ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินเชียงใหม่ระยะแรกเสร็จแล้ว เดินหน้าสร้างอาคารใหม่เพิ่ม พร้อมเตรียมออกแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ โดยเน้นเอกลักษณ์ความเป็นล้านนา อำนวยความสะดวกได้ครบวงจร คาดแบบเสร็จ ก.พ.48 นี้ เผยผลการให้บริการ 11 เดือนปีงบ 47 จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 26% และจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 32% แต่การขนส่งสินค้าลดลงเล็กน้อย
เรืออากาศโทสุธารา ห่วงสุวรรณ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ว่า การพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้นเวลานี้ในส่วนของการปรับปรุงก่อสร้างอาคารห้องผู้โดยสารขาเข้า-ออกระหว่างประเทศ และสะพานเทียบ 1 ตัว ได้ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วโดยใช้งบประมาณ 114 ล้านบาท ขณะที่การก่อสร้าง Central Block ซึ่งเป็นอาคารที่จะใช้เป็นอาคารสำนักงานของสายการบินต่างๆ และห้องรับรองพิเศษ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อใช้ทดแทนพื้นที่เดิมที่นำไปใช้ปรับปรุงเป็นอาคารห้องผู้โดยสารขาเข้า-ออกระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกันเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมาได้เริ่มต้นสัญญาจ้างกลุ่มบริษัทเอกชนในการให้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งในส่วนของการออกแบบได้เริ่มมีการดำเนินการไปแล้ว ภายใต้แนวความคิดการปรับปรุงโครงสร้างทั้งภายในและภายนอกอาคารให้มีความโดดเด่นเน้นเอกลักษณ์ความเป็นล้านนาอย่างแท้จริงและบ่งบอกถึงความเป็นท่าอากาศยานเชียงใหม่ แม้ว่าจะเป็นอาคารที่มีขนาดไม่ใหญ่โตแต่ตั้งใจว่าจะให้เป็นอาคารที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดสามารถให้บริการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างครบวงจร และจะเป็นอาคารที่มีความสวยงามมากที่สุด
ทั้งนี้ ในขั้นตอนของการออกแบบอาคารดังกล่าวได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมล้านนาจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สมาคมสถาปนิกล้านนา และสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมให้ความเห็นและข้อมูลแก่บริษัทที่ทำการออกแบบอาคาร เพื่อรวบรวมแนวคิดนำไปใช้ในการออกแบบ ซึ่งการออกแบบอาคารนี้คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2548 โดยที่หากการออกแบบส่วนใดแล้วเสร็จก่อนจะทำการประมูลทำการก่อสร้างเลยเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ
“อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่นี้ เบื้องต้นได้มีการออกแบบไว้เป็นตัวอย่างแล้วหลายรูปแบบเพื่อเลือกรูปแบบที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยเน้นที่เอกลักษณ์ความเป็นล้านนา ซึ่งในที่สุดแล้วตั้งใจว่าอาคารหลังนี้จะเป็นอาคารท่าอากาศยานที่มีความสวยงามมากที่สุด ในขณะเดียวกันกับที่สามารถบริการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างครบวงจร” เรืออากาศโทสุธารากล่าว
สำหรับการปรับปรุงทางวิ่งของท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยการขยายความยาวทางวิ่งเพื่อให้สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่เชื่อมโยงกับทวีปยุโรปได้นั้น จากการที่บริษัทที่ปรึกษาได้ทำการศึกษาผลกระทบแล้วและนำเรื่องเสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติทำการพิจารณา ซึ่งจากการวินิจฉัยในเบื้องต้นได้ให้ข้อเสนอแนะว่าให้ทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และบริษัทที่ปรึกษาได้ดำเนินการแล้ว แต่เวลานี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการรอพิจารณา ซึ่งความล่าช้าที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติชุดเดิมได้หมดวาระลง และกำลังรอการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนนี้ จึงจะมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร
ส่วนการพัฒนาปรับปรุงส่วนอื่นๆ ของท่าอากาศยานเชียงใหม่นั้น ในขณะนี้ยังได้มีการดำเนินการก่อสร้างลานจอดอากาศยานเพิ่มเติม การขยายความกว้างของทางวิ่ง และหากการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วจากนั้นจะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมให้เป็นห้องผู้โดยสารขาเข้า-ออกภายในประเทศทั้งหมด ทั้งนี้คาดว่าในปี 2548 การปรับปรุงพัฒนาต่างๆ ในส่วนของโครงสร้างหลักจะแล้วเสร็จไปมากพอสมควร และเชื่อมั่นว่าในปี 2549 จะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด อย่างไรก็ตามในระหว่างการปรับปรุงพัฒนานี้ยืนยันว่าท่าอากาศยานสามารถรองรับการจราจรทางอากาศที่เชื่อมโยงในภูมิภาคและระหว่างทวีปได้อย่างไม่ขัดข้องแน่นอน
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ผลจากโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจะใช้รองรับการเจริญเติบโตของการเดินทางและขนส่งทางอากาศได้อีกนานเท่าใด เพราะต้องพิจารณาดูจากอัตราการเจริญเติบโตของจำนวนผู้โดยสารและสายการบิน ซึ่งในเวลานี้ยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าจะมีการเจริญเติบโตอย่างไรและมากน้อยเพียงใด ส่วนการที่เคยมีผู้เสนอเกี่ยวกับการย้ายท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปอยู่ในพื้นที่ใหม่เพื่อรองรับการเจริญเติบโตนั้น เป็นเรื่องที่มีปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณามากเกินกว่าที่ฝ่ายปฏิบัติอย่างท่าอากาศยานจะออกความเห็นได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายหรือรัฐบาลที่มีข้อมูลมากกว่าจะทำหน้าที่พิจารณาตัดสินใจตามความเหมาะสม
นอกจากนี้เรืออากาศโทสุธารา กล่าวถึงสรุปผลการดำเนินงานด้านการบริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ระหว่าง ต.ค.46-ส.ค.47 ว่า มีจำนวนเที่ยวบินจำนวน 18,423 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26.19 มีจำนวนผู้โดยสาร 2,455,251 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 32.09 และมีปริมาณการขนส่งสินค้าจำนวน 22,645 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.87
อนึ่ง โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 1,108 ล้านบาท เพื่อทำการพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานเชียงใหม่ระหว่างปี 2546-2549 ให้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพรองรับการเจริญเติบโตของการขนส่งทางอากาศตามนโยบายรัฐบาลในการผลักดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในภูมิภาค
เรืออากาศโทสุธารา ห่วงสุวรรณ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ว่า การพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้นเวลานี้ในส่วนของการปรับปรุงก่อสร้างอาคารห้องผู้โดยสารขาเข้า-ออกระหว่างประเทศ และสะพานเทียบ 1 ตัว ได้ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วโดยใช้งบประมาณ 114 ล้านบาท ขณะที่การก่อสร้าง Central Block ซึ่งเป็นอาคารที่จะใช้เป็นอาคารสำนักงานของสายการบินต่างๆ และห้องรับรองพิเศษ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อใช้ทดแทนพื้นที่เดิมที่นำไปใช้ปรับปรุงเป็นอาคารห้องผู้โดยสารขาเข้า-ออกระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกันเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมาได้เริ่มต้นสัญญาจ้างกลุ่มบริษัทเอกชนในการให้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งในส่วนของการออกแบบได้เริ่มมีการดำเนินการไปแล้ว ภายใต้แนวความคิดการปรับปรุงโครงสร้างทั้งภายในและภายนอกอาคารให้มีความโดดเด่นเน้นเอกลักษณ์ความเป็นล้านนาอย่างแท้จริงและบ่งบอกถึงความเป็นท่าอากาศยานเชียงใหม่ แม้ว่าจะเป็นอาคารที่มีขนาดไม่ใหญ่โตแต่ตั้งใจว่าจะให้เป็นอาคารที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดสามารถให้บริการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างครบวงจร และจะเป็นอาคารที่มีความสวยงามมากที่สุด
ทั้งนี้ ในขั้นตอนของการออกแบบอาคารดังกล่าวได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมล้านนาจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สมาคมสถาปนิกล้านนา และสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมให้ความเห็นและข้อมูลแก่บริษัทที่ทำการออกแบบอาคาร เพื่อรวบรวมแนวคิดนำไปใช้ในการออกแบบ ซึ่งการออกแบบอาคารนี้คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2548 โดยที่หากการออกแบบส่วนใดแล้วเสร็จก่อนจะทำการประมูลทำการก่อสร้างเลยเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ
“อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่นี้ เบื้องต้นได้มีการออกแบบไว้เป็นตัวอย่างแล้วหลายรูปแบบเพื่อเลือกรูปแบบที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยเน้นที่เอกลักษณ์ความเป็นล้านนา ซึ่งในที่สุดแล้วตั้งใจว่าอาคารหลังนี้จะเป็นอาคารท่าอากาศยานที่มีความสวยงามมากที่สุด ในขณะเดียวกันกับที่สามารถบริการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างครบวงจร” เรืออากาศโทสุธารากล่าว
สำหรับการปรับปรุงทางวิ่งของท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยการขยายความยาวทางวิ่งเพื่อให้สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่เชื่อมโยงกับทวีปยุโรปได้นั้น จากการที่บริษัทที่ปรึกษาได้ทำการศึกษาผลกระทบแล้วและนำเรื่องเสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติทำการพิจารณา ซึ่งจากการวินิจฉัยในเบื้องต้นได้ให้ข้อเสนอแนะว่าให้ทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และบริษัทที่ปรึกษาได้ดำเนินการแล้ว แต่เวลานี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการรอพิจารณา ซึ่งความล่าช้าที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติชุดเดิมได้หมดวาระลง และกำลังรอการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนนี้ จึงจะมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร
ส่วนการพัฒนาปรับปรุงส่วนอื่นๆ ของท่าอากาศยานเชียงใหม่นั้น ในขณะนี้ยังได้มีการดำเนินการก่อสร้างลานจอดอากาศยานเพิ่มเติม การขยายความกว้างของทางวิ่ง และหากการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วจากนั้นจะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมให้เป็นห้องผู้โดยสารขาเข้า-ออกภายในประเทศทั้งหมด ทั้งนี้คาดว่าในปี 2548 การปรับปรุงพัฒนาต่างๆ ในส่วนของโครงสร้างหลักจะแล้วเสร็จไปมากพอสมควร และเชื่อมั่นว่าในปี 2549 จะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด อย่างไรก็ตามในระหว่างการปรับปรุงพัฒนานี้ยืนยันว่าท่าอากาศยานสามารถรองรับการจราจรทางอากาศที่เชื่อมโยงในภูมิภาคและระหว่างทวีปได้อย่างไม่ขัดข้องแน่นอน
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ผลจากโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจะใช้รองรับการเจริญเติบโตของการเดินทางและขนส่งทางอากาศได้อีกนานเท่าใด เพราะต้องพิจารณาดูจากอัตราการเจริญเติบโตของจำนวนผู้โดยสารและสายการบิน ซึ่งในเวลานี้ยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าจะมีการเจริญเติบโตอย่างไรและมากน้อยเพียงใด ส่วนการที่เคยมีผู้เสนอเกี่ยวกับการย้ายท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปอยู่ในพื้นที่ใหม่เพื่อรองรับการเจริญเติบโตนั้น เป็นเรื่องที่มีปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณามากเกินกว่าที่ฝ่ายปฏิบัติอย่างท่าอากาศยานจะออกความเห็นได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายหรือรัฐบาลที่มีข้อมูลมากกว่าจะทำหน้าที่พิจารณาตัดสินใจตามความเหมาะสม
นอกจากนี้เรืออากาศโทสุธารา กล่าวถึงสรุปผลการดำเนินงานด้านการบริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ระหว่าง ต.ค.46-ส.ค.47 ว่า มีจำนวนเที่ยวบินจำนวน 18,423 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26.19 มีจำนวนผู้โดยสาร 2,455,251 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 32.09 และมีปริมาณการขนส่งสินค้าจำนวน 22,645 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.87
อนึ่ง โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 1,108 ล้านบาท เพื่อทำการพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานเชียงใหม่ระหว่างปี 2546-2549 ให้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพรองรับการเจริญเติบโตของการขนส่งทางอากาศตามนโยบายรัฐบาลในการผลักดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในภูมิภาค