นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของ นายลุด ดาโยต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคาร์ฟูร์ จำกัด ว่า ได้ทำความตกลงในหลักการ ซึ่งทางห้างคาร์ฟูร์ต้องการทำการตลาดให้กับสินค้าเกษตรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กับผลิตภัณฑ์ ในโครงการ 1 ฟาร์ม 1 ตำบล โดยตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. เป็นต้นไป จะเริ่มจำหน่ายผลผลิตของโครงการ ในทุกสาขาของห้างคาร์ฟูร์ ซึ่งมีทั้งหมด 19 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนของความร่วมมือ กระทรวงเกษตรฯ เพียงแต่ควบคุมการผลิตของเกษตรกรให้ได้มาตรฐานตามที่คาร์ฟูร์กำหนดเท่านั้น โดยยึดหลักความปลอดภัยทางอาหารหรือฟู๊ดเซฟตี้ โดยทางฝ่ายคาร์ฟูร์จะส่งนักวิชาการมาร่วมในการตรวจสอบสินค้าด้วย ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคด้วย ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
"ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาด้านการตลาดสินค้าการเกษตรได้ ซึ่งที่ผ่านมาค่อนข้างมีปัญหาด้านการจัดจำหน่ายเป็นอย่างมาก เมื่อปัญหาหมดไปก็คาดว่าจะมีเกษตรกรรายใหม่ๆเข้าสู่การผลิตสินค้าการเกษตรมากขึ้น" นายเนวิน กล่าว
นายเนวิน กล่าวต่อว่า ในอนาคตหากมีการขยายตัวภาคการเกษตรมากขึ้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาซึ่งจะต้องทำงานด้านการส่งเสริมการเกษตร ไปพร้อมๆกับ การทำการตลาด เพื่อขยายตลาดใหม่ๆต่อไป ซึ่งต่อไปก็จะต้องสนับสนุนทางด้านสินค้าปศุสัตว์ ประมงให้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 8 พันครัวเรือน โดยมีรายได้เข้าสู่พื้นที่ประมาณ 2-3 แสนบาท/วัน หรือประมาณเดือนละ 6 ล้านบาท
สำหรับ สินค้าที่ห้างคาร์ฟูร์ต้องการเป็นผัก-ผลไม้ทั่วๆไป ซึ่งเกษตรกรจะต้องผลิตตามออร์เดอร์ที่ห้างต้องการ อาทิ กวางตุ้ง คะน้า ผักกาดหอม หรือผลไม้ตามฤดูกาลนั้นๆ ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องการตลาด แต่เกษตรกรจะต้องผลิตให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด อย่างไรก็ตามหากโครงการนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะขยายขอบเขตไปยังภูมิภาคอื่นๆต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของความร่วมมือ กระทรวงเกษตรฯ เพียงแต่ควบคุมการผลิตของเกษตรกรให้ได้มาตรฐานตามที่คาร์ฟูร์กำหนดเท่านั้น โดยยึดหลักความปลอดภัยทางอาหารหรือฟู๊ดเซฟตี้ โดยทางฝ่ายคาร์ฟูร์จะส่งนักวิชาการมาร่วมในการตรวจสอบสินค้าด้วย ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคด้วย ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
"ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาด้านการตลาดสินค้าการเกษตรได้ ซึ่งที่ผ่านมาค่อนข้างมีปัญหาด้านการจัดจำหน่ายเป็นอย่างมาก เมื่อปัญหาหมดไปก็คาดว่าจะมีเกษตรกรรายใหม่ๆเข้าสู่การผลิตสินค้าการเกษตรมากขึ้น" นายเนวิน กล่าว
นายเนวิน กล่าวต่อว่า ในอนาคตหากมีการขยายตัวภาคการเกษตรมากขึ้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาซึ่งจะต้องทำงานด้านการส่งเสริมการเกษตร ไปพร้อมๆกับ การทำการตลาด เพื่อขยายตลาดใหม่ๆต่อไป ซึ่งต่อไปก็จะต้องสนับสนุนทางด้านสินค้าปศุสัตว์ ประมงให้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 8 พันครัวเรือน โดยมีรายได้เข้าสู่พื้นที่ประมาณ 2-3 แสนบาท/วัน หรือประมาณเดือนละ 6 ล้านบาท
สำหรับ สินค้าที่ห้างคาร์ฟูร์ต้องการเป็นผัก-ผลไม้ทั่วๆไป ซึ่งเกษตรกรจะต้องผลิตตามออร์เดอร์ที่ห้างต้องการ อาทิ กวางตุ้ง คะน้า ผักกาดหอม หรือผลไม้ตามฤดูกาลนั้นๆ ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องการตลาด แต่เกษตรกรจะต้องผลิตให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด อย่างไรก็ตามหากโครงการนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะขยายขอบเขตไปยังภูมิภาคอื่นๆต่อไป