ชงแผนพัฒนาอ่าวภูเก็ตเข้าครม.ปลายปี สร้างความมั่นใจเอกชนก่อนเปิดประมูล

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -จังหวัดภูเก็ตตั้งเป้านำโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เสนอขอความเห็นชอบ ในการประชุมครม.สัญจรภาคใต้เดือนธ.ค.นี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชน ก่อนเปิดประมูลเชิญชวนเข้าลงทุนพัฒนาทั้งโครงการ ที่มีมูลค่าสูงถึง 63,000 ล้านบาท

ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อเร็วๆนี้ และต้องการที่จะให้จังหวัดภูเก็ต นำพื้นที่ชายทะเลที่เสื่อมสภาพ มาพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและเพิ่มมูลค่า

จังหวัดภูเก็ตจึงได้นำโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่กรมโยธาธิการและการผังเมือง ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษา เพื่อพัฒนาพื้นที่อ่าวภูเก็ต บริเวณสะพานหินทั้งอ่าว พื้นที่ 2,200 กว่าไร่ ขึ้นเป็นเมืองใหม่มาปัดฝุ่นโครงการใหม่ โดยให้เอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาอ่าวภูเก็ต

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตได้ประชุมคณะกรรมการ ดำเนินงานโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต โดยมีนายยุวัฒน์ วุฒิเมธี เป็นประธาน เพื่อกำหนดกรอบแนวทางการบริหารโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต โดยคณะกรรมการฯประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากกรมโยธาธิการ และการผังเมือง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สภาพัฒน์) เทศบาลเมืองภูก็ต อบต.วิชิต อบต.รัษฎา และสำนักงานจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมกำหนดกรอบแนวทางการ บริหารโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต

ว่าที่ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากกรณีที่จังหวัดภูเก็ตได้เชิญอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่าง TOR โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เพื่อเชิญชวนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนนั้น ได้มีการเสนอแนะให้มีการลงทุนในตลาดกลุ่มประชุมสัมมนา( MICE ) เพราะภูเก็ตมีศักยภาพสูงมาก สามารถคืนทุนภายใน 15 ปี

จากผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาระบุชัดเจนว่าโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต มีความเป็นไปได้สูงที่จะพัฒนาพื้นที่ 2,216 ไร่ ใน 10 กิจกรรมที่กำหนด เพราะเป็นโครงการที่คุ้มทุน และมีความเป็นไปได้ในทางวิศวกรรม ตลอดจนผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจจะมีบ้าง แต่อยู่ในขอบข่ายที่สามารถป้องกันได้
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนสูงถึง 63,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่จะลงทุนน่าจะเป็นภาคเอกชน โดยทางรัฐบาลเข้ามาสนับสนุนการลงทุน ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 4,900 ล้านบาท

ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ได้กำหนดแผนงาน ในการดำเนินการโครงการ ระหว่างปี 2548-2550 ทั้งหมด 11 กิจกรรม ประกอบด้วย การนำเสนอโครงการไปยังกระทรวงต้นสังกัด คือ กระทรวงมหาดไทย เพื่อเสนอต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง จะได้เสนอต่อไปยังสภาพัฒน์ เพื่อที่สภาพัฒน์จะได้เสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งจังหวัดได้กำหนดเป้าหมายที่จะให้ครม.เห็นชอบโครงการ ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2548

หลังจากนั้นหน่วยงานต้นสังกัดต่างๆ จะได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาศึกษารายละเอียดโครงการ และขีดความสามารถของโครงการ รวมทั้งมีการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากโครงการ พร้อมทั้งประกาศเชิญชวนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน และกำหนดเป้าหมาย ที่จะให้เอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการได้ประมาณปี 2550

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีการหารือ ในขั้นตอนการลงทุนของเอกชน ทั้งในส่วนที่ให้เอกชนลงทุนร่วมกับรัฐบาลตามพ.ร.บ.การร่วมทุน ระหว่างรัฐบาลและเอกชน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า หากให้มีการลงทุนตามพ.ร.บ.ดังกล่าว จะล่าช้า จึงได้กำหนดแนวทางให้มีการนำแผนแม่บทการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่กรมโยธาธิการและการผังเมืองได้ศึกษาไว้แล้ว เสนอขอความเห็นชอบจากครม. ที่จะเดินทางมาประชุมที่จ.ตรัง ในเดือนธันวาคม เพื่อให้เอกชนที่จะเข้ามาลงทุนเกิดความมั่นใจ จากนั้นก็จะเปิดประมูล เพื่อคัดเลือกบริษัทเอกชนเพียง 1 รายเข้ามาศึกษารายละเอียดโครงการทั้งหมด ตาม TOR ที่คณะกรรมการฯกำหนด

สำหรับผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา ในการพัฒนาอ่าวภูเก็ต จะใช้พื้นที่ทั้งหมด 2,216 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 เกาะ คือ เกาะ MICE และเกาะMARINA ใช้งบประมาณในการลงทุน 63,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 10 กิจกรรมหลัก คือ โครงการ MICE อาคารสำนักงาน ศูนย์อาหารและภัตตาคารโรงแรม อพาร์ตเมนต์ ศูนย์การค้า พาณิชยกรรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สถานบันเทิง ศูนย์กีฬา โรงพยาบาล และโครงการมารีนา