โมเดิร์น ไดมอนด์ขานรับเทรนด์ผู้ชายใส่เครื่องประดับเพชรมาแรง ปีหน้าเตรียมออกสินค้าเจาะกลุ่มผู้ชายโดยเฉพาะ ล่าสุดจัดงานฉลองครบรอบ 6 ปีพร้อมออกคอลเลคชั่นพิเศษ 6 แบบเอาใจลูกค้าวีไอพี ตั้งเป้าสิ้นปียอดขายโต 35-40% จากการที่ปรับโฉมร้าน ,บริการของพนักงานและรูปแบบสินค้าใหม่
นางมณีนุช งามผาติพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลเลนเนียม ไดมอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย เครื่องประดับเพชรภายใต้แบรนด์โมเดิร์น ไดมอนด์ เปิดเผยว่า ในช่วงกลางปีหน้าประมาณไตรมาสที่ 3และ 4 บริษัทฯมีโครงการที่จะออกเครื่องประดับสำหรับผู้ชายเป็นครั้งแรก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบคลุม อีกทั้งช่วงนี้เทรนด์ของผู้ชายหันมานิยมใส่เครื่องประดับเพชรมีมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นกำลังเตรียมทำคอนเซ็ปต์และดีไซน์สินค้าอยู่ในกลุ่มของเครื่องประดับ อาทิ แหวน เลส และจี้ เป็นต้น โดยปัจจุบันสัดส่วนกลุ่มลูกค้าผู้ชายมี 10% คาดว่าหลังจากการออกสินค้าตัวนี้แล้วจะช่วยให้สัดส่วนดังกล่าวโตขึ้นกว่าปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้บริษัทฯ เตรียมออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยจะเน้นไปที่สินค้าที่สามารถใส่ได้หลายโอกาสและเหมาะกับสไตล์การแต่งตัวของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีรายได้ 10,000 บาทขึ้นไป เช่น แหวน,จี้,เข็มกลัด เป็นต้น โดยในแต่ละปีบริษัทฯจะดีไซน์สินค้าออกมา 200 กว่าชิ้นต่อปี
โดยสัดส่วนของลูกค้าที่มาซื้อจะแบ่งเป็นซื้อเพื่อตัวเอง 70% และซื้อเพื่อเป็นของขวัญ 20% และแหวนแต่งงาน 10% ซึ่งราคาเฉลี่ยในตลาดต่อการซื้อสินค้าต่อครั้งประมาณ 20,000 บาท และสินค้าที่คนไทยนิยมซื้อมากที่สุด คือ แหวน คิดเป็น 40% ต่างหูและจี้ 30%
ด้านกิจกรรมทางการตลาดในแต่ละปีบริษัทฯใช้งบประมาณ 3-4% ของยอดรายได้ โดยผ่านสื่อนิตยสารผู้หญิงเป็นหลัก รวมถึงการปรับโฉมเคาน์เตอร์ใหม่ทั้งหมดให้มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยงบสาขาละ 2-5 แสนบาท ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนขณะนี้เหลืออีก 2 สาขาที่ยังไม่ได้ปรับ รวมถึงการปรับภาพลักษณ์การแต่งตัวของพนักงานใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสินค้า
ปัจจุบันโมเดิร์น ไดมอนด์มีเคาน์เตอร์อยู่ทั้งหมด 14 สาขา อาทิ เดอะมอลล์และเซ็นทรัล บางสาขา ซีคอนสแควร์ เป็นต้น โดยในปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มเป็น 17 สาขา หรือเฉลี่ยทุกปีจะขยายสาขา 2-3 แห่ง โดยอีก 2 ปีข้างหน้าบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดเป็นลักษณะรูปแบบร้านบนห้างสรรพสินค้าเป็นแห่งแรก ด้วยงบลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 50-100 ตร.ม.
ในขณะที่แนวโน้มการแข่งขันในปีหน้านั้น นางมณีนุช กล่าวว่า ตลาดเครื่องประดับเพชรจะมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น โดยในตลาดจะมีแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นมากและหันมาเล่นเรื่องกลยุทธ์ทางด้านราคา รวมถึงการต่อสู้ที่รูปแบบและการบริการ ซึ่งโมเดิร์น ไดมอนด์จะสร้างความแตกต่างจากรายอื่นๆ ด้วยการดีไซน์ , เทรนด์แฟชั่น และการบริการของพนักงานขาย
ตลาดเครื่องประดับเพชรมีมูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดในห้าง 600 ล้านบาท โมเดิร์น ไดมอนด์ซึ่งถือว่าติดอันดับ 1 ใน 5 มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 9-10% บริษัทฯคาดสิ้นปีนี้มียอดรายได้โตขึ้นจากปีที่แล้ว 35-40% จากการที่บริษัทฯได้มีการปรับโฉมเคาน์เตอร์ใหม่ และฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ในเครื่องเครื่องประดับ และปรับปรุงสินค้าให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ในขณะที่ปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้ายอดขายโตขึ้น 20%
นางมณีนุช งามผาติพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลเลนเนียม ไดมอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย เครื่องประดับเพชรภายใต้แบรนด์โมเดิร์น ไดมอนด์ เปิดเผยว่า ในช่วงกลางปีหน้าประมาณไตรมาสที่ 3และ 4 บริษัทฯมีโครงการที่จะออกเครื่องประดับสำหรับผู้ชายเป็นครั้งแรก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบคลุม อีกทั้งช่วงนี้เทรนด์ของผู้ชายหันมานิยมใส่เครื่องประดับเพชรมีมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นกำลังเตรียมทำคอนเซ็ปต์และดีไซน์สินค้าอยู่ในกลุ่มของเครื่องประดับ อาทิ แหวน เลส และจี้ เป็นต้น โดยปัจจุบันสัดส่วนกลุ่มลูกค้าผู้ชายมี 10% คาดว่าหลังจากการออกสินค้าตัวนี้แล้วจะช่วยให้สัดส่วนดังกล่าวโตขึ้นกว่าปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้บริษัทฯ เตรียมออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยจะเน้นไปที่สินค้าที่สามารถใส่ได้หลายโอกาสและเหมาะกับสไตล์การแต่งตัวของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีรายได้ 10,000 บาทขึ้นไป เช่น แหวน,จี้,เข็มกลัด เป็นต้น โดยในแต่ละปีบริษัทฯจะดีไซน์สินค้าออกมา 200 กว่าชิ้นต่อปี
โดยสัดส่วนของลูกค้าที่มาซื้อจะแบ่งเป็นซื้อเพื่อตัวเอง 70% และซื้อเพื่อเป็นของขวัญ 20% และแหวนแต่งงาน 10% ซึ่งราคาเฉลี่ยในตลาดต่อการซื้อสินค้าต่อครั้งประมาณ 20,000 บาท และสินค้าที่คนไทยนิยมซื้อมากที่สุด คือ แหวน คิดเป็น 40% ต่างหูและจี้ 30%
ด้านกิจกรรมทางการตลาดในแต่ละปีบริษัทฯใช้งบประมาณ 3-4% ของยอดรายได้ โดยผ่านสื่อนิตยสารผู้หญิงเป็นหลัก รวมถึงการปรับโฉมเคาน์เตอร์ใหม่ทั้งหมดให้มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยงบสาขาละ 2-5 แสนบาท ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนขณะนี้เหลืออีก 2 สาขาที่ยังไม่ได้ปรับ รวมถึงการปรับภาพลักษณ์การแต่งตัวของพนักงานใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสินค้า
ปัจจุบันโมเดิร์น ไดมอนด์มีเคาน์เตอร์อยู่ทั้งหมด 14 สาขา อาทิ เดอะมอลล์และเซ็นทรัล บางสาขา ซีคอนสแควร์ เป็นต้น โดยในปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มเป็น 17 สาขา หรือเฉลี่ยทุกปีจะขยายสาขา 2-3 แห่ง โดยอีก 2 ปีข้างหน้าบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดเป็นลักษณะรูปแบบร้านบนห้างสรรพสินค้าเป็นแห่งแรก ด้วยงบลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 50-100 ตร.ม.
ในขณะที่แนวโน้มการแข่งขันในปีหน้านั้น นางมณีนุช กล่าวว่า ตลาดเครื่องประดับเพชรจะมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น โดยในตลาดจะมีแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นมากและหันมาเล่นเรื่องกลยุทธ์ทางด้านราคา รวมถึงการต่อสู้ที่รูปแบบและการบริการ ซึ่งโมเดิร์น ไดมอนด์จะสร้างความแตกต่างจากรายอื่นๆ ด้วยการดีไซน์ , เทรนด์แฟชั่น และการบริการของพนักงานขาย
ตลาดเครื่องประดับเพชรมีมูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดในห้าง 600 ล้านบาท โมเดิร์น ไดมอนด์ซึ่งถือว่าติดอันดับ 1 ใน 5 มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 9-10% บริษัทฯคาดสิ้นปีนี้มียอดรายได้โตขึ้นจากปีที่แล้ว 35-40% จากการที่บริษัทฯได้มีการปรับโฉมเคาน์เตอร์ใหม่ และฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ในเครื่องเครื่องประดับ และปรับปรุงสินค้าให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ในขณะที่ปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้ายอดขายโตขึ้น 20%