xs
xsm
sm
md
lg

มารีนฯผนึกอิตาลีทุ่มงบ150ล.ลุยธุรกิจความงามเจาะไฮเอนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – มารีน ซัพพลาย แอนด์ บิวตี้ จับมือร่วมทุน บริษัทผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือเสริมความงามอิตาลี เปิดธุรกิจเสริมความงามเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ จับกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนัก หว่านงบลงทุนระเบิดศึก 150 ล้านบาทในต้นปีหน้า หวัง 3 ปีตีปีกเปิดแฟรนไชส์ พร้อมติดอันดับ1ใน 3 ของตลาด ส่วนปีหน้าเร่งขยายช่องทางจำหน่ายอุปกรณ์ 100 แห่ง พร้อมยกพลบุกห้างสรรพสินค้า  หวังปี 48 ครองแชร์ 50%

นางสาวทรงสุดา พาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มารีน ซัพพลาย แอนด์ บิวตี้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์และเครื่องมือเสริมความงามจากอิตาลี เปิดเผยว่า บริษัทจะร่วมทุนกับบริษัทผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือเสริมความงามจากประเทศอิตาลี เปิดตัวธุรกิจสถาบันเสริมความงามอย่างครบวงจรภายใต้อุปกรณ์และเครื่องมือเสริมความงามเทคโนโลยีชั้นสูงจากอิตาลี โดยเบื้องต้นคาดว่าจะทุ่มงบลงทุน 150 ล้านบาท จะเปิดดำเนินการในต้นปีหน้านี้ ตามห้างสรรสินค้าชั้นนำทั่วไป จับกลุ่มเป้าหมายระดับเอ อายุระหว่าง 25-60 ปี ทั้งหญิงและชาย อีกทั้งยังวางแผนที่จะเปิดขายแฟรนไชส์ในอีก 3 ปีข้างนี้

“การเปิดตัวธุรกิจสถาบันความงาม เพราะเล็งเห็นว่ายังมีช่องว่างให้ทำตลาด อีกทั้งบริษัทก็มีความพร้อม หลังจากทำตลาดมากว่า 3 ปี ลูกค้ารู้จักมารี ซัพพลาย แอนด์ บิวตี้มากขึ้น โดยบริษัทวางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปีนี้ ธุรกิจสถาบันความงามจะติด1ใน 3 ของตลาด เนื่องจากอุปกรณ์และเครื่องมือเสริมความงามที่จะนำเข้ามาเปิดบริการนั้นเป็นอันดับหนึ่งในประเทศอิตาลี”

สำหรับการเปิดธุรกิจสถาบันความงาม จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจำหน่ายสินค้า จากปัจจุบันมารี ซัพพลาย แอนด์ บิวตี้ มีช่องทางจำหน่าย ประกอบด้วย การขายตรงผ่านทีวี ปีหน้าจะเพิ่มคอลล์เซ็นเตอร์จาก 10 สายเป็น 25 สาย ร้านขายยาระดับไฮเอนด์ โมเดิร์นเทรดและห้างสรรพสินค้า ตัวแทนจำหน่ายตามร้านเสริมสวย รวมจำนวน 100 แห่ง และคาดว่าปีหน้านี้จะเปิดให้ครบ 200 แห่ง โดยบริษัทจะเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า ได้แก่ เดอะมอลล์ โรบินสัน เซ็นทรัล โดยปลายปีนี้ได้ขยายไปแล้ว 10 แห่ง

“ที่ผ่านมาบริษัทติดปัญหาในเรื่องของโฆษณาสินค้า คือห้ามโชว์รูปสินค้า เพราะสินค้าของบริษัทเป็นเครื่องมือแพทย์ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำตลาด ซึ่งวิธีการทำตลาดของบริษัทจึงเป็นลักษณะปากต่อปาก อีกทั้งยังนำอังคณา ทิมดี เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตามรายการต่างๆในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการเปิดธุรกิจสถาบันความงามจะทำให้อุปกรณ์และเครื่องมือเสริมความงามสามารถแทรกซึมสู่กลุ่มลูกค้าได้มากกว่า”

นางสาวทรงสุดา กล่าวว่า งบการทำตลาดปีหน้าบริษัทจะเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ 30 ล้านบาท และงบประมาณจัดกิจกรรม 20 ล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมา บริษัทใช้งบเพียง 30 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดบริษัทจะเน้นอุปกรณ์ 3 ตัว ได้แก่ TUA VISO อุปกรณ์ยกกระชับใบหน้าเพื่อต่อต้านริ้วรอย และเข็มขัดกระชับสัดส่วน TUA 360 และเข็มขัดกระชับสัดส่วนยูแอนด์มี  เนื่องจากเป็นสินค้าที่สร้างรายได้ โดยมีอัตราการเติบโต 30-40% ต่อเดือน

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโต 60% และคาดว่าสิ้นปีโต60% เทียบกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 20-30% เป้าหมายในปีหน้าบริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาด 50% จากปีนี้มีส่วนแบ่ง 30%จากมูลค่าตลาดอุปกรณ์และเครื่องมือเสริมความงาม 2,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7-10% จากมูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม 20,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น