ศูนย์ข่าวภูเก็ต-คณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา ตรวจความคืบหน้า การบุกรุกที่ดินหาดเลพัง จ.ภูเก็ต ของนายทุน จี้หน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งสางปัญหาดินสาธารณะ178 ไร่ ที่นายทุนออกเอกสารสิทธิหมดแล้ว ขณะที่กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารสิทธิ และขุมน้ำสาธารณะที่ลากูน่ายึด ไม่ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ นายอำเภอถลาง เตรียมปักป้าย แสดงเป็นที่สาธารณะให้ประชาชนได้ประโยชน์ร่วมกัน
วานนี้ (5 พ.ย.) คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ในคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา นำโดยนายจิโรจน์ โชติพันธุ์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้า การบุกรุกที่ดินบริเวณโรงแรมในเครือบริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จำกัด(มหาชน) บริเวณหาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบ
สำหรับการเดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯได้สอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในภูเก็ต 3 เรื่องหลัก คือ ถนนสาธารณะในโครงการลากูน่าภูเก็ต ที่ดินสาธารณะจำนวน 178 ไร่ ที่บริเวณหน้าโรงแรมบันยันทรี ซึ่งขณะนี้มีการบุกรุกออกเอกสารสิทธิไปแล้วทั้งหมด 9 ราย เกือบเต็มพื้นที่ 178ไร่
ทั้งนี้ หนึ่งในนั้นเป็นบริษัท เจ้าพระยาแลนด์ ของเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์,ขุมเหมืองสาธารณะ"หินหัน" ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างโรงแรม ลากูน่าบีช คลับ กับโรงแรมดุสิตลากูน่า ที่พื้นที่ทั้งหมด 83 ไร่ แต่ขณะนี้เหลือพื้นที่เพียง 46 ไร่เท่านั้น และลากูน่าได้ปิดกันขุมเหมืองไม่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์
สรุปถนน-ขุมเหมืองลากูน่าเป็นที่สาธารณะ
นายสุพจน์ สุวรรณโชติ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงว่า ในส่วนของที่ดินสาธารณะจำนวน 178 ไร่ ขณะนี้กรมที่ดินได้แต่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61ขึ้นมาพิจารณาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าวแล้ว โดยตนเป็นประธาน คาดว่าจะสรุปผลได้ภายใน 2 เดือน ล่าสุดได้ขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในการนำที่ดินดังกล่าวขึ้นเป็นที่ดินสาธารณะแล้ว ซึ่งในส่วนของเอกชน ที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิในที่ดิน ก็จะต้องมีการพิสูจน์สิทธิกัน
นายไพศาล บุญล้อม นายอำเภอถลาง ชี้แจงว่า สภาพของถนนสาธารณะและขุมน้ำสาธารณะ ในโรงแรมของเครือลากูน่า ปัจจุบันมีสภาพเป็นถนนและขุมเหมืองของลากูน่าไปหมดแล้ว เพราะทั้งขุมน้ำและถนนอยู่ภายในโครงการลากูน่า ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ทั้งที่เป็นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เรื่องนี้ตนจะนำป้ายมาปักแสดงให้ชาวบ้านได้รับทราบ ว่า เป็นขุมน้ำและถนนสาธารณะ ประชาชนทุกคนเข้าไปใช้ประโยชน์ได้
ด้านนายวิโรจน์ โชติพันธุ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการปกครองฯชุดนี้ จะตรวจสอบความคืบหน้าการนำที่ดินของรัฐ มาเป็นของเอกชนเหมือนเดิมทุกๆ 3 เดือน และจะเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภูเก็ต เร่งดำเนินการให้ตรวจเร็วยิ่งขึ้น
จากการประชุมร่วมกันในวันนี้ ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า จะมีการปักป้ายแสดงที่ดินสาธารณะและถนนในโครงการของลากูน่าทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และในส่วนของที่ดินจำนวน 178 ไร่ กรมที่ดินได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว
อัยการสูงสุดสั่งฟ้องลากูน่าบีชคลับรุกที่ดินรัฐ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 19 ต.ค. 2547 แจ้งให้ทางจังหวัดภูเก็ต ทราบว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตได้ส่งสำนวนคดีอาญา ส. 2 เลขรับที่ 410/2542 ของสำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต คดี บริษัท ลากูน่าบีชคลับ จำกัด กับพวก เป็นผู้ต้องหา ฐานร่วมกันบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน ซึ่งบริษัทฯมีคำสั่งแย้งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาด
อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว ชี้ขาดว่า ควรสั่งฟ้อง บริษัท ลากูน่าบีชคลับ จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1 และชี้ขาดให้ฟ้องและอนุญาตให้ฟ้อง นายพิทักษ์ บุญพจนสุนทร ผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันเข้าไปยึดถือครองที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน อันราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรการ 9, 108 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ลงวันที่ 29 ก.พ. 2515 ข้อ 11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
วานนี้ (5 พ.ย.) คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ในคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา นำโดยนายจิโรจน์ โชติพันธุ์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้า การบุกรุกที่ดินบริเวณโรงแรมในเครือบริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จำกัด(มหาชน) บริเวณหาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบ
สำหรับการเดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯได้สอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในภูเก็ต 3 เรื่องหลัก คือ ถนนสาธารณะในโครงการลากูน่าภูเก็ต ที่ดินสาธารณะจำนวน 178 ไร่ ที่บริเวณหน้าโรงแรมบันยันทรี ซึ่งขณะนี้มีการบุกรุกออกเอกสารสิทธิไปแล้วทั้งหมด 9 ราย เกือบเต็มพื้นที่ 178ไร่
ทั้งนี้ หนึ่งในนั้นเป็นบริษัท เจ้าพระยาแลนด์ ของเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์,ขุมเหมืองสาธารณะ"หินหัน" ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างโรงแรม ลากูน่าบีช คลับ กับโรงแรมดุสิตลากูน่า ที่พื้นที่ทั้งหมด 83 ไร่ แต่ขณะนี้เหลือพื้นที่เพียง 46 ไร่เท่านั้น และลากูน่าได้ปิดกันขุมเหมืองไม่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์
สรุปถนน-ขุมเหมืองลากูน่าเป็นที่สาธารณะ
นายสุพจน์ สุวรรณโชติ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงว่า ในส่วนของที่ดินสาธารณะจำนวน 178 ไร่ ขณะนี้กรมที่ดินได้แต่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61ขึ้นมาพิจารณาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าวแล้ว โดยตนเป็นประธาน คาดว่าจะสรุปผลได้ภายใน 2 เดือน ล่าสุดได้ขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในการนำที่ดินดังกล่าวขึ้นเป็นที่ดินสาธารณะแล้ว ซึ่งในส่วนของเอกชน ที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิในที่ดิน ก็จะต้องมีการพิสูจน์สิทธิกัน
นายไพศาล บุญล้อม นายอำเภอถลาง ชี้แจงว่า สภาพของถนนสาธารณะและขุมน้ำสาธารณะ ในโรงแรมของเครือลากูน่า ปัจจุบันมีสภาพเป็นถนนและขุมเหมืองของลากูน่าไปหมดแล้ว เพราะทั้งขุมน้ำและถนนอยู่ภายในโครงการลากูน่า ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ทั้งที่เป็นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เรื่องนี้ตนจะนำป้ายมาปักแสดงให้ชาวบ้านได้รับทราบ ว่า เป็นขุมน้ำและถนนสาธารณะ ประชาชนทุกคนเข้าไปใช้ประโยชน์ได้
ด้านนายวิโรจน์ โชติพันธุ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการปกครองฯชุดนี้ จะตรวจสอบความคืบหน้าการนำที่ดินของรัฐ มาเป็นของเอกชนเหมือนเดิมทุกๆ 3 เดือน และจะเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภูเก็ต เร่งดำเนินการให้ตรวจเร็วยิ่งขึ้น
จากการประชุมร่วมกันในวันนี้ ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า จะมีการปักป้ายแสดงที่ดินสาธารณะและถนนในโครงการของลากูน่าทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และในส่วนของที่ดินจำนวน 178 ไร่ กรมที่ดินได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว
อัยการสูงสุดสั่งฟ้องลากูน่าบีชคลับรุกที่ดินรัฐ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 19 ต.ค. 2547 แจ้งให้ทางจังหวัดภูเก็ต ทราบว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตได้ส่งสำนวนคดีอาญา ส. 2 เลขรับที่ 410/2542 ของสำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต คดี บริษัท ลากูน่าบีชคลับ จำกัด กับพวก เป็นผู้ต้องหา ฐานร่วมกันบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน ซึ่งบริษัทฯมีคำสั่งแย้งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาด
อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว ชี้ขาดว่า ควรสั่งฟ้อง บริษัท ลากูน่าบีชคลับ จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1 และชี้ขาดให้ฟ้องและอนุญาตให้ฟ้อง นายพิทักษ์ บุญพจนสุนทร ผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันเข้าไปยึดถือครองที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน อันราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรการ 9, 108 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ลงวันที่ 29 ก.พ. 2515 ข้อ 11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83