xs
xsm
sm
md
lg

รากหญ้า

เผยแพร่:   โดย: เกษม ศิริสัมพันธ์

คำว่า "รากหญ้า" เป็นศัพท์เกิดขึ้นใหม่ เป็นคำที่แปลมาจากคำภาษาอังกฤษว่า grass roots ซึ่งมีความหมายทางการเมืองและการหาเสียงเลือกตั้งโดยเฉพาะ หมายถึงประชาชนระดับล่าง เป็นระดับที่ติดพื้นจริงๆ

ในพจนานุกรม ฉบับมติชน ได้อธิบายไว้ว่า "รากหญ้า" น. คนระดับล่างสุดขององค์กรหรือสังคม โดยปริยายหมายถึง ประชาชนทั่วไป. (อ. grass roots )

คำว่า "รากหญ้า" นี้ เห็นจะตรงกับศัพท์ที่เราพูดกันในภาษาไทยแต่เดิมว่า "ชาวบ้าน" นั่นเอง

นักการเมืองเมื่อเริ่มต้นคำปราศรัยหาเสียงมักขึ้นต้นด้วย "พ่อแม่พี่น้องที่รักทั้งหลาย!" สำนวนเช่นนี้ก็อ้างอิงถึงประชาชนระดับ "รากหญ้า" เหมือนกัน!

ศัพท์คำว่า "รากหญ้า" เห็นจะเกิดขึ้นในวงการเมืองไทย สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทยและนายกรัฐมนตรี นี่เอง

อันที่จริงคุณทักษิณ คือถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนระดับมหาเศรษฐีของเมืองไทย แต่เป็นคนที่มักมีพฤติกรรมแบบ "เท้าติดดิน" หรือเป็นแบบที่ท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านใช้คำว่า เป็นประเภท "เล่นกับลูกชาวบ้าน" ได้อย่างไม่เคอะเขินทีเดียว!

คิดดูก็แล้วกัน มีนายกรัฐมนตรีคนไหนบ้าง ที่ไปตรวจราชการต่างจังหวัด แล้วไปอาศัยนอนศาลาวัด ลุกขึ้นนุ่งผ้าขาวม้า ห่มผ้าเช็ดตัว ถือสบู่ ลงมาอาบน้ำในห้องน้ำที่ใต้ถุนศาลาวัด

ภาพนายกรัฐมนตรีนุ่งผ้าขาวม้ามีผ้าเช็ดตัวคลุมไหล่ มือถือกลักสบู่ ภาพนี้ได้ลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ!

เป็นภาพที่แสดงว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ ถึงแม้เป็นคนระดับมหาเศรษฐี แต่ก็มีสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนระดับ"รากหญ้า" เหมือนกัน!

เมื่อเป็นรัฐบาลใหม่ๆ เมื่อประมาณ 3 ปีกว่ามาแล้ว กลุ่มสมัชชาคนจนชุมนุมปักหลักอยู่แถวทำเนียบรัฐบาลมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยคุณชวน หลีกภัย ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่

วันดีคืนดีคุณทักษิณ สั่งไก่ย่างข้าวเหนียวน้ำแจ่วมาเลี้ยงผู้ชุมนุมที่ข้างทำเนียบรัฐบาล ตัวคุณทักษิณเองลงไปนั่งกินกับชาวบ้าน!

ภาพคุณทักษิณกินไก่ย่างจิ้มแจ่วร่วมกับชาวบ้านที่มาชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบครั้งนั้น แสดงว่าคุณทักษิณมีฝีมือการแสดงระดับดาราตุ๊กตาทองคนหนึ่งทีเดียว!

ตอนนั้นสมัชชาคนจนหลงเสน่ห์คุณทักษิณที่เล่นกับ "รากหญ้า" ได้ถึงปานนั้น! เลิกชุมนุม ยอมขนของกันกลับบ้านหมดเลย!

แต่มาถึงบัดนี้สมัชชาคนจนคงได้รู้แล้วกระมังว่า นั่นเป็นเพียงการแสดงฉากหนึ่งของคุณทักษิณ! ไม่มีอะไรที่จริงจังและจริงใจ! แท้ที่จริงเป็นเพียงต้องการให้ผู้ชุมนุมที่ยืดเยื้อมาแต่รัฐบาลก่อนสลายตัว เพื่อเป็นผลงานดีเด่นชิ้นแรกของรัฐบาลทักษิณ! ก็แค่นั้นเอง!

ระหว่างเป็นรัฐบาลในช่วง 3 ปีกว่าที่แล้วมา คุณทักษิณ เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับคนระดับ "รากหญ้า" หลายครั้งหลายหน

เมื่อตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั่งคุยกับคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง ซึ่งแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะเลือก คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์

ได้ซักถามต่อไปว่า ก็เคยเข้าไปพบคุณทักษิณ เมื่อคราวเปิดทำเนียบรับคนขับแท็กซี่และคนขับรถตุ๊กต๊ก หรือเปล่า ?

"ผมก็ไปกับเขาเหมือนกัน!" เขาตอบพร้อมกับกล่าวต่อไปว่า "จะไปเอาอะไรจริงจังกับคนอย่างทักษิณ! เขาก็เล่นละครฉากหนึ่งให้พวกผมดู! ก็เท่านั้นเอง!"

คนขับแท็กซี่คนนี้ ก็เป็น "รากหญ้า" ที่ "รู้ทัน" ทักษิณเหมือนกัน!

เมื่อตอนต้นเดือนนี้ นายกรัฐมนตรีทักษิณ จัดมหกรรมคลายทุกข์ ที่ทำเนียบรัฐบาลอีกแล้ว

คนก็หลั่งไหลไปมากมาย! ก็วิสัยคนไทยซึ่งเป็นคนแบกทุกข์จนล้นเนื้อล้นตัว เมื่อนายกรัฐมนตรีลงทุนเปิดทำเนียบรัฐบาลเพื่อช่วย "คลายทุกข์" ก็ต้องแห่กันไปหน่อย! จริงไหม?

คราวนี้คุณทักษิณ ได้แสดงอภินิหารคลายทุกข์ชาวบ้าน ถึงขนาดสั่งให้กระทรวงการคลังช่วยคนที่เชียงใหม่ที่กู้เงินจากธนาคาร แล้วดอกเบี้ยท่วมขึ้นมาเป็นสามล้าน คุณทักษิณได้ประกาศิตให้แบงก์ลดยอดดอกเบี้ยให้เหลือล้านเดียว

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังสามารถทำให้แม่ลูกที่พลัดพรากจากกันมา 30 ปีได้เจอกันอีกด้วย! เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปลื้มไม่รู้จบทีเดียว

ภาพนายกรัฐมนตรีประคองหญิงชราที่ก้มลงกราบขอบคุณที่ช่วยให้ได้พบหน้าลูก แสดงว่าคุณทักษิณ เป็นผู้นำการเมืองที่เล่นกับ "รากหญ้า" ได้อย่างถึงบทถึงบาททีเดียว!

ต่อมาเมื่อดูรายละเอียดของนโยบายของไทยรักไทย ที่ประกาศในวัน "คิกออฟแคมเปญ" เมื่อเร็วๆ นี้ ยิ่งเห็นได้ชัดว่า นโยบายของคุณทักษิณในการเลือกตั้งคราวนี้ คือแจก "ขนมหวาน" ให้บรรดา "รากหญ้า" ตั้งแต่เกิดจนแก่ทีเดียว!

แม้แต่เด็กพอลืมตามองดูโลก หลุดจากท้องแม่ รัฐบาลทักษิณก็แสดงความเอื้ออาทร มอบถุงของขวัญให้เสียแล้ว!

พอแก่ลงเป็นคนชราก็มีมาตรการทางภาษีช่วยเหลือ หักค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบิดามารดาหัวละ 30,000 บาท! แถมยังมีโครงการจะจัดสถานที่ให้คนแก่หรือที่เรียกเสียให้ไพเราะหูว่าผู้สูงอายุ ได้ไปพักผ่อนหรือทำกิจกรรมร่วมกัน

ถึงคราวเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นไม่ต้องพูดถึง! รัฐบาลทักษิณยังมีโครงการ 30 บาท รักษาได้ทุกโรคอยู่แล้ว!

มีคนวิจารณ์ว่า พรรคไทยรักไทยของคุณทักษิณยังมีช่องโหว่อยู่จุดหนึ่ง! คือตอนตาย ไม่มีความเอื้ออาทรให้บ้างเลย! หรือถือว่าคนตายแล้วไม่มีสิทธิลงคะแนนให้ไทยรักไทยหรืออย่างไร? แต่ชั่วๆ ดีๆ ลูกหลานเขาก็ยังอยู่ พอเป็นคะแนนเสียงได้เหมือนกัน!

ที่สำคัญ ทำให้นโยบายไทยรักไทยไม่ครบวงจรของชีวิต! ไหนๆ ก็ตั้งต้นตั้งแต่ทารกเพิ่งคลอดจากท้องแม่แล้ว! ก็น่าเวียนไปจนครบ จนถึงเป็นศพขึ้นเชิงตะกอนเสียด้วยเลย!

พี่น้องในชนบทไม่ต้องห่วง! เงินกองทุนหมู่บ้านยังมีอยู่! ไม่ใช่เพียงเท่านั้น! อีกสี่ปีข้างหน้า กองทุนนี้คุณทักษิณจะแปลงรูปให้เป็นธนาคารชาวบ้านไปเลย!

นอกจากนี้บรรดา "รากหญ้า" ภาคชนบทจะได้รับเงินแจกทุกหมู่บ้าน ตามขนาดของหมู่บ้านขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ เป็นเงินที่เรียกว่า SML นั่นไง!

นอกจากนี้ยังมีการยกเว้นไม่เก็บภาษีเงินได้ จากผู้มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี เรียกว่าไม่ได้มองข้ามบรรดา "รากหญ้า" ประเภทคนเงินเดือนน้อยอีกด้วย!

มีคนตั้งข้อสังเกตว่า คุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีที่สนใจเป็นพิเศษในเรื่องตลาดหลักทรัพย์ คราวนี้คุณทักษิณก็ยังมีของฝากถึงบรรดา "แมลงเม่า" ในตลาดหุ้นด้วย โดยให้คำมั่นสัญญาว่าอีก 4 ปีข้างหน้า จะทำให้ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้เพิ่มถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ทีเดียว!

คุณทักษิณไม่มีวันลืมบรรดา "รากหญ้า" ในกรุงเทพฯ ไปได้หรอก! คุณทักษิณคงต้องมีความทรงจำเป็นอย่างดีว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คราวที่แล้วคนกรุงเทพฯ ได้สำแดงอิทธิฤทธิ์ท้าทาย ไม่ยอมเลือกผู้สมัครที่คุณทักษิณลงทุนสนับสนุนอยู่!

นอกจากนี้ บรรดา ส.ส.ของไทยรักไทย ยังมีความหวั่นไหวว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยในการเลือกตั้งใหญ่คราวหน้า คนกรุงเทพฯ จะออกบทอาละวาดอีก ไม่ยอมเลือกคนของไทยรักไทยในสนามเลือกตั้งของกรุงเทพฯ อีก! แล้วจะทำยังไง?

ฉะนั้นในการประกาศนโยบายเพื่อการเลือกตั้งใหญ่คราวนี้ คุณทักษิณจึงไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของกรุงเทพฯ ไปได้!

คุณทักษิณมีนโยบายเจาะจงสำหรับคนกรุงเทพฯโดยเฉพาะ คือจะลงทุนมหาศาลในการแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ คือจัดสร้างระบบรถไฟฟ้าราคาถูก ทั้งใต้ดินและลอยฟ้า จากในเมืองถึงชานเมือง มีงบประมาณการลงทุนจำนวนถึง 1 ล้านล้านบาท ทีเดียว!

รัฐบาลทักษิณยังมีความมุ่งมั่นที่จะขจัดความยากจนให้หมดจากพื้นแผ่นดินไทยให้ได้ภายใน 6 ปี ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกประมาณ 4 ปี ก็คือว่าหมดสมัยที่สองที่คุณทักษิณคิดว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง!

พอครบเทอมที่สองนี้แล้ว ความยากจนจะต้องอันตรธานไปจากประเทศไทยทีเดียว!

ได้มีการสำรวจความยากจนในประเทศไทย ปรากฏว่ามีผู้คนมาขึ้นทะเบียนความยากจนทั้งหมด 8 ล้านกว่าคน เป็นปัญหาในรูปต่างๆ ของความยากจนถึง 11 ล้านปัญหา

เรื่องนี้คุณทักษิณ มอบหมายให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดูแลปัญหานี้ทั้งหมดในระดับประเทศ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการเป็นศูนย์กลางการแก้ไขปัญหาขจัดความยากจนในระดับพื้นที่

เมื่อคุณทักษิณมอบหมายไปเช่นนี้แล้ว! อีก 4 ปีข้างหน้า ถ้าเมืองไทยยังมีปัญหาความยากจนหลงเหลืออยู่ ก็คงเป็นเรื่องที่คุณทักษิณจะหันไปเล่นงานอธิบดีกรมการปกครอง และบรรดาผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ หรือผู้ว่าฯ ประเภท CEO เรื่องก็คงไปได้เพียงแค่นี้!

มีข้อสังเกตว่า ในแนวคิดของคุณทักษิณนั้น การแก้ปัญหาความยากจนนั้น มีทางแก้อยู่ทางเดียว คือขนเงินไปแจกจ่ายให้บรรดา "รากหญ้า" ในรูปต่างๆ !

แต่ปัญหาความยากจนจะแก้ด้วยการเอาเงินเข้าถมนั้น ถึงอย่างไรๆ ก็คงถมไม่เต็มเป็นแน่!

การขาดเงินหรือขาดกำลังทุน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาความยากจน และยิ่งไปกว่านั้นเงินไม่ใช่เป็นแก้วสารพัดนึกในการขจัดปัญหาความยากจน!

การแก้ปัญหาความยากจน ยังต้องการการปลูกฝังคุณธรรมสำคัญสองประการด้วยกัน คือ จริยธรรมในการทำงานหรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Work Ethics และการสร้างเสริมนิสัยให้ระดับ "รากหญ้า" รู้จักประหยัดเพื่อการเก็บออม เป็นการสะสมทุนให้มากขึ้น

แต่คุณทักษิณไม่เคยเอ่ยปากพูดถึงเรื่องสำคัญทั้งสองเรื่องนี้เลย!

คุณทักษิณต้องการเพียงให้บรรดา "รากหญ้า" หลงอยู่ในเขาวงกตของความเอื้ออาทรในรูปต่างๆ เพื่อจะได้เป็นฐานเสียงให้คุณทักษิณและพรรคไทยรักไทย สามารถยึดบ้านครองเมืองได้อีกนานแสนนานเท่านั้นเอง!
กำลังโหลดความคิดเห็น