ผู้จัดการรายวัน – คนแห่ชม บั้งไฟพญานาค นับแสน โรงแรมที่พักเต็มทุกแห่ง เผยปีนี้ มีชาวลาว และนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นสิงคโปร เข้ามาเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการโรงแรมวอน ททท.ช่วยบรรจุในโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำปี หวังขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ เผยเคยเสนอแนวคิดให้ททท.ตั้งแต่ปีก่อนแต่เรื่องก็เงียบหาย
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการฝ่ายตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.มีความต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในภาคอีสาน โดยจะใช้จุดเด่นทางอารยธรรมโบราณ ตลอดจนประเพณีท้องถิ่น โดยเฉพาะดินแดนเรียบฝั่งแม่น้ำโขง มาดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยมีจุดประสงค์เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ภาคอีสานราว 15 ล้านคนต่อปี
ล่าสุดได้ร่วมมือกับแอร์เอเชีย และ บริษัททัวร์ 15 รายในภาคอีสาน เตรียมเปิดขายแพคเกจทัวร์ ในงานเที่ยวไหนดี...ที่อีสาน ระหว่างวันที่ 19-21 พ.ย.47 ที่ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ราชดำริ อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลออกพรรษา ททท.ได้มีการโปรโมตในเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติ “บั้งไฟพญานาค” ที่จังหวังหนองคายด้วยเช่นกัน โดยให้สำนักการท่องเที่ยวจังหวัดเป็นผู้ดูแล
ในปีนี้ การเกิดบั้งไฟพญานาค จะมีขึ้นในวันที่ 28 และ 29 ตุลาคม ซึ่ง พบว่า มีชาวลาวจากฝั่งโขง เข้ามาเที่ยวชมมากขึ้น โรงแรมทุกแห่งในจังหวัดหนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง มียอดจองห้องพักเต็มทั้งหมด อย่างไรก็ตามยุทธศาสตร์ของ ททท.ในปีหน้า ที่จะโปรโมตภาคอีสานในภาพรวม พร้อมหยิบยกประเพณีวัฒนะธรรมที่สำคัญขึ้นมาเท่านั้น เพราะต้องการเฉลี่ยให้นักท่องเที่ยวเดินทางตลอดทั้งปี ไม่ใช่แค่ช่วงใดช่วงหนึ่ง
โรงแรมอีสานวอนททท.ช่วยโปรโมต
นางสาวแคททรียา จิตรางกูร ผู้จัดการฝ่ายขาย โรงแรม หนองคายแกรนด์ เปิดเผย ว่า ในปีนี้การชมบั้งไฟพญานาค ในช่วงเทศกาลออกพรรษา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่จังหวัดหนองคายจำนวนมาก คิดเป็นกว่าแสนคน เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา แม้จะไม่อยู่ในช่วงวันหยุดก็ตาม โดยในส่วนของโรงแรมที่พัก ในช่วงนี้ยอดจองเต็มทั้งหมด และยังขยายวงไปถึงโรงแรมในจังหวัดใกล้เคียง เช่น อุดรธานี และขอนแก่น เป็นต้น โดยทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าว จะใช้เวลาการเดินทางด้วยรถยนต์เข้ามาที่จังหวัดหนองคายประมาณ 1.30 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงแรมหนองคายแกรนด์ ซึ่งเป็นโรงแรม ระดับ 3-4 ดาว มีห้องพัก 125 ห้อง มีนักท่องเที่ยวเข้าพักเต็ม ทั้งคืนวันที่ 28และ 29 ตุลาคม โดยโรงแรมไม่ได้คิดราคาห้องพักเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และใช้อัตราราคาที่ 50% เท่านั้น แต่ได้ขอร้องให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพัก ได้มีการรับประทานอาหารในโรงแรมบ้าง นอกเหนือจากอาหารเช้าที่มีให้อยู่แล้ว
การทำตลาดในช่วงนี้ ได้จับมือกับบริษัททัวร์ เสนอขายเป็นแพคเกจ 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน ราคาเฉลี่ย 2,000-3,500 บาท ลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทย สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้จองผ่านบริษัททัวร์ ส่วนใหญ่จะเริ่มจองกันตั้งแต่เดือน มีนาคม-เมษายน ของทุกปี โดยจะเปิดดูวันตามปฏิทิน และในปีนี้ ในส่วนของหนองคายแกรนด์ มีลูกค้าจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจองผ่านมาทาง ททท.
ดังนั้นจึงเห็นว่า หาก ททท.ให้ความสนใจ และบรรจุเทศกาลชมบั้งไฟพญานาค ไว้ในโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ต่างชาติได้รับทราบ จะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาภาคอีสานได้มากขึ้นในช่วงเทศกาลออกพรรษาของทุกปี ซึ่งสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยภาคอีสาน ได้เคยนำเรื่องนี้เสนอต่อ ททท.แล้ว ตั้งแต่ปีก่อน แต่ขณะนี้ททท.ก็ยังไม่ได้ตอบกลับมา ซึ่งหากขยายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ อานิสงส์ที่จะได้รับคือโรงแรมในจังหวัดใกล้เคียง อย่าง สกล อุดร ขอนแก่น จะได้นักท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาคจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนให้กับจังหวัดหนองคายและใกล้เคียงประมาณ 500 ล้านบาท
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการฝ่ายตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.มีความต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในภาคอีสาน โดยจะใช้จุดเด่นทางอารยธรรมโบราณ ตลอดจนประเพณีท้องถิ่น โดยเฉพาะดินแดนเรียบฝั่งแม่น้ำโขง มาดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยมีจุดประสงค์เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ภาคอีสานราว 15 ล้านคนต่อปี
ล่าสุดได้ร่วมมือกับแอร์เอเชีย และ บริษัททัวร์ 15 รายในภาคอีสาน เตรียมเปิดขายแพคเกจทัวร์ ในงานเที่ยวไหนดี...ที่อีสาน ระหว่างวันที่ 19-21 พ.ย.47 ที่ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ราชดำริ อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลออกพรรษา ททท.ได้มีการโปรโมตในเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติ “บั้งไฟพญานาค” ที่จังหวังหนองคายด้วยเช่นกัน โดยให้สำนักการท่องเที่ยวจังหวัดเป็นผู้ดูแล
ในปีนี้ การเกิดบั้งไฟพญานาค จะมีขึ้นในวันที่ 28 และ 29 ตุลาคม ซึ่ง พบว่า มีชาวลาวจากฝั่งโขง เข้ามาเที่ยวชมมากขึ้น โรงแรมทุกแห่งในจังหวัดหนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง มียอดจองห้องพักเต็มทั้งหมด อย่างไรก็ตามยุทธศาสตร์ของ ททท.ในปีหน้า ที่จะโปรโมตภาคอีสานในภาพรวม พร้อมหยิบยกประเพณีวัฒนะธรรมที่สำคัญขึ้นมาเท่านั้น เพราะต้องการเฉลี่ยให้นักท่องเที่ยวเดินทางตลอดทั้งปี ไม่ใช่แค่ช่วงใดช่วงหนึ่ง
โรงแรมอีสานวอนททท.ช่วยโปรโมต
นางสาวแคททรียา จิตรางกูร ผู้จัดการฝ่ายขาย โรงแรม หนองคายแกรนด์ เปิดเผย ว่า ในปีนี้การชมบั้งไฟพญานาค ในช่วงเทศกาลออกพรรษา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่จังหวัดหนองคายจำนวนมาก คิดเป็นกว่าแสนคน เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา แม้จะไม่อยู่ในช่วงวันหยุดก็ตาม โดยในส่วนของโรงแรมที่พัก ในช่วงนี้ยอดจองเต็มทั้งหมด และยังขยายวงไปถึงโรงแรมในจังหวัดใกล้เคียง เช่น อุดรธานี และขอนแก่น เป็นต้น โดยทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าว จะใช้เวลาการเดินทางด้วยรถยนต์เข้ามาที่จังหวัดหนองคายประมาณ 1.30 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงแรมหนองคายแกรนด์ ซึ่งเป็นโรงแรม ระดับ 3-4 ดาว มีห้องพัก 125 ห้อง มีนักท่องเที่ยวเข้าพักเต็ม ทั้งคืนวันที่ 28และ 29 ตุลาคม โดยโรงแรมไม่ได้คิดราคาห้องพักเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และใช้อัตราราคาที่ 50% เท่านั้น แต่ได้ขอร้องให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพัก ได้มีการรับประทานอาหารในโรงแรมบ้าง นอกเหนือจากอาหารเช้าที่มีให้อยู่แล้ว
การทำตลาดในช่วงนี้ ได้จับมือกับบริษัททัวร์ เสนอขายเป็นแพคเกจ 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน ราคาเฉลี่ย 2,000-3,500 บาท ลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทย สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้จองผ่านบริษัททัวร์ ส่วนใหญ่จะเริ่มจองกันตั้งแต่เดือน มีนาคม-เมษายน ของทุกปี โดยจะเปิดดูวันตามปฏิทิน และในปีนี้ ในส่วนของหนองคายแกรนด์ มีลูกค้าจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจองผ่านมาทาง ททท.
ดังนั้นจึงเห็นว่า หาก ททท.ให้ความสนใจ และบรรจุเทศกาลชมบั้งไฟพญานาค ไว้ในโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ต่างชาติได้รับทราบ จะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาภาคอีสานได้มากขึ้นในช่วงเทศกาลออกพรรษาของทุกปี ซึ่งสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยภาคอีสาน ได้เคยนำเรื่องนี้เสนอต่อ ททท.แล้ว ตั้งแต่ปีก่อน แต่ขณะนี้ททท.ก็ยังไม่ได้ตอบกลับมา ซึ่งหากขยายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ อานิสงส์ที่จะได้รับคือโรงแรมในจังหวัดใกล้เคียง อย่าง สกล อุดร ขอนแก่น จะได้นักท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาคจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนให้กับจังหวัดหนองคายและใกล้เคียงประมาณ 500 ล้านบาท