักแห่งหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนในประเทศนี้?
ซึ่งทำเหมือนว่า เป็นความประสงค์ของเขาทุกคนที่จะตายหรือต้องการหาเรื่องตายอย่างคาดไม่ถึง เพราะการเข้าไปร่วมชุมนุมกันประท้วงที่ตากใบกันอย่างพร้อมเพรียงกันในวันนั้น ซึ่งคนที่เป็นญาติพี่น้องพ่อแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ของเขาทุกวันนี้ต้องการจะรู้ว่ามีเหตุผลและมีความจำเป็นอะไรที่เขาจะต้องรีบนัดกันไปตายอย่างพร้อมเพรียงกันอย่างนั้น ในวันเดียวเวลาเดียวกันและภายใต้ปากกระบอกปืนกระบอกเดียวกัน
การตายอย่าง บูรณาการ ถึง 78 คนในเวลาเดียวกัน และไม่รู้ว่าใครมีความผิดอะไรอย่างไร เป็นเรื่องที่มนุษย์เราไม่เคยรู้จักนอกจากในสงครามระหว่างชาติต่อชาติ
พรรคพวกที่จังหวัดนราธิวาสที่ญาติพี่น้องของเขาต้องไปตายอย่างเงียบสงบวันนั้น ถามผมมาว่า "เขาผิดอะไร บอกหน่อยได้ไหมครับ ทำไมเขาต้องตาย?"
แน่นอนครับ ก็อย่างที่รู้กันทั่วทั้งโลกคือจะไม่มีใครบอกได้ รู้แต่ว่าอาจจะเป็นความประสงค์ของพวกเขาหรือ พวกเขาถูกบังคับให้เกิดความประสงค์ที่จะต้องตายขึ้นมา
"เขาผิดอะไร" นั่นคือสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ "มันจะต้องรู้สาเหตุถ้าหากจะเกิดมีการตายเกิดขึ้น?"
นั่นเป็นคำถามที่ไม่มีใครตอบได้
คนไทยเรานั้น ทุกวันนี้อาจจะประสบความวิบัติฉิบหายหรือเดือดร้อนอะไรขึ้นมาก็ได้ โดยไม่มีความผิดหรือไม่ได้ทำอะไรผิดก็ถือกันว่าเป็นเรื่องปกติ เฉพาะอย่างยิ่งในความรับผิดชอบของกฎหมาย และอุดมการณ์ของกฎหมายในความสนใจไยดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจของชาติ และสถาบันเกี่ยวกับความเป็นธรรมในชาติ
เช่นอยู่ดีๆ ถ้าเคราะห์หามยามร้ายขึ้นมาก็จะถูกลากไป กระทืบกันเล่นบนโรงพัก แล้วเอาไฟฟ้าจี้ อวัยวะเพศ เล่นพอหอมปากหอมคอก็ทำได้หรือโทรศัพท์ไปขู่ว่า ถ้าไม่ยอมรับเงินจาก นักเผาอวัยวะเพศ พวกนั้นแล้วก็จะต้องถูกพวกฉิบหายนั่นฆ่าทิ้ง
หรือผู้หญิงที่ไม่ประสีประสากับชีวิตที่กำลังจะคลอดลูก ก็อาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลากเข้าไปคลอดลูกในคุกเพื่อให้ได้อยู่ในคุกหรือให้ติดคุกโดยไม่ได้ทำผิดอะไรนอกจากหลุดออกมาจากท้องแม่
ร้อยเรื่องพันกรณี ล้วนแต่เรื่องชั่วๆ พวกนี้จะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาในประเทศไทยเช่นเดียวกับกรณีคนไทย คนมุสลิม 78 คนที่ตากใบไปร่วมชุมนุมกันเพื่อรอเวลาตายโหงที่มีข่าวออกมาอึกทึกครึกโครมไปทั้งโลก แต่ในเมืองไทยไม่เคยมีใครสนใจ ไม่ว่าเราจะมีรัฐธรรมนูญ มีกฎหมาย มีตำรวจเต็มบ้านเต็มเมือง และมีรัฐบาลที่ทำหน้าที่ปกครองประเทศชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีประกาศความเก่งกาจของตัวเองแก่โลกออกมาว่า "คนที่คิดร้าย คิดมักใหญ่ใฝ่สูง อยากแบ่งแยกดินแดน ผมจัดการแน่ ไม่เอาไว้ทำพ่อสักคน" หลังจากปล่อยให้เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นจะครบรอบปีมาแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นว่าคนร้ายที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน
มีมากมายหลายเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นธรรม เกี่ยวกับคุณธรรมและกฎหมายในเมืองไทยที่ไม่มีใครสนใจหรือไม่ได้ใช้กัน
อย่างที่กล่าวมาแล้ว เมืองไทยนั้นมีความชั่ว 3 ประการที่ไม่มีใครแก้ได้ แม้แต่พระเจ้าไม่ว่าพระเจ้าที่ว่านั้นจะเป็นพระเจ้าชาติไหนมาจากแห่งหนตำบลใด ถ้ามาเจอความชั่วร้ายทั้ง 3 ประการนี้จะสิ้นคิดทันที นั่นคือ (1) ความเป็นธรรมหรือความยุติธรรมที่มันไม่มีอยู่ที่กล่าวมาแล้ว (2) ก็คือกฎหมายที่เป็นระเบียบแบบแผนตามที่ทั่วโลกเขาใช้กันในประเทศไทยจะไม่ใช้กัน (3) คนที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เรียกกันว่า ตำรวจ (บางคน) จะไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามความหมายของหน้าที่และความรับผิดชอบ
หรืออาจจะพูดกันชัดๆ ได้ว่าการเกิดมาเป็นคนไทย ถ้าเป็นคนธรรมดาสามัญและยากจนเบี้ยน้อยหอยน้อย ถ้าหากโชคไม่ดีพอหรือไม่มีชีวิตที่ฟลุกเพียงพอแล้วจะฉิบหายอะไรเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ การจะไปหวังพึ่งกฎหมาย หวังพึ่งความเป็นธรรมหรือความถูกต้องใดๆ นั้น ไม่ต้องหวัง เพราะมันเป็นความชั่วถาวรที่ประเทศนี้ จะต้องธำรงคงไว้เท่าๆ กับรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่โกหกตอแหลว่ามันมีอยู่อย่างที่เป็นเรื่องของมนุษย์ทั่วโลกเขามีกัน
คนไทย 78 คนที่ต้องไปตายอย่างพร้อมเพรียงกันในวันเดียวและเวลาเดียวกันโดยไม่มีสาเหตุหรือไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะอะไรนั้น ก็เพราะเขาบังเอิญเกิดมามีชีวิตอยู่ภายใต้บทบัญญัติ 3 ประการนี้ในฐานะที่เป็นคนไทย
เพราะฉะนั้น ปัญหาของประเทศไทยที่นับวันที่เรามีชีวิตอยู่ได้เห็น ทุกคนจะต้องพบแต่ความชั่วและความฉิบหายนานาประการเกิดขึ้นแก่คน และแก่ชาติไม่มีวันหยุด เพราะเราไม่สามารถจะงดเว้นการใช้ความชั่วทั้ง 3 ประการนี้ เป็นหลักในการปกครองประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจอิทธิพลฮุบที่ดินและทำลายป่าไม้เป็นหมื่นๆ พันๆ ไร่ที่นายทุนทุกภาคทำกันอยู่ หรือการค้ายาเสพติดนานาชนิดเป็นล้านๆ เม็ดที่เรามีปัญหาอยู่หรือการคอร์รัปชันขนาดใหญ่ชนิดกินบ้านกินเมืองฉิบหายวายวอดอย่างที่กินกันเห็นๆ อยู่ทุกวันนี้ รวมถึงเรื่องราวที่เขียนไว้เป็นที่ระลึกที่ประชาชนจำนวนหนึ่งเขียนส่งไปยังสำนักงานป.ป.ช.ถึง 6,000 เรื่องที่กำลังจะทำให้หมดอายุความไป เพื่อไม่ให้ใครมีความผิดหรือไม่ยอมให้มีการชำระสะสางนั้น ก็จะกลายเป็นเพียงสายลมและแสงแดดไปฟรีๆ เพราะมันจะไม่มีใครสามารถกำจัดความชั่วร้ายทั้ง 3 ประการนี้ออกไปจากบ้านเมืองหรือมิหนำซ้ำเรายังพยายามปกป้องทะนุถนอมมันไว้ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เป็นเจตนารมณ์หรือเป็นตัวบุคคลที่มีอำนาจ
แม้แต่เหตุการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่มีความรุนแรงยิ่งขึ้นทุกที และนับวันยิ่งจะหนักยิ่งขึ้นนั้น มันก็เกิดจากความชั่วร้าย 3 ประการนี้เท่านั้น
ไม่ต้องเอาเหตุผลอื่นหรือเอาหลักฐานอื่นมาอ้าง มันมาจากสาเหตุประการเดียวกันทั้งสิ้น แต่เรากลับไปตีความว่าเป็นเรื่องของ "โจรกระจอก" ไปในสมัยหนึ่ง และเราก็ถือว่าคนไทยนั้นมันเก่งกว่าใครจะทำอะไรก็ไม่ต้องกลัว เพราะเราเป็นชนชาติที่เก่งกว่าใครอื่น เพราะเรามีภาษาปลอบใจว่า "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ใครจะทำอะไรก็เชิญ ว่างั้นเถอะ
สนุกสนานดี
ทุกวันนี้บ้านเมืองเต็มไปด้วยปัญหา ผู้คนทุกคนเต็มไปด้วยปัญหา (ยกเว้นนักการเมืองที่เป็นใหญ่เป็นโตและขายบ้านขายเมืองได้มากพอ) มีคนไม่น้อยยังสงสัยลังเลและไม่สามารถจะเข้าใจได้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ถ้าหากว่าบ้านเมืองเรายังไม่ทำลายความชั่วร้ายนี้เสีย
หรือถ้าหากว่าเราไม่มีพระผู้เป็นเจ้าตัวหนึ่งตัวใดที่จะพอฝากผีฝากไข้ได้มาช่วยชีวิตคนไทยมันจะย่ำแย่มาก
คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์จากความชั่วของบ้านเมืองทั้ง 3 ประการนี้ อาจจะยังนั่งหัวเราะหรือเล่นหุ้นอย่างสนุกสนานหวานมันอยู่ได้ โดยไม่เคยรู้ว่าความชั่วที่พระเจ้าทั้งหลายไม่กล้าแตะต้องนี้ มันให้อะไรแก่คนที่มีเคราะห์กรรมที่ได้รับผลของมันบ้าง?
ในคนจำนวนมากมายที่ได้รับผลกรรมจากความชั่ว 3 ประการนี้ ผมไม่อยากจะพูดถึงเด็กหนุ่มที่ต้องเอาอวัยวะเพศสังเวยความชั่วของตำรวจ (บางคน) ที่ว่านั้นหรือผู้หญิงอายุ 17 ที่ต้องดันทุรังหอบลูกไปคลอดและอยู่กันในคุกเพื่อความสุขหรรษาของตำรวจที่เป็นข่าวเท่านั้น ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยรับผลกรรมด้วยการสังเวยความชั่วทั้ง 3 ประการของชาติทำนองนี้มากับเขาด้วย เฉพาะคนที่เราจะต้องจองเวรจองกรรมกันไปให้ถึงที่สุดอีกหลายชาติหลายชีวิตที่จะยอมเลิกกันไม่ได้ก็คือ สิ่งที่เรียกว่าตำรวจ (บางคน) ที่ว่านั้นนั่นเอง
ความจริงผมเองเป็นคนเขียนหนังสือที่อยู่กับการเขียนหนังสือมาค่อนชีวิต ผมมีเพื่อนมาก ทั้งนักการเมือง และตำรวจแม้กระทั่งอธิบดีกรมตำรวจหลายคนก็เคยเป็นเพื่อนเป็นมิตรคบหากันมา จนกระทั่งเกิดความคิดขึ้นมาว่าตำรวจไม่มีเวรมีภัยอะไรกับใคร เพราะตำรวจก็คือคนธรรมดานี่เองหรือเกิดมาเป็นคนเหมือนคนไทยอื่นๆ นั่นเอง ผมเองก็ให้ความเคารพนับถือตำรวจเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นตำรวจอะไรมาจากไหน ผมเชื่อว่าความเป็นคนของเขาคงจะไม่เปลี่ยนแปลงไปง่ายๆ
แต่ผมก็คิดผิดและเข้าใจผิดอย่างไม่คิดว่าจะได้พบได้เห็น
เพราะผมพบว่ามีตำรวจสองสามนายหรือจำนวนหนึ่ง เฉพาะตัวนายตำรวจชั้นหัวหน้าที่ทำหน้าที่รับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่โรงพักแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นี่เองที่ได้แสดงความชั่วชาติให้ผมเห็นโดยเล่นงานผมเพื่อเรียกเงิน 1 ล้านบาท
ผมเป็นคนมาจากบ้านนอกตั้งแต่สมัยรุ่นๆ มีลูกหลานและญาติพี่น้องที่ยากจนมากไม่มีจะกิน ไม่มีอาชีพ และเพื่อนฝูงหลายคนที่เคยร่วมขบวนการ 14 ตุลาคมมาด้วยกันที่ถูกจับไปขังคุกเอาไว้ 6 เดือนแล้วก็ได้รับการปลดปล่อยมา ทุกคนค่อนข้างจะอดอยากไม่มีจะกิน ต่างก็พากันมาปรึกษาหารือกับผมเพื่อจะหาอาชีพสักอย่างหนึ่งพอได้เลี้ยงครอบครัว ก็ตกลงกันว่าให้ผมในฐานะที่อาวุโสกว่าทุกคน และรู้จักคนมีเงินมีทองหลายคน เขาขอให้ผมไปช่วยหาทุนมาสำหรับทำโรงงานอะไรสักอย่างหนึ่ง
น้องภรรยาของผมซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจชั้นพลตรีให้ผมยืมที่ดิน 100 กว่า ตารางวาสร้างโรงงานขึ้นมาเพื่อทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์ แต่ทำไปไม่ไหวเพราะมีปัญหามากมาย ลูกหลานผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยทำงานโรงงานเย็บเสื้อผ้าก็แนะนำให้ผมเปลี่ยนเป็นโรงงานรับจ้างเย็บเสื้อผ้า โดยลูกหลานที่ว่านั้นจะรับผิดชอบในการหางานและหาคนมาช่วยกันเย็บมาช่วยกันทำ ผมก็ตกลงทำตามนั้นโดยไปกู้เงินเพื่อนฝูงมาจำนวนหนึ่งมาตั้งโรงงานเย็บเสื้อผ้าขึ้นมาให้ลูกหลานเหล่านั้นทำกินกัน
คำว่า โรงงานที่ว่านั้นไม่ใช่โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่จะต้องดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายโรงงาน ผมไปติดต่อเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อขอคำชี้แนะเขาก็จัดการออกใบอนุญาตให้ดำเนินงานโดยไม่ผิดกฎหมาย เสียภาษีและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยผมต้องเสียค่าน้ำร้อนน้ำชาหรือซื้อความสะดวกไป10,000 บาท ตามกติกาว่าการขออนุญาตทำมาหากินอะไรในเมืองไทยนั้น จะไม่เสียค่าน้ำร้อนน้ำชาพอหอมปากหอมคอนั้น เป็นไปไม่ได้
ผมก็มอบให้พวกลูกหลานเป็นคนดำเนินงานและดูแลโรงงานที่ขออนุญาตถูกต้องนั้นดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการหางาน การหาคนมาทำสนามหรือการอุทิศโรงงานที่ทำขึ้นมาพอทำมาหากินได้นั้น เป็นโรงงานสำหรับกินอยู่หลับนอนเสร็จ
ทำมา 9 ปีเต็มๆ โดยผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง
แต่ให้ภรรยาไปดูแลบ้างเพราะมีทรัพย์สิน บางครั้งต้องดูแลซ่อมแซม
และในปีที่ 9 คือในปี 2544 รัฐบาลประกาศว่าเจ้าของโรงงานที่มีคนงานต่างด้าวมารับจ้างทำงานอยู่ให้ไปจดทะเบียนให้ถูกต้องตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมไปจนถึงสิ้นเดือน ผมก็ปฏิบัติตามนั้น รอถึงกลางเดือนสิงหาคมจะต้องพาคนงานต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายไปจดทะเบียน แต่ก่อนที่จะถึงกำหนดวันจดทะเบียน 14 วัน ตำรวจสันติบาลและท้องที่ร่วมมือกันเข้าไปจับกุมคนงานของผม และเด็กที่ดูแลโรงงานในข้อหา ต่างๆ หลายข้อหา ไม่ว่าจะเป็นการจ้างแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมาย ใช้แรงงานต่างด้าวและอื่นๆ อีก ทั้งๆ ที่ตลอดเวลา 9 ปีที่ผมทำมานั้นตำรวจที่โรงพักนี้ นอกจากจะส่งคนเข้าไปรีดไถตามปกติแล้ว ไม่ยอมจับกุมผมหรือตั้งข้อหาว่าผมทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 แต่มาจับเมื่อปีที่ 9 หรือมารู้ว่าผมทำผิดเมื่อปีที่ 9 และลงมือปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นปีที่ร้อนเงิน เพราะเมื่อมีการจับกุมแล้วก็จัดการยัดเยียดข้อกล่าวหามากมายเอากับผมและเรียกเงินผม 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท)
และในวันที่เรียกตัวผมกับทนายไปตั้งข้อกล่าวหาที่โรงพักยังได้สำทับกับผม และน้องชายที่เป็นนายตำรวจเจ้าของที่ดินว่าคดีของผมนี้จะต้องเสีย 1,000,000 บาท และผมจะต้องติดคุก 25 ปี
ผมต้องไปประกันตัวพร้อมกับภรรยาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโรงงานนอกจากเคยเข้าไป "เยี่ยว" ในบางครั้งเป็นเงิน 800,000 บาท ซึ่งทำให้ผมต้องเช่าโฉนดชาวบ้านไปประกันตัว จนบัดนี้ 4 ปีที่ผมประกันตัวมาด้วยการกู้เงินเสียดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีเป็นเวลา 4 ปี โดยไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ทั้งสิ้นและก็ไม่มีการดำเนินคดีต่อไปแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการแกล้งผมให้เสียเงินเสียเวลาเพราะผมไม่ยอมจ่ายเงิน 1 ล้านบาทนั้นเอง
นี่คือความเป็นธรรมในเมืองไทยที่มันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งทุกเวลา และการไม่ยอมใช้กฎหมายเพราะเรามีไอ้พวกตำรวจเดียรัจฉาน ประเภทนี้ที่ทำได้ทุกอย่างแม้แต่ จองเวรกับอวัยวะเพศ ชาวบ้าน!!
แล้วจะไปเรียกพระผู้เป็นเจ้าที่ไหนมาบอกว่าจะต้องทำอะไรกับมัน ถ้าหากพระผู้เป็นเจ้าอะไรนั่นไม่มีหูมีตา ทั้งๆ ที่เป็นพระผู้เป็นเจ้าที่มีปัญญาที่จะทำให้คนมีความสุขได้?