xs
xsm
sm
md
lg

ควักจ่ายชดเชยศพลละแสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฯออกทีวีแจงเหตุผลในการสลายม็อบตากใบ ยอมรับผิดพลาดในขั้นตอนการขนย้าย พร้อมควักเงินส่วนตัวจ่ายชดเชยให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 แสนบาท ตั้งกรรมการอิสระขึ้นมาสอบสวนหาคนผิด ขณะที่เหตุการณ์รุนแรงเกิดต่อเนื่อง ระเบิดที่ยะลา 2 ลูก มำให้บาดเจ็บระนาว ตาย 1

เมื่อเวลา 21.00 น.วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์สลายม็อบที่บริเวณหน้า สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ อ.ตากใบ นั้นเป็นผลพวงมาจากการที่มีความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 25 ต.ค.เกิดการปลุกระดมประชาชนพันกว่าคน ไปที่สภ.อ.ตากใบ เพื่อจะกดดันให้มีการปล่อยผู้ต้องหา 6 คน ซึ่งเป็นชุดรักษาป้องกันหมู่บ้าน (ชรบ.)ที่สร้างสถานการณ์ถูกปล้นปืน ซึ่งหากทางราชการยังปล่อยตัวผู้ต้องหาต่อไป ก็คิดว่ากฎหมายบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ จึงได้บอกกับเจ้าหน้าที่ให้ใช้ความนิ่มนวลในการเจรจาให้เขาถอยออกไป แต่ก็ไม่มีใครยอมถอยออกไป แถมมีการโห่ร้อง ปลุกระดมตลอดเวลา ถ้าปล่อยไว้เกรงว่าจะเกิดจลาจลใหญ่ ก็เลยจำเป็นที่ต้องเข้าไปสลายม็อบ โดยฉีดน้ำดับเพลิงเข้าไป ยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปและมีการยิงปืนขึ้นฟ้า ในที่สุดก็ให้หมอบแล้วเจ้าหน้าที่ก็ไปมัดตัว

แต่สิ่งที่น่าเสียใจก็คือว่าขั้นตอนการลำเลียง ซึ่งรถมีอยู่ไม่มาก ตอนแรกๆ ก็บรรทุกไม่มากประมาณ 30-40 คนต่อคันไปถึงก็ประมาณทุ่มกว่าๆ แพทย์ก็พบว่ามีคนตายอยู่ 1 คน แต่พอมารุ่นหลังๆเวลาก็ดึกเข้า เข้าใจว่าคันสุดท้ายจะออกประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ เพราะจำนวนผู้ถูกจับกุมทั้งหมด 1,200 กว่าคน ก็จึงต้องเบียดเสียดกันเข้าไป โดยให้นอนคว่ำหน้าหลายชั้น เพราะเนื่องจากว่าที่บรรทุกไม่พอ จึงมีการเสียชีวิตไปหลายคน

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 85 ราย และจะเยียวยา ชดเชยดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นคนผิดหรือไม่ผิดก็ตาม นอกจากนั้น จะตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมด โดยจะให้นาย พิเชต สุนทรพิพิธ อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เป็นประธานและเป็นคณะประกอบด้วยนักกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาอิสลาม และผู้ที่เข้าใจการแก้ปัญหาเรื่องฝูงชน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเที่ยงธรรม

"ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดเพื่อแผ่นดินไทย เพื่อพี่น้องคนไทย และหวังว่าความร่วมมือจากพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำทั้งหลายในศาสนาอิสลามที่อยู่ทางภาคใต้จะได้มาช่วยกันนำความสงบกลับคืนมาไม่มีที่ใดที่จะอบอุ่นและร่มเย็นเท่ากับแผ่นดินไทยครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด"นายกรัฐมนตรี กล่าว (อ่านรายละเอียด แถลงการณ์นายกรัฐมนตรี)

ช่วยครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ1แสน

ก่อนหน้านี้เวลา 11.00 น. คณะกรรมการกลางอิสลามประจำ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าพบ นายกรัฐมนตรีเพื่อรับมอบเงินสนับสนุนมัสยิดต่างๆ ในเทศกาลละศีลอด โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับคณะกรรมการกลางอิสลามฯว่า ต้องแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่สูญเสีย และรัฐบาลขอยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเรื่องของศาสนา แต่เป็นเรื่องของกฎกติกาบ้านเมือง บังเอิญว่าการสลายการชุมนุมมีการเคลื่อนย้าย และมีพฤติกรรมที่ไม่น่าเกิดขึ้น ขณะนี้กำลังดำเนินการสอบสวน คิดว่าจะเสร็จภายในเร็ว ๆ นี้ อะไรผิดว่าไปตามผิด และเมื่อพบว่ามีความผิดก็ต้องยอมรับ แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลมีความตั้งใจและห่วงใยจริงๆ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตครอบครัวละ 1 แสนบาท รวมทั้งสิ้น 8.5 ล้านบาทด้วยโดยเป็นเงินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีทั้งหมด รวมทั้งได้มอบเงินสนับสนุนมัสยิดอีกจำนวน 8,230,000 บาท โดยให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส.ส.กลุ่มวากะห์และกรรมการอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นผู้แทนรัฐบาล เพื่อมอบให้กับมัสยิด 1,646 แห่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งละ 5,000 บาท ไว้ใช้จัดงานละศีลอด และสั่งให้ ส.ส.กลุ่มวาดะห์ ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน

แจงไม่ได้มอบเงินเพราะปัญหาใต้

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากประธานคณะกรรมการกลางอิสลามใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ ส.ส.ในพื้นที่ ไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า นายกรัฐมนตรีเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลพยายามปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นรัฐบาลก็ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด รัฐบาลไม่ได้ต้องการที่จะทำอะไรรุนแรงจนเกิดการเสียชีวิต

"การมอบเงินครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะเกิดเหตุการณ์ที่ อ.ตากใบ แต่นายกรัฐมนตรีตั้งใจตั้งแต่วันที่เริ่มถือศีลอดแล้วว่าจะทำอย่างไรจะได้มีส่วนร่วมในการทำบุญ ในช่วงเทศกาลสำคัญของชาวไทยมุสลิม จึงร่วมกันทำบุญมัสยิด เพื่อให้เกิดความสามัคคี และมอบหมายให้คณะกรรมการกลางอิสลาม และ ส.ส. ในพื้นที่ร่วมดำเนินการ" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

ทั้งนี้ เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ทางกระทรวงกลาโหม เสนอของบประมาณขึ้นมาและวันที่ 1 พ.ย.นี้ นายวันมูหะมัดนอร์ จะเป็นตัวแทนรัฐบาลมอบเงินดังกล่าวให้กับบรรดาโต๊ะอิหม่ามที่ จ.นราธิวาส ส่วนนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมช.ศึกษาธิการ จะไปดำเนินการที่ จ.ปัตตานี

นายอารีย์เพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.นราธิวาส กล่าวว่า ต้องการให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ เพราะราชการอย่างเดียวการแก้ไขคงไม่ทั่วถึง และนายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่า เป็นปัญหาของชาติ ไม่ใช่พรรคการเมือง และนักการเมืองใด แม้แต่ฝ่ายค้านก็ต้องการให้เข้ามาร่วมมือในการแก้ปัญหาด้วย

"กก.กลางอิสลาม"ชี้รัฐรับผิดชอบ

ด้านนายแวดือราแม มะมิงจิ คณะกรรมการกลางอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ประชาชนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวที่มีญาติเสียชีวิต รัฐบาล และนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จะรอฟังการชี้แจงของรัฐบาลก่อน ส่วนสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาลจะช่วยดูแลประสานงานอย่างไร

นายอับดุลเราะมาน อับดุลสะมัด ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังประสานงานกับกรรมการอิสลามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อประชุมวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งหมดร่วมกัน พร้อมกำหนดท่าทีและกิจกรรมต่อไป นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ทางสำนักจุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเร่งเรียกประชุมคณะกรรมการอิสลามฯ เพื่อร่วมกันคลี่คลายสถานการณ์ภาคใต้ด้วย

"ประทิน"บี้แม่ทัพภาค4รับผิดชอบ

พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภา ศึกษาความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ภายหลังการลงพื้นที่ไปดูข้อเท็จและพูดคุยกับผู้ต้องหาพบว่า ลักษณะการลำเลียงผู้ต้องหาจะอยู่ในลักษณะมือถูกมัดและนอนคว่ำหน้าทับกันมาบนรถบรรทุก 6 ล้อ คนที่เสียชีวิตจะเป็นคนที่อยู่แถวล่างที่ถูกทับ แต่เท่าที่ดูจะเห็นว่าไม่มีเจตนาให้เสียชีวิต แต่น่าจะเกิดจากความบกพร่องในช่วงของการนำคนขึ้นรถ สำหรับข้อสงสัยที่ว่ามีการนำผ้าใบไปคลุมรถจนไม่มีอากาศหายใจนั้นไม่มี

เรื่องนี้แม้ว่าจะไม่มีเจตนาแต่ก็ต้องมีการรับผิดชอบ เพราะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จะบอกว่าเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้ และเรื่องนี้ พล.ท.พิศาล วัฒนวงศ์คิรี แม่ทัพภาคที่ 4 จะต้องรับผิดชอบเต็มที่อยู่แล้ว

ชี้ย้ายแม่ทัพภาค4ขึ้นอยู่กับนายกฯ

พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ รมว.กลาโหม กล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบแล้ว คิดว่าประชาชนจะเกิดความเข้าใจ ส่วนกรณีที่ ส.ว.เรียกร้องให้แม่ทัพภาคที่ 4 แสดงความรับผิดชอบต่อการตายของผู้ชุมนุมนั้น ขอให้รอผลการสอบสวนก่อน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ.กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกองทัพบกรู้สึกเสียใจ ทั้งนี้ การดำเนินการสลายการชุมนุมและการขนย้ายผู้ถูกจับกุมผู้ชุมนุมเป็นเรื่องของ กอ.สสส.จชต. และกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า รวมทั้งแผนยุทธการณ์และแผนปฎิบัตด้วย กองทัพบกสนับสนุนด้านกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เท่านั้น ส่วนจะมีการสั่งย้ายแม่ทัพภาคที่ 4 หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้พิจารณา ตนพิจารณาลงโทษไม่ได้ อาจจะเป็นผู้เสนอได้ แต่ต้องรอผลการสอบสวนก่อน

ผบ.ตร.ตั้ง147นายสอบม็อบตากใบ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน 147 นาย โดยมี พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ (สบ.11) ที่ปรึกษากฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาคณะพนักงานสอบสวน, พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ รองผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน, พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สมศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบช.ภ.8 ,พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผบช.ก.,พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ผบช.ภ.9 และพล.ต.ท.จักรทิพย์ กุญชร ณ อยุธยา เป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยนายตำรวจตั้งแต่ระดับรองผกก.-รองผบช.อีก 140 นาย เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนเหตุความรุนแรงในการชุมนุมปิดล้อม สภ.อ.ตากใบ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 85 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

"ครูใต้"ผวาขอเลือนเปิดภาคเรียน

นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีการเปิดเรียนของโรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้ให้หลักการไปแล้วว่าให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้ตัดสินใจและดูแลสถานศึกษาอย่างใกล้ชิด หากโรงเรียนใดยังไม่สบายใจที่จะเปิดเรียนก็ให้ทำความเข้าใจกันภายในพื้นที่ แต่จะไม่มีคำสั่งออกไปจากส่วนกลางให้ปิดเรียน หรือเปิดเรียนทั้งระบบแน่นอน ซึ่งขณะนี้มีสถานศึกษาบางแห่งรายงานเข้ามาขอเลื่อนวันเปิดภาคเรียนบ้างแล้ว

นายสงวน อินทร์รักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกกระดูกหมูในฐานะเลขาธิการสหพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากการสอบถามโรงเรียนต่างๆ ทางโทรศัพท์อาจจะมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้นักเรียนและครูปลอดภัย เนื่องจากครูกลัวคนร้ายจะเข้าไปวางระเบิดในโรงเรียนที่มีนักเรียนมากๆ ทำให้เป็นห่วงว่าผลเสียหายจะไม่เกิดขึ้นเฉพาะครูเท่านั้น แต่เด็กจะโดนไปด้วย

จุดเทียนประท้วงหน้าทำเนียบ

ด้านความเคลื่อนไหวขององค์กรต่างๆ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงค่ำวานนี้ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลได้มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และสมาชิกจากสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ประมาณ 150 คนเดินทางมารวมตัวเพื่อจุดเทียนแสดงพลังประท้วงกรณีเหตุความรุนแรงที่ สภ.อ.ตากใบและร่วมไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 85 คน โดยมีการชุมนุมกันอย่างสงบนานประมาณ 1 ชั่วโมงจึงได้สลายตัวกลับ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลประมาณ 50 นาย มาดูแลความปลอดภัย

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับและรับประทานอาหารค่ำกับนายมไว คิบาคิ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเคนยา และภริยา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

สภาทนายฯจี้ให้โอนคดีเข้ากรุง

ขณะที่สภาทนายความ โดยนายอุดมเดช ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ได้แถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ 5 ประการ คือ 1.ต้องดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการในเหตุการณ์ทั้งหมดโดยเร็ว 2.ต้องสั่งหน่วยงานของรัฐบาลปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวอย่างมีมนุษยธรรม เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 3.ต้องแสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา โดยการมอบหมายให้หน่วยงานอิสระตรวจสภาพการคุมขัง และพบกับผู้ถูกคุมขังได้ในทันที 4.ควรดำเนินการปรับเปลี่ยนนโยบายการรักษาความสงบใน 3 จังหวัดภาคใต้โดยเร็ว และ 5.ต้องชี้แจงต่อองค์การสหประชาชาติได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ นายกสภาทนายความ ยังได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง การให้ความช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาทุกราย และอาจจะพิจารณาร้องขอต่อศาลให้โอนคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในศาล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ามานำสืบคดีที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อความปลอดภัย

แฉพบม็อบตากใบลอยอึด18ศพ

นายอภิชาต ทองอยู่ โฆษกพรรคมหาชน กล่าวว่า มีชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าในระหว่างการสลายการชุมนุม เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ โดยมีชาวบ้านเห็นเจ้าหน้าที่ถีบผู้ชุมนุมตกลงไปในแม่น้ำ หลังจากนั้นก็มีศพซึ่งเป็นคนในพื้นที่ได้ลอยอืดขึ้นมาบริเวณบ้านปุลาปานแย อ.ตากใบ ซึ่งใกล้จะไหลออกสู่ทะเลแล้วถึง 18 ศพ โดยชาวบ้านได้เก็บขึ้นมาทำพิธีศพเอง 2 ราย นอกนั้นมีทหารมาเก็บศพในภายหลังแต่ไม่ทราบว่านำไปไว้ที่ไหน จึงอยากให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดว่ามีผู้เสียชีวิตกี่คน และที่เหลือนำศพไปเก็บไว้ที่ไหน

ส.ยุวมุสลิมรัฐบาลรับผิดชอบ

ขณะเดียวกันที่ จ.ปัตตานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีการแจกใบแถลงการณ์ของสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย โดยในแถลงการณ์มีทั้งประณามและเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้น คือ 1.การสลายการชุมนุมเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ มีการใช้อาวุธสงคราม และวิธีการปฏิบัติที่รุนแรงเยี่ยงนักโทษ มีการมัดมือไขว้หลัง ถอนเสื้อตากแดด ตบตีผู้ชุมนุม 2.การสลายการชุมนุมเป็นการกระทำที่ผิดพลาดร้ายแรงและไร้มนุษยธรรม ไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ลำเลียงผู้ชุมนุมที่อัดแน่นในรถบรรทุก ไม่เคารพศาสนปฏิบัติของผู้ชุมนุมที่อยู่ในระหว่างการถือศีลอด

3.รัฐบาลต้องรับผิดชอบและต้องชี้แจงข้อเท็จจริง 4.รัฐบาลต้องตั้งองค์กรอิสระไต่สวนหาผู้กระทำผิด 5.รัฐบาลต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม 6.ต้องให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต 7.ขอให้แก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และ 8.ขอให้มุสลิมทุกคนละหมาดให้กับศพผู้เสียชีวิต ณ มัสยิดแต่ละชุมชน

จุฬาฯแถลงการณ์ตำหนิรัฐบาล

ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกกังวลต่อวิธีการแก้ไขปัญหาและประณามความรุนแรงดังกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อการกระทำอันปราศจากมนุษยะรรม ขอโทษต่อผู้เสียชีวิต และเยี่ยวยาครอบครัวที่เสียชีวิต รวมทั้งจะต้องดำเนินการให้สาธารณชนมีความไว้วางใจได้ว่า การกระทำโดยขาดมนุษยธรรมดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น และผู้ที่ปฏิบัติงานโดยขาดมนุษยธรรมควรได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

สมเด็จฯทรงเป็นห่วงปัญหาใต้

มีรายงานจากกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า ระบุว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินกลับจากการแปรพระราชฐานจากพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส และทรงปฏิบัติภารกิจในการเยี่ยมราษฎรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะพระราชทานความช่วยเหลือในหลายโครงการต่อญาติของผู้ที่ได้รับความสูญเสียใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ และทรงแปรพระราชฐานไปยังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร ต่อไป

ท่องเที่ยวหาดใหญ่กระทบหนัก

นายสมชาติ พิมธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่- สงขลา เผยว่า ขณะนี้มีการยกเลิกจองห้องพักช่วงฮารีรายอระหว่างวันที่ 13-14 พ.ย.นี้แล้ว ร้อยละ 20 - 30 หลังมาเลเซียเสนอข่าวความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยเฉพาะเหตุระเบิดที่สุไหงโก-ลก และที่ จ.ยะลา ยิ่งทำให้มองว่าเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีมาตั้งแต่มีการสลายการชุมนุมประชาชนใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แล้ว ล่าสุดเกิดเหตุระเบิดที่สุไหงโก-ลก ทำให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียเสียชีวิต เกรงจะทำให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียไม่กล้าเดินทางเข้ามา อีกทั้งทางการมาเลเซีย ได้เตือนนักท่องเที่ยวถึงความไม่ปลอดภัยทางภาคใต้ของไทย

เพิ่มความปลอดภัยแบงก์เข้ม

นายกำธร นพคุณขจร ประธานชมรมธนาคารจังหวัดปัตตานี เปิดเผยถึงการประชุมตัวแทนธนาคารต่างๆ ในพื้นที่ว่า ขณะนี้ทุกธนาคารได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โดยเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจาก 1 คนต่อกะ เป็นกะละ 2 คน ในการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งบริเวณด้านหน้าสำนักงาน ลานจอดรถ หรือภายในสำนักงาน รวมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดตรวจสอบความเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยบางธนาคารจะติดตั้งกล้องวงจรปิดถึง 2 ตัว คือ ภายในสำนักงานและภายนอกอาคาร เพื่อตรวจสอบสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัย

นายกำธร กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการทำงานของธนาคารโดยเฉพาะพนักงานธนาคารต่างๆ นั้นต่างเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจำเป็นต้องระมัดระวังตัวกันอย่างมาก เพราะสถานการณ์ขณะนี้ต้องยอมรับว่าทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ล้วนมีความหวาดกลัวว่าไม่รู้จะเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไร หรือกับใคร เพราะเหตุการณ์มีความสับสนอย่างมาก

พบผู้ชุมนุมเกี่ยวข้องความผิด207ราย

พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ประสานงานทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยที่ จ.ปัตตานี ถึงผลการตรวจสอบประวัติผู้ถูกควบคุมในเหตุการณ์ชุมนุม สภ.อ.ตากใบ 1,298 คน ว่า เบื้องต้นผลปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้ายะลา และกองจดทะเบียนประวัติอาชญากร ซึ่งร่วมกันตรวจสอบประวัติผู้ถูกควบคุมดังกล่าวทั้งหมด พบว่ามีบุคคลถูกออกหมายจับ 16 คน เพิ่งพ้นโทษ 31 คน และมีการทำความผิดมาก่อนแต่ยังไม่ทราบผลคดี 160 คน รวมเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทำความผิด 207 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ตรวจสอบรายละเอียดประวัติเพิ่มเติม

ระเบิดยะลา2ลูกซ้อนตายเจ็บระนาว

ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเช้าวานนี้ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นถึง 2 ลูกซ้อนที่ร้านน้ำกาแฟ ไม่มีชื่อ เลขที่ 399 ถนนสิโรรส ในเขตเทศบาลนครยะลาตั้งอยู่ริมฟุตบาทข้างๆ โรงเรียนอนุบาลปรานีต และสำนักงานไปรษณีย์ ยะลา ซึ่งเป็นบ้านของนางขนอม สุวรรณยูหะ อายุ 60 ปี มีเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย

โดยระเบิดลูกแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น. หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา ขวัญยืน ผบก.ยะลาและกำลังตำรวจ ทหาร ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้เก่าชั้นเดียว เปิดเป็นร้านขายน้ำชา กาแฟ และก๋วยเตี๋ยว สภาพบ้านฝาผนังถูกแรงระเบิดเป็นรูโบ๋ ภายในร้านมีผู้บาดเจ็บร้องครวญคราญ 8 คน เจ้าหน้าที่ได้รีบนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา คือ นายสนธยา รักแหยม อายุ 29 ปี นายโสภณ สุทธิโพธิ์ อายุ 27 ปี นางสุพัฒนา แวนาแว อายุ 31 ปี ส.ต.ท.วิทูร จันทรบานใจ อายุ 34 ปี ส.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ พละไชย อายุ 37 ปี นางวิวรรณ มุสิกสังข์ อายุ 29 ปี นงพรพิศ แก้วเขียว อายุ 36 ปี และนายณรงค์ศักดิ์ ชัยสมบูรณ์ อายุ 29 ปี ทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บทั้งหมดนั่งดื่มกาแฟที่เกิดเหตุ โดยคนร้ายได้นำระเบิดชนิดแสวงเครื่องแอบวางไว้ที่รั้วเสาปูนข้างร้านใต้ต้นเนินหูกวาง ระหว่างร้านที่เกิดเหตุกับโรงเรียนอนุบาลปรานีต โดยไม่มีใครคาดคิด อยู่ๆ ก็เกิดระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทุกคนที่อยู่ในร้านถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ลูกที่สองตูมสนั่นซ้ำตร.เจ็บเพียบ

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ทศพล เทพพิชัยยานนท์ สว.งานตรวจที่เกิดเหตุ กองวิทยาการเขต 12 ยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิรัตน์ ปรักกมะกูล ผกก.วท.เขต 12 ยะลา และกำลังเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้ระเบิดของ กก.9 บก.กฝ. ตชด ค่ายท่านมุข อ.สะเดา จ.สงขลา 4 คนเข้าไปทำการเก็บกู้และตรวจสอบที่เกิดเหตุเกรงว่าจะมีระเบิดอีกลูกหลงเหลืออยู่

ในระหว่างการตรวจเก็บกู้และตรวจหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเวลา 09.00 น.ได้เกิดระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางนายตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่ที่เดินทางควบคุมการทำงานและกองทัพสื่อมวลชนทั้งท้องถิ่นและส่วนกลางเป็นจำนวนมาก โดยสื่อมวลชนนั้นถูกกั้นออกไปห่างจุดระเบิดประมาณ 30 เมตร หลังเกิดเหตุพบภาพอนาถตา มี เจ้าหน้าที่ทั้งของกองวิทยาการเขต 12 ยะลาและชุดเก็บกู้นอนร้องครวญคราญด้วยความเจ็บปวดเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ขอรถพยาบาลนำส่งผู้บาดเจ็บยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา กันจ้าละหวั่น

ทราบชื่อผู้บาดเจ็บภายหลังคือ ส.ต.อ.กำพล ทองงาม อายุ 43 ปี ส.ต.ต.ฉลอง แก้วทรายขาว อายุ 39 ปี ด.ต.ปัญญา ผลทอง อายุ 46 ปี ส.ต.อ.มารุต จันทวงศ์ อายุ 34 ปี ส.ต.ท.ประสพ กาฬมัด อายุ 41 ปี ด.ต.สมมาตร ขำเกลี้ยง อายุ 43 พ.ต.ท.ทศพล เทพพิชัยยานนท์ พ.ต.อ.อภิรัตน์ ปรักกมะกูล อายุ 51 ปี ส.ต.ท.พนม ขวัญอ่อน อายุ 32 ปี พ.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ อายุ 41 ปี รองผู้การ กองปราบปราม ปฏิบัติงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า ยะลา และนายลีเป็ง ดามะ อายุ 65 ปี

จากการตรวจสอบรายละเอียดการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ปรากฏว่า ส.ต.อ.กำพล ทองงาม ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและศีรษะ จนสมองถูกทำลายหมด เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ต.สมมาตร ขำเกลี้ยง ถูกระเบิดที่บริเวณหน้าอก ทำให้ปอดทะลุ บาดเจ็บสาหัส ส.ต.ท.ประสพ กาฬมัด ถูกสะเก็ดที่ขาหัก ส่วนคนอื่นถูกสะเก็ดระเบิดตามลำตัวและใบหน้าหลังเกิดเหตุ

นราฯยิงอีก2รายบาดเจ็บ1ตาย

ส่วนที่ จ.นราธิวาส มีผู้ถูกยิง 2 ราย คือ นายคำรณ ร่องสมุทร อายุ 38 ปีถูกยิงที่บริเวณถนนในหมู่บ้านบ้านลาเล๊ะ หมู่ 10 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต 1 ราย คือ นายเฉลิมชัย สนธิสกุล อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1010/89 ซ.วารินธรรมสาธิต 57 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.เป็นนายช่างควบคุมงานก่อสร้างทางของบริษัทหาดใหญ่ P.S.N ก่อสร้าง จก.โดยเหตุเกิดที่บริเวณบ้านตะเป๊าะ หมู่ 7 ต.สุวารี อ.รือเสาะ
กำลังโหลดความคิดเห็น