xs
xsm
sm
md
lg

ในสถานการณ์ - ความตึงเครียดในภูมิภาครอบใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย สุริยุตม์ กลางเที่ยง

หลังจากที่ปล่อยให้เรื่องอึมครึมมาเกือบสัปดาห์ ในที่สุด พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ผู้บัญชาการทหารอากาศ ก็ออกมาชี้แจงถึงเรื่องการให้สิงคโปร์ เช่าพื้นที่กองบิน 23 จ.อุดรธานี เป็นเวลา 15 ปี เพื่อแลกกับเครื่องบินรบ เอฟ 16 เอ/บี จำนวน 7ลำ ว่า ไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่า เครื่องบินรบดังกล่าวนั้น สิงคโปร์ให้เปล่า ให้ฟรี

ส่วนการลงนามทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันนั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับสนับสนุนด้านการฝึก และการส่งกำลังบำรุงซึ่งกันและกัน ระหว่างกองทัพอากาศไทยกับกองทัพอากาศสิงคโปร์ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ ความสามารถทางเทคโนโลยีในรูปแบบของการฝึกร่วม

ความจริงแล้ว การฝึกร่วมระหว่าง ไทยกับสิงคโปร์ มีมาตั้งแต่ปี 2524 โดยทุกครั้งที่จะส่งเครื่องบินเข้ามาฝึกจะต้องทำการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีสถานะเป็นผู้ขอใช้พื้นที่ ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับของไทยอย่างเคร่งครัด ซึ่งกองทัพอากาศไทยสามารถจะพิจารณาอนุมัติ หรือไม่อนุมัติก็ได้

ส่วนระยะเวลาที่ต้องกำหนดในบันทึกความเข้าใจเป็นเวลา 15 ปีนั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณของสิงคโปร์ และเป็นเรื่องปกติของการจัดทำแผนยุทธศาสตร์กองทัพที่จะต้องกำหนดระยะเวลา 5 ปี 10 ปี หรือ 15 ปีอยู่แล้ว และได้ย้ำว่า การให้เครื่องบินรบ เอฟ 16 เอ/บี ที่ยังมีอายุการใช้งานอีกประมาณ 4,000 ชั่วโมงบินแก่กองทัพไทยนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการลงนามในบันทึกความเข้าใจเรื่องการขอใช้สนามบิน

ฟังท่านผูบัญชาการทหารอากาศชี้แจงแล้วเหมือนกับว่า ฝ่ายไทยมีแต่ได้กับได้ ไม่มีอะไรต้องเสีย

อีกทั้งไทยก็คบกับสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว การที่จะคบกับสิงคโปร์ มีความร่วมมือกันทางด้านการทหารในลักษณะของพันธมิตร ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องเสียหาย

แต่ในสายตาของประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา ย่อมตีความถึงความร่วมมือครั้งนี้ ไม่ต่างอะไรกับการให้สิงคโปร์เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย

ขณะที่ประเทศมหาอำนาจ อย่างจีน รัสเซีย แม้กระทั่งโลกมุสลิม ก็มีสิทธิ์คิดต่อเนื่อง นำไปผูกโยงกับสหรัฐอเมริกาเข้าจนได้

เพราะในความเป็นจริงที่เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วก็คือ ก่อนที่สิงคโปร์จะตัดสินใจให้ฟรีเครื่องบินรบชั้นเยี่ยมแก่ไทยครั้งนี้ ได้มีการขออนุญาตสหรัฐฯมาเรียบร้อยแล้ว การผูกโยงไปหาพี่เบิ้มอเมริกา จึงเป็นเรื่องไม่ไกลความเป็นจริงเลย

เป็นที่รับรู้กันว่า ประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันนั้น สิงคโปร์มีแสนยานุภาพทางยุโธปกรณ์ทางการทหารมากที่สุด และกับเพื่อนบ้านติดกันอย่างมาเลเซีย ก็เคยเกิดอาการเททับบลั๊พกันมาตลอด ดูอย่างเรื่องเรือดำน้ำนั่นประไร

การที่สิงคโปร์มาขอใช้ฐานทัพอากาศไทยครั้งนี้ จึงไม่ใช่เรื่องที่มาเลเซียเท่านั้นที่จะเกิดความหวาดระแวง ทว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้งภูมิภาคเอเซีย ก็น่าจะมีความรู้สึกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะพี่ใหญ่ของเอเชียอย่างจีน

เหตุเพราะแสนยานุภาพทางอากาศของสิงคโปร์นั้นล้ำหน้าที่สุดในภูมิภาคนี้ และเป็นที่รับรู้กันว่าทั้งหมดทั้งปวงได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ แถมในสิงคโปร์เองยังมีกองกำลังอเมริกันประจำการอยู่ด้วย

อย่างนี้แล้วจะไม่ให้ประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมเลยไปถึงประเทศกลุ่มกลุ่มเอเซียด้วยกันหวาดระแวงได้อย่างไร

ทว่าสิ่งที่ไทยเราน่าจะต้องตระหนักให้มากที่สุดคือ พันธมิตรที่เป็นพี่เบิ้มของชาติในภูมิภาคนี้ คือ จีน

ระวังความจะกระทบความสัมพันธ์กับประเทศใหญ่สุดของโลกที่ไทยเรากำลังเล็งแลให้เป็นฐานการตลาด ฐานการค้าและการลงทุน และเป็นพัมธมิตรที่ไทยเราต้องการนำไปคานอำนาจกับสหรัฐอเมรกาและชาติยุโรปนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น