บอร์ดกรุงไทยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ ชี้แจงจำเป็นต้องลอยแพ "วิโรจน์" ตามคำสั่งแบงก์ชาติ ลงบันทึกท้ายการประชุมขอบคุณวิโรจน์ทำประโยชน์ให้แบงก์ เผย ที่ประชุมบอร์ดถกเครียด รอเรื่องเงียบมีคนลาออก ชี้หนังสือแบงก์ชาติออกกฎเล่นงานคนแบงก์ได้ทุกเมื่อ "สมคิด" ขึงขัง สั่งสรรหาเอ็มดีใหม่ภายใน 1 เดือน พร้อมให้หม่อมอุ๋ยชี้แจงประชาชน แต่ "อุ๋ย" ยังไม่เชื่อ อ้างยังไม่ได้รับคำสั่งโดยตรง
วานนี้ (8 ต.ค.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) โดยนายสุชาติ เดชอิทธิรัตน์ ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการ
แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า การประชุมคณะกรรมการธนาคาร เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาหนังสือของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ตอบข้อหารือเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของธนาคารว่า ธนาคารไม่สามารถแต่งตั้ง นายวิโรจน์ นวลแข เป็นกรรมการผู้จัดการได้ ซึ่งตามกฎหมายธนาคารต้องถือปฏิบัติ
"อย่างไรก็ดี คณะกรรมการธนาคารได้พิจารณาและรู้สึกขอบคุณที่ นายวิโรจน์ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับธนาคารเป็นอย่างมาก เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จึงมีมติให้บันทึกข้อสังเกตดังกล่าวไว้ในการประชุม"
นายสุชาติกล่าวว่าธนาคารกรุงไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ จึงได้สรรหากรรมการผู้จัดการตามกฎหมายคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยคณะกรรมการธนาคารได้เห็นชอบในหลักการเบื้องต้นให้เลือก
นายวิโรจน์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2547 และเห็นชอบค่าตอบแทนและร่างสัญญาว่าจ้าง เมื่อวันที่ 9 ก.ย. แต่เมื่อธปท.มีประกาศเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ออกตามมาตรา 22 (8) ของกฎหมายธนาคารพาณิชย์ กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ
ของผู้ที่จะมาเป็นกรรมการผู้จัดการและกฎหมายคุณสมบัติระบุว่า ผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้สำหรับรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เพื่อความรอบคอบธนาคารจึงได้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายวิโรจน์ ไปยังธปท. เมื่อวันที่ 10 ก.ย.และได้ข้อสรุปดังกล่าวในที่สุด
วานนี้ ( 8 ต.ค.) ที่ธนาคารกรุงไทย พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการธนาคาร นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมการ และนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการบริหาร ได้เรียกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ชมรมผู้จัดการสาขาและผู้บริหารธนาคารกรุงไทยตั้งแต่ระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการขึ้นไปเข้ารับฟังการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมติที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยพล.อ.มงคลได้ชี้แจงว่า ธนาคารกรุงไทยต้องปฎิบัติตามคำสังของธปท. พร้อมกำชับให้ผู้บริหารไปชี้แจงต่อพนักงานใต้บังคับทุกระดับชั้น ส่วนนายชัยวัฒน์ได้กำชับให้ผู้บริหารปฎิบัติหน้าที่ และปล่อยสินเชื่อตามปกติ เนื่องจากเกรงว่าลูกค้าจะไม่มั่นใจในการใช้บริการสินเชื่อ
สมคิดสั่งอุ๋ยชี้แจงประชาชน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การที่ธปท.ระบุว่านายวิโรจน์มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมในการเข้ารับตำแหน่ง และห้ามเข้าเป็นผู้บริหารของสถาบันการเงิน ถือเป็นเรื่องทางกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการของธนาคารได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าในระหว่างการคัดเลือกตำแหน่งกรรมการก็ไม่พบความผิดของนายวิโรจน์ แต่อย่างใด และเห็นควรเข้ารับตำแหน่งได้ แต่ก็ต้องยอมรับฟังความเห็นของธปท.
“เมื่อ ธปท.เห็นว่านายวิโรจน์ ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งตามข้อกฎหมายแล้วก็ต้องให้ฟังคำตัดสินของ ธปท.เป็นหลัก แต่เพื่อความโปร่งใสในการเสนอความเห็นของ ธปท. ก็ควรจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนทราบเหตุผลว่าทำไมนายวิโรจน์ จึงมาดำรงตำแหน่งนี้ ไม่ได้ และต้องอ้างข้อกฎหมายด้วยว่าเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับอะไร” นายสมคิดกล่าว
ส่วนขั้นตอนต่อไปก็จะต้องมีการสรรหาเอ็มดีคนใหม่นั้น ซึ่งอยากให้เร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว จึงได้สั่งให้การนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทยเข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้ และกำชับทำการคัดเลือกให้เสร็จภายใน 1 เดือน เพราะทุกอย่างจะได้ยุติโดยเร็วที่สุด
นายสมคิดกล่าวว่า การสรรหาเอ็มดีคนใหม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการธนาคาร หากมีความมั่นใจในตัวกรรมการผู้จัดการที่คัดเลือกมาแล้วก็ให้แต่งตั้ง โดยไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องไปให้ธปท.พิจารณาอีก
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าฯธปท. เปิดเผยว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังไม่ได้สั่งให้มีการชี้แจงเรื่องกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยแต่อย่างใด หากจะสั่งต้องสั่งมาที่ตนโดยตรง ถ้ามีข่าวผ่านสื่อมวลชนว่าให้ชี้แจง แสดงว่าสื่อนั้นเขียนข่าวขึ้นมาเอง
นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า หากธนาคารพาณิชย์ใด จะแต่งตั้งกรรมการที่เป็นผู้บริหารและผู้บริหารระดับสูงคนใหม่ ก็ต้องมีการตรวจสอบเช่นเดียวกับธนาคารกรุงไทย ธปท.จะไม่เลือกปฏิบัติกับบุคคลใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
“ยืนยันว่าแบงก์ชาติไม่เคยเจรจาต่อรองใด ๆ กับนายวิโรจน์ และไม่ได้ต่อรองว่าจะไม่ดำเนินการถ้านายวิโรจน์ยอมถอนตัว แต่ได้หารือเพื่อเรื่องราวจะได้จบอย่างสงบ ซึ่งหากนายวิโรจน์ยอมจบเอง แบงก์ชาติก็ไม่ต้องส่งหนังสือชี้แจงว่า นายวิโรจน์เข้าข่ายประกาศกำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเป็นผู้บริหารของสถาบันการเงิน”
นางธาริษาเปิดเผยรายละเอียดในหนังสือที่แจ้งกลับไปยังคณะกรรมการธนาคารกรุงไทยว่า ธปท.ไม่ได้ระบุว่านายวิโรจน์มีความผิด แต่ธปท. เห็นว่า นายวิโรจน์ขาดคุณสมบัติหรือเข้าข่ายเป็นบุคคลต้องห้ามตามมาตรา 4.2 ที่กำหนดว่า ธนาคารพาณิชย์ต้องไม่แต่งตั้งหรือมีกรรมการที่เป็นผู้บริหารละผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามวรรค (8) ที่ระบุว่า มีการบริหารงานที่แสดงถึงการละเลยการทำหน้าที่ตามสมควรในการกลั่นกรองหรือตรวจสอบดูแลมิให้บุคคลที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือขาดความรอบครอบที่พึงมีในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในธุรกิจสถาบันการเงิน หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ฐานะหรือการดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินอย่างมีนัยสำคัญ หรือต่อลูกค้าของธุรกิจสถาบันการเงิน
สำหรับระยะเวลาในการห้ามนายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยนั้น นางธาริษากล่าวว่าไม่มีกำหนดระยะเวลา ส่วนจะห้ามเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์หรือตลาดทุนนั้น ขึ้นอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
บอร์ดเครียดก่อนลอยแพวิโรจน์
แหล่งข่าวคณะกรรมการธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า การประชุมวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมาใช้เวลานานและบรรยากาศค่อนข้างเคร่งเครียด และหลายคนรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบกับการไม่แต่งตั้งนายวิโรจน์ เนื่องจากก่อนหน้าที่จะส่งให้ธปท. บอร์ดได้มีมติแต่งตั้งนายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ดังนั้นคาดว่าพอเรื่องดังกล่าวสงบ จะมีบอร์ดธนาคารบางคนลาออก
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม กรรมการธนาคารซึ่งเป็นอดีตอัยการสูงสุดชี้ว่าคำสั่งของธปท.ที่ระบุว่านายวิโรจน์ "ละเลย" นั้นไม่น่าจะเหมาะสม เพราะการชี้ว่า "ละเลย" น่าจะเป็นเรื่องของศาลเท่านั้น ส่วนเนื้อหาในหนังสือ 3 หน้ากระดาษ อ้างถึงกฎระเบียบที่เขียนไว้ครอบคุลม สามารถหยิบมาเล่นงานผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ได้ตลอดเวลา
"บอร์ดบางคนให้ความเห็นว่า แบงก์ชาติใช้พ.ร.บ.มาออกกฎระเบียบเกี่ยวกับคุณสมบัติต้องห้ามของผู้บริหารแบงก์ที่ เปิดช่องให้ใช้อำนาจเล่นงานได้ง่าย โดยเขียนในทำนอง ถ้าข้าว่าผิดเอ็งก็ต้องผิด" แหล่งข่าวระบุ
นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการธนาคาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวว่า การแต่งตั้งผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ไม่ได้เป็นคำสั่งแต่เป็นการทักท้วงจากธปท. ซึ่งต้องขึ้นกับบอร์ดธนาคารว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะวิธีการปฎิบัติต้องขอความเห็นชอบจากธปท. และวิธีการดังกล่าวในสาขาของธนาคารที่ต่างประเทศก็ดำเนินการเช่นนี้เหมือนกัน โดยหากธนาคารกลางของประเทศนั้นเห็นสิ่งผิดปกติก็จะเข้าตรวจสอบดูแล ซึ่งสำนักงานใหญ่ก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ธนาคารกลางประเทศนั้นๆ รับทราบ
นายชาตรีกล่าวถึงการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพว่า ให้อำนาจกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานกรรมการบริหารในการพิจารณา หากมีข้อผิดพลาดกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานกรรมการบริหารต้องรับผิดชอบ
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและวางแผน ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องสถาบันการเงิน ผู้ว่าฯธปท.ต้องยึดหลักการที่ถูกต้อง และหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น
"การแก้ปัญหาความขัดแย้งบางอย่างไม่จำเป็นต้องนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน เพราะจะทำให้เกิดการขยายผลในทางที่ไม่เหมาะสม" นายอนุสรณ์กล่าว
โบรกฯชี้ข้อมูลคลุมเครือ
นายสาธิต วรรณศิลปิน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (CNS) เปิดเผยว่า การที่บอร์ดธนาคารกรุงไทยไม่อนุมัติให้นายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการ ไม่สามารถประเมินได้ว่ามาจากปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารหรือไม่ เนื่องจากเนื่องดังกล่าวไม่ได้รับการเปิดเผย อย่างไรก็ตามคงไม่เกิดปัญหาว่าผู้บริหารไม่กล้าปล่อยกู้เพราะกลัวจะถูกตรวจสอบ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์อื่นที่เป็นของรัฐมีขนาดเล็กกว่ากรุงไทย และเริ่มมีการบริหารงานที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น
ส่วนประเด็นในเรื่องของความมั่นใจของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศนั้น ถือว่าความไม่มั่นใจได้เกิดขึ้นและจบไปแล้วตั้งแต่ในช่วงที่มีข่าวการเพิ่มขึ้นของ NPL จำนวนมาก แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าหลังจากที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/47 ของกลุ่มธนาคารออกมาแล้วเรื่องของความมั่นใจน่าจะชัดเจนขึ้น และประเด็นต่างๆน่าจะถูกเปิดเผยออกมาพร้อมกับผลการดำเนินงาน ซึ่งเชื่อว่าในไตรมาส 3/47 นี้ผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์น่าจะออกมาค่อนข้างดี ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่ได้ตอบรับ
นายวรุตฆ์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อหุ้นธนาคารกรุงไทย เพราะธนาคารมีการบริหารงานเป็นระบบไม่ใช่พึ่งคนหนึ่งคนใด โดยปัจจัยที่จะต้องจับตาต่อไปคือความสัมพันธ์ระหว่างธปท.กับกระทรวงการคลัง และธปท.กับฝ่ายการเมือง
"ตอนนี้ราคาหุ้นธนาคารกรุงไทยปรับตัวลดลงมามาก ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัจจัยเรื่องหนี้เสียแต่ก็เชื่อว่าธนาคารคงจะไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่มดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุนได้ โดยประเมินราคาเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 17-18 บาท"
วานนี้ (8 ต.ค.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) โดยนายสุชาติ เดชอิทธิรัตน์ ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการ
แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า การประชุมคณะกรรมการธนาคาร เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาหนังสือของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ตอบข้อหารือเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของธนาคารว่า ธนาคารไม่สามารถแต่งตั้ง นายวิโรจน์ นวลแข เป็นกรรมการผู้จัดการได้ ซึ่งตามกฎหมายธนาคารต้องถือปฏิบัติ
"อย่างไรก็ดี คณะกรรมการธนาคารได้พิจารณาและรู้สึกขอบคุณที่ นายวิโรจน์ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับธนาคารเป็นอย่างมาก เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จึงมีมติให้บันทึกข้อสังเกตดังกล่าวไว้ในการประชุม"
นายสุชาติกล่าวว่าธนาคารกรุงไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ จึงได้สรรหากรรมการผู้จัดการตามกฎหมายคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยคณะกรรมการธนาคารได้เห็นชอบในหลักการเบื้องต้นให้เลือก
นายวิโรจน์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2547 และเห็นชอบค่าตอบแทนและร่างสัญญาว่าจ้าง เมื่อวันที่ 9 ก.ย. แต่เมื่อธปท.มีประกาศเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ออกตามมาตรา 22 (8) ของกฎหมายธนาคารพาณิชย์ กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ
ของผู้ที่จะมาเป็นกรรมการผู้จัดการและกฎหมายคุณสมบัติระบุว่า ผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้สำหรับรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เพื่อความรอบคอบธนาคารจึงได้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายวิโรจน์ ไปยังธปท. เมื่อวันที่ 10 ก.ย.และได้ข้อสรุปดังกล่าวในที่สุด
วานนี้ ( 8 ต.ค.) ที่ธนาคารกรุงไทย พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการธนาคาร นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมการ และนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการบริหาร ได้เรียกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ชมรมผู้จัดการสาขาและผู้บริหารธนาคารกรุงไทยตั้งแต่ระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการขึ้นไปเข้ารับฟังการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมติที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยพล.อ.มงคลได้ชี้แจงว่า ธนาคารกรุงไทยต้องปฎิบัติตามคำสังของธปท. พร้อมกำชับให้ผู้บริหารไปชี้แจงต่อพนักงานใต้บังคับทุกระดับชั้น ส่วนนายชัยวัฒน์ได้กำชับให้ผู้บริหารปฎิบัติหน้าที่ และปล่อยสินเชื่อตามปกติ เนื่องจากเกรงว่าลูกค้าจะไม่มั่นใจในการใช้บริการสินเชื่อ
สมคิดสั่งอุ๋ยชี้แจงประชาชน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การที่ธปท.ระบุว่านายวิโรจน์มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมในการเข้ารับตำแหน่ง และห้ามเข้าเป็นผู้บริหารของสถาบันการเงิน ถือเป็นเรื่องทางกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการของธนาคารได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าในระหว่างการคัดเลือกตำแหน่งกรรมการก็ไม่พบความผิดของนายวิโรจน์ แต่อย่างใด และเห็นควรเข้ารับตำแหน่งได้ แต่ก็ต้องยอมรับฟังความเห็นของธปท.
“เมื่อ ธปท.เห็นว่านายวิโรจน์ ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งตามข้อกฎหมายแล้วก็ต้องให้ฟังคำตัดสินของ ธปท.เป็นหลัก แต่เพื่อความโปร่งใสในการเสนอความเห็นของ ธปท. ก็ควรจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนทราบเหตุผลว่าทำไมนายวิโรจน์ จึงมาดำรงตำแหน่งนี้ ไม่ได้ และต้องอ้างข้อกฎหมายด้วยว่าเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับอะไร” นายสมคิดกล่าว
ส่วนขั้นตอนต่อไปก็จะต้องมีการสรรหาเอ็มดีคนใหม่นั้น ซึ่งอยากให้เร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว จึงได้สั่งให้การนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทยเข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้ และกำชับทำการคัดเลือกให้เสร็จภายใน 1 เดือน เพราะทุกอย่างจะได้ยุติโดยเร็วที่สุด
นายสมคิดกล่าวว่า การสรรหาเอ็มดีคนใหม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการธนาคาร หากมีความมั่นใจในตัวกรรมการผู้จัดการที่คัดเลือกมาแล้วก็ให้แต่งตั้ง โดยไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องไปให้ธปท.พิจารณาอีก
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าฯธปท. เปิดเผยว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังไม่ได้สั่งให้มีการชี้แจงเรื่องกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยแต่อย่างใด หากจะสั่งต้องสั่งมาที่ตนโดยตรง ถ้ามีข่าวผ่านสื่อมวลชนว่าให้ชี้แจง แสดงว่าสื่อนั้นเขียนข่าวขึ้นมาเอง
นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า หากธนาคารพาณิชย์ใด จะแต่งตั้งกรรมการที่เป็นผู้บริหารและผู้บริหารระดับสูงคนใหม่ ก็ต้องมีการตรวจสอบเช่นเดียวกับธนาคารกรุงไทย ธปท.จะไม่เลือกปฏิบัติกับบุคคลใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
“ยืนยันว่าแบงก์ชาติไม่เคยเจรจาต่อรองใด ๆ กับนายวิโรจน์ และไม่ได้ต่อรองว่าจะไม่ดำเนินการถ้านายวิโรจน์ยอมถอนตัว แต่ได้หารือเพื่อเรื่องราวจะได้จบอย่างสงบ ซึ่งหากนายวิโรจน์ยอมจบเอง แบงก์ชาติก็ไม่ต้องส่งหนังสือชี้แจงว่า นายวิโรจน์เข้าข่ายประกาศกำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเป็นผู้บริหารของสถาบันการเงิน”
นางธาริษาเปิดเผยรายละเอียดในหนังสือที่แจ้งกลับไปยังคณะกรรมการธนาคารกรุงไทยว่า ธปท.ไม่ได้ระบุว่านายวิโรจน์มีความผิด แต่ธปท. เห็นว่า นายวิโรจน์ขาดคุณสมบัติหรือเข้าข่ายเป็นบุคคลต้องห้ามตามมาตรา 4.2 ที่กำหนดว่า ธนาคารพาณิชย์ต้องไม่แต่งตั้งหรือมีกรรมการที่เป็นผู้บริหารละผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามวรรค (8) ที่ระบุว่า มีการบริหารงานที่แสดงถึงการละเลยการทำหน้าที่ตามสมควรในการกลั่นกรองหรือตรวจสอบดูแลมิให้บุคคลที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือขาดความรอบครอบที่พึงมีในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในธุรกิจสถาบันการเงิน หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ฐานะหรือการดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินอย่างมีนัยสำคัญ หรือต่อลูกค้าของธุรกิจสถาบันการเงิน
สำหรับระยะเวลาในการห้ามนายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยนั้น นางธาริษากล่าวว่าไม่มีกำหนดระยะเวลา ส่วนจะห้ามเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์หรือตลาดทุนนั้น ขึ้นอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
บอร์ดเครียดก่อนลอยแพวิโรจน์
แหล่งข่าวคณะกรรมการธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า การประชุมวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมาใช้เวลานานและบรรยากาศค่อนข้างเคร่งเครียด และหลายคนรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบกับการไม่แต่งตั้งนายวิโรจน์ เนื่องจากก่อนหน้าที่จะส่งให้ธปท. บอร์ดได้มีมติแต่งตั้งนายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ดังนั้นคาดว่าพอเรื่องดังกล่าวสงบ จะมีบอร์ดธนาคารบางคนลาออก
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม กรรมการธนาคารซึ่งเป็นอดีตอัยการสูงสุดชี้ว่าคำสั่งของธปท.ที่ระบุว่านายวิโรจน์ "ละเลย" นั้นไม่น่าจะเหมาะสม เพราะการชี้ว่า "ละเลย" น่าจะเป็นเรื่องของศาลเท่านั้น ส่วนเนื้อหาในหนังสือ 3 หน้ากระดาษ อ้างถึงกฎระเบียบที่เขียนไว้ครอบคุลม สามารถหยิบมาเล่นงานผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ได้ตลอดเวลา
"บอร์ดบางคนให้ความเห็นว่า แบงก์ชาติใช้พ.ร.บ.มาออกกฎระเบียบเกี่ยวกับคุณสมบัติต้องห้ามของผู้บริหารแบงก์ที่ เปิดช่องให้ใช้อำนาจเล่นงานได้ง่าย โดยเขียนในทำนอง ถ้าข้าว่าผิดเอ็งก็ต้องผิด" แหล่งข่าวระบุ
นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการธนาคาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวว่า การแต่งตั้งผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ไม่ได้เป็นคำสั่งแต่เป็นการทักท้วงจากธปท. ซึ่งต้องขึ้นกับบอร์ดธนาคารว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะวิธีการปฎิบัติต้องขอความเห็นชอบจากธปท. และวิธีการดังกล่าวในสาขาของธนาคารที่ต่างประเทศก็ดำเนินการเช่นนี้เหมือนกัน โดยหากธนาคารกลางของประเทศนั้นเห็นสิ่งผิดปกติก็จะเข้าตรวจสอบดูแล ซึ่งสำนักงานใหญ่ก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ธนาคารกลางประเทศนั้นๆ รับทราบ
นายชาตรีกล่าวถึงการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพว่า ให้อำนาจกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานกรรมการบริหารในการพิจารณา หากมีข้อผิดพลาดกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานกรรมการบริหารต้องรับผิดชอบ
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและวางแผน ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องสถาบันการเงิน ผู้ว่าฯธปท.ต้องยึดหลักการที่ถูกต้อง และหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น
"การแก้ปัญหาความขัดแย้งบางอย่างไม่จำเป็นต้องนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน เพราะจะทำให้เกิดการขยายผลในทางที่ไม่เหมาะสม" นายอนุสรณ์กล่าว
โบรกฯชี้ข้อมูลคลุมเครือ
นายสาธิต วรรณศิลปิน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (CNS) เปิดเผยว่า การที่บอร์ดธนาคารกรุงไทยไม่อนุมัติให้นายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการ ไม่สามารถประเมินได้ว่ามาจากปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารหรือไม่ เนื่องจากเนื่องดังกล่าวไม่ได้รับการเปิดเผย อย่างไรก็ตามคงไม่เกิดปัญหาว่าผู้บริหารไม่กล้าปล่อยกู้เพราะกลัวจะถูกตรวจสอบ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์อื่นที่เป็นของรัฐมีขนาดเล็กกว่ากรุงไทย และเริ่มมีการบริหารงานที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น
ส่วนประเด็นในเรื่องของความมั่นใจของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศนั้น ถือว่าความไม่มั่นใจได้เกิดขึ้นและจบไปแล้วตั้งแต่ในช่วงที่มีข่าวการเพิ่มขึ้นของ NPL จำนวนมาก แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าหลังจากที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/47 ของกลุ่มธนาคารออกมาแล้วเรื่องของความมั่นใจน่าจะชัดเจนขึ้น และประเด็นต่างๆน่าจะถูกเปิดเผยออกมาพร้อมกับผลการดำเนินงาน ซึ่งเชื่อว่าในไตรมาส 3/47 นี้ผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์น่าจะออกมาค่อนข้างดี ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่ได้ตอบรับ
นายวรุตฆ์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อหุ้นธนาคารกรุงไทย เพราะธนาคารมีการบริหารงานเป็นระบบไม่ใช่พึ่งคนหนึ่งคนใด โดยปัจจัยที่จะต้องจับตาต่อไปคือความสัมพันธ์ระหว่างธปท.กับกระทรวงการคลัง และธปท.กับฝ่ายการเมือง
"ตอนนี้ราคาหุ้นธนาคารกรุงไทยปรับตัวลดลงมามาก ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัจจัยเรื่องหนี้เสียแต่ก็เชื่อว่าธนาคารคงจะไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่มดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุนได้ โดยประเมินราคาเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 17-18 บาท"