xs
xsm
sm
md
lg

แมงป่องแก้เกมปัญหาลิขสิทธ์ ปูฐานทุกค่ายกระจายความเสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แมงป่องยอมรับธุรกิจซื้อลิขสิทธิ์มีความเสี่ยง ต้องแก้เกมด้วยการควานหาลิขสิทธิ์เข้ามาอยู่ในมือหลายค่ายรองรับไว้ ล่าสุดจูบปากกับเสี่ยเจียงอีกรอบ หลังแยกทางเดินไป 1 ปี คว้าลิขสิทธิ์หนังไทยหนังฝรั่งโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์เบ็ดเสร็จ พร้อมกับการพยายามสร้างหนังเองเพื่อลดความเสี่ยง มั่นใจประสบการณ์ช่วยได้ ปีนี้วางแผนผุดร้านแมงป่องให้ครบ 250 แห่ง เผยถือลิขสิทธิ์มากที่สุดในไทย ลั่นพฤศจิกายนนี้เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้แน่

นางกิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมงป่อง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่แมงป่องไม่ได้เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การทำตลาดภาพยนตร์ของค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ในรูปแบบตลาดเช่าและขายมา 1 ปีนั้น ขณะนี้ทั้งคู่ได้กลับมาเป็นพันธมิตรต่อกันอีกครั้งแล้ว โดยล่าสุดแมงป่องได้เซ็นสัญญากับทางนายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือเสี่ยเจียงของบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ในการเป็นผู้รับลิขสิทธิ์การทำตลาดขายขาดในรูปแบบโฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์ จากเดิมที่ทำทั้งเช่าและขาย

ทั้งนี้สัญญาใหม่จะมีระยะเวลานาน 2 ปี โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งประเมินว่าจะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์อย่างต่ำเดือนละประมาณ 32 ล้านบาท เป็นระยะเวลานาน 2 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2005-2006 มีภาพยนตร์รวมมากกว่า 270 เรื่อง

อย่างไรก็ตามในช่วง 1 ปีที่ไม่ได้ถือลิขสิทธิ์หนังของค่ายสหมงคลฟิล์มฯนั้นบริษัทฯไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะว่าได้พยายามมองหาลิขสิทธิ์ของบริษัทอื่นๆมาทดแทน และทุกวันนี้แมงป่องถือลิขสิทธิ์ของทั้งค่ายสหมงคลฟิล์ม เฉพาะหนังฝรั่งและไทย ลิขสิทธิ์ของค่ายอาร์.เอส.ฟิล์ม ลิขสิทธิ์ของค่ายไฟว์สตาร์ ลิขสิทธิ์ของค่ายซีเอ็มฟิล์ม แต่ยอมรับว่าหนังของสหมงคลฟิล์มนั้นเป็นหนังที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด

ที่ผ่านมาหนังของสหมงคลฟิล์มสามารถสร้างสถิติที่น่าสนใจไว้มากเช่น สุริโยไทรายได้กว่า 700 ล้านบาท เรื่ององก์บากมากกว่า 120 ล้านบาท เรื่องอารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต รายได้กว่า 50 ล้านบาท

“เรายอมรับว่าธุรกิจการซื้อลิขสิทธิ์นั้นมันเสี่ยงมาก เพราะว่าต้องซื้อล่วงหน้า แต่ด้วยประสบการณ์ในวงการบันเทิงของเรา เรามั่นใจว่าเรามีความเชี่ยวชาญในการเลือกซื้อสินค้า ดูบริษัทผู้ผลิต บริษัทที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างดี และแมงป่องเองก็มีความแข็งแกร่งทางด้านเครือข่ายด้วย จึงมีความมั่นใจในธุรกิจนี้มาก อีกทั้งเราเองก็พยายามขยายธุรกิจไปยังการเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์หรือสร้างหนังเองด้วย เพราจะทำให้เรามีลิขสิทธ์ของตัวเองด้วยเป็นการต่อยอด และปีหน้ามีแผนที่จะสร้างเรื่อง บุปผาราตรีภาค 2 ด้วย”

สำหรับการร่วมมือกับสหมงคลฟิล์มฯในครั้งนี้ จะทำให้แมงป่องเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์ภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทฯมีแผนที่จะนำไปใช้ในการลงทุนขยายสาขาและใช้ในการจัดซื้อจัดหาลิขสิทธิ์เพื่อนำมาผลิตเป็นสินค้าโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้แมงป่องขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่เองและมีการเติบโตต่อไป

ปัจจุบันแมงป่องมีสาขารวม 219 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ และปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะมีสาขาครบ 250 สาขา สำหรับผลประกอบการของแมงป่องนั้น เมื่อปีที่แล้วมีรายได้ประมาณ 1,456 ล้านบาท มีกำไร 243 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกปีนี้มีรายได้ประมาณ 711 ล้านบาท มีกำไรประมาณ 54 ล้านบาท คาดว่าจะมีกำไรลดลงเนื่องจากการปรับบัญชีใหม่ ทั้งนี้ในปีหน้าคาดว่ารายได้และกำไรจะเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากลิขสิทธิ์หนังของเสี่ยเจียงจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงปีหน้า ซึ่งสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นหนังลิขสิทธิ์กว่า 70% (แบ่งเป็นลิขสิทธ์หนัง 90% ลิขสิทธิ์เพลง 10% ) และอีก 30% เป็นสินค้าฝากขาย

สำหรับความคืบหน้าในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น ปัจจุบันได้รับอนุญาตจากสำนักงานกลต.เรียบร้อยแล้วและจะทำการสำรวจความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบันประมาณกลางเดือนตุลาคมศกนี้ เพื่อสรุปราคาที่แน่นอน คาดว่าจะทำการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในปลายเดือนตุลาคมนี้ และหุ้นแมงป่อง “PONG” จะเข้าเทรดในหมวดบันเทิงและสันทนาการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 295 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 295 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นทุนชำระแล้วจำนวน 220 ล้านบาท และมีแผนที่จะระดมทุนโดยการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนจำนวน 75 ล้านหุ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น