กลุ่มแพทย์ประกาศต้าน“ภักดี”ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดสธ. นายกแพทยสภาชี้ชัดไม่เหมาะสมกับการบริหารงาน และอาจเกิดคลื่นใต้น้ำจนทำให้การกระทบกับการให้บริการประชาชน ขณะที่ “กลุ่มหมอชุดดำ”ยื่นหนังสือถึงเจ้ากระทรวง ระบุชัดตัวเต็งไม่เข้าใจในแนวคิดแพทย์ โดยเฉพาะเรื่องพ.ร.บ.ยา พร้อมขู่หากมีการตั้งจริงรับรองมีเรื่อง ด้าน“สุดารัตน์”โยน“วิษณุ”ตัดสิน
วานนี้(27ก.ย.)ที่โรงแรมหลุยส์ แทเวิร์น น.พ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้เข้าพบ และหารืออย่างไม่เป็นทางการกับนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข เรื่องการแต่งตั้งปลัดกระทรวงคนใหม่ โดยยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งบุคคลจากวิชาชีพอื่น เพราะจะมีปัญหาในการประสานงานกับแพทย์ และอาจจะเกิดคลื่นใต้น้ำ ทำให้กระทบการให้บริการประชาชน
“หากนำคนที่ไม่ใช่แพทย์เข้ามาเป็นปลัดฯ ก็อาจทำงานได้ แต่คงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะคนที่ไม่เคยผ่านโรงพยาบาลมาเลย ไม่รู้ระบบการทำงานของโรงพยาบาล แล้วจะมาทำงานกับคนที่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล หรือแพทย์ได้อย่างไร แต่หากมีการแต่งตั้งจริงๆ แพทยสภาก็คงไม่เรียกร้องหรือเคลื่อนไหวอะไร แต่ที่เตือนก็ด้วยความหวังดีเท่านั้น”
“รัฐบาลเป็นคนเลือก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องรับผิดชอบเอง เราเป็นเพียงแต่ผู้ให้ข้อเสนอแนะก็เท่านั้น เรื่องดังกล่าวก็เหมือนกับคนจีนที่เป็นพ่อค้า ก่อนที่เขาจะให้ลูกมาดูแลกิจการ ก็ยังต้องส่งไปฝึกงานเป็นลูกจ้างของบริษัทก่อนเลย จะได้รู้ว่ามีระบบการทำงานยังไง หรือกรณีกระทรวงกลาโหม คนที่ทำงานก็เป็นพลเรือนเยอะแยะ แต่คนที่มาเป็นปลัดฯ ก็ต้องเป็นทหาร”
ขณะที่ น.พ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ ประธานชมรมแพทย์เพื่อวิชาชีพแพทย์ และคณะ ได้เข้ายื่น แถลงการณ์ “ขอคัดค้านการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงฯ” โดยได้แสดงถึงเหตุผลของการคัดค้าน 3 ข้อ คือ
1.บุคคลที่จะเข้ารับดำรงตำแหน่งปลัดสธ.ต้องไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ยา ซึ่งชมรมได้ชี้ให้เห็นแล้วถึงจุดบกพร่องและปัญหาของร่างกฏหมายฉบับนี้ และถือว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่เพียงแต่ทำลายวิชาชีพแพทย์เท่านั้น แต่ยังมีเป้าประสงค์ทำลายชาติ เปิดโอกาสให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ฮุบธุรกิจยาที่เคยเป็นของคนไทยให้เป็นของคนต่างชาติ
2.บุคคลที่จะเป็นปลัดสธ.ต้องเข้าใจอย่างแท้จริงถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับรากหญ้า ต้องมีความเข้าใจในเรื่องของความรู้ทางการแพทย์ ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมาปลัดสธ.มีเฉพาะแพทย์เท่านั้น เพราะเคยผ่านงานในระดับแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ผอ.โรงพยาบาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด จึงมีโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงฯ ก่อนที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นปลัด การแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่เคยผ่านงานในระดับต่างๆ จะสามารถทำหน้าที่ในฐานะผู้นำได้อย่างไร
3.บุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งปลัดสธ.ต้องเป็นที่ยอมรับของข้าราชการในกระทรวงฯเพื่อให้ทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น
น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า การที่ทางชมรมฯ ได้ยื่นหนังสือก็เพื่อแสดงจุดยืนที่ต้องการบุคคลที่เป็นแพทย์ เพื่อมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงฯ ซึ่งเท่าที่ดูจากแคนดิเดตของผู้สมัครทั้ง 3 คนคือ น.พ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต น.พ.วิชัย เทียนถาวร อธิบดีกรมอนามัย และ ดร.ภักดี โพธิศิริ รองปลัดสธ.บุคคลที่น่าจะเป็นตัวเลือกขณะนี้น่าจะเป็น ดร.ภักดี และ น.พ.วิชัย
“หากมติคณะรัฐมนตรีในวันนี้จะแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์จะมีผลอย่างมากต่อขวัญ และกำลังใจของแพทย์ เพราะมีความเห็นที่สนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.ยา และหากมีการแต่งตั้งจริงจะเกิดการเคลื่อนไหวจากกลุ่มแพทย์ที่ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน”น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าว
ด้านนางสุดารัตน์ กล่าวว่า ปลัดสธ.จะต้องเป็น 1 ใน 3 ผู้ที่สมัครไว้เท่านั้น ซึ่งโดยหลักการทั่วไปก็จะต้องดูเรื่องการทำงานและอาวุโสเป็นหลัก ส่วนที่มีการมีกลุ่มแพทย์คัดค้านหากแต่งตั้งคนที่ไม่ใช่แพทย์มาเป็นปลัดกระทรวงฯนั้น ก็อยากให้ทุกฝ่ายยืนอยู่บนหลักการของเหตุผล
“อยากให้ทุกฝ่ายใจเย็น ดิฉันตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องให้รองฯวิษณุ (เครืองาม)
เป็นผู้พิจารณา สำหรับความเห็นของหลายๆ กลุ่มก็พร้อมรับฟัง แต่ทุกอย่างก็ต้องอยู่บนเหตุและผลอยากให้ทุกฝ่ายเปิดกว้าง”นางสุดารัตน์กล่าว ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากสธ.กล่าวว่า ความจริงตำแหน่งปลัดมีความชัดเจนแล้วเพียงแต่นางสุดารัตน์ ยังไม่อยากพูดออกไป เพราะมีกระแสต้านตลอดเวลา และถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะมีการเสนอตำแหน่ง ซี 10 เข้าพิจารณาไปในคราวเดียวกันเลย โดยตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมโรคนั้น ได้เตรียมไว้รองรับสำหรับผู้สมัคร 1 ใน 3 ที่อกหักจากการได้รับการแต่งตั้งเบื้องต้น ซึ่งที่วางไว้ คือ น.พ.ปราชญ์ ขณะที่ฝ่ายการเมืองเองก็เตรียมที่นั่งดังกล่าวไว้สำหรับ น.พ.วิชัย เช่นเดียวกัน
วานนี้(27ก.ย.)ที่โรงแรมหลุยส์ แทเวิร์น น.พ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้เข้าพบ และหารืออย่างไม่เป็นทางการกับนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข เรื่องการแต่งตั้งปลัดกระทรวงคนใหม่ โดยยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งบุคคลจากวิชาชีพอื่น เพราะจะมีปัญหาในการประสานงานกับแพทย์ และอาจจะเกิดคลื่นใต้น้ำ ทำให้กระทบการให้บริการประชาชน
“หากนำคนที่ไม่ใช่แพทย์เข้ามาเป็นปลัดฯ ก็อาจทำงานได้ แต่คงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะคนที่ไม่เคยผ่านโรงพยาบาลมาเลย ไม่รู้ระบบการทำงานของโรงพยาบาล แล้วจะมาทำงานกับคนที่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล หรือแพทย์ได้อย่างไร แต่หากมีการแต่งตั้งจริงๆ แพทยสภาก็คงไม่เรียกร้องหรือเคลื่อนไหวอะไร แต่ที่เตือนก็ด้วยความหวังดีเท่านั้น”
“รัฐบาลเป็นคนเลือก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องรับผิดชอบเอง เราเป็นเพียงแต่ผู้ให้ข้อเสนอแนะก็เท่านั้น เรื่องดังกล่าวก็เหมือนกับคนจีนที่เป็นพ่อค้า ก่อนที่เขาจะให้ลูกมาดูแลกิจการ ก็ยังต้องส่งไปฝึกงานเป็นลูกจ้างของบริษัทก่อนเลย จะได้รู้ว่ามีระบบการทำงานยังไง หรือกรณีกระทรวงกลาโหม คนที่ทำงานก็เป็นพลเรือนเยอะแยะ แต่คนที่มาเป็นปลัดฯ ก็ต้องเป็นทหาร”
ขณะที่ น.พ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ ประธานชมรมแพทย์เพื่อวิชาชีพแพทย์ และคณะ ได้เข้ายื่น แถลงการณ์ “ขอคัดค้านการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงฯ” โดยได้แสดงถึงเหตุผลของการคัดค้าน 3 ข้อ คือ
1.บุคคลที่จะเข้ารับดำรงตำแหน่งปลัดสธ.ต้องไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ยา ซึ่งชมรมได้ชี้ให้เห็นแล้วถึงจุดบกพร่องและปัญหาของร่างกฏหมายฉบับนี้ และถือว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่เพียงแต่ทำลายวิชาชีพแพทย์เท่านั้น แต่ยังมีเป้าประสงค์ทำลายชาติ เปิดโอกาสให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ฮุบธุรกิจยาที่เคยเป็นของคนไทยให้เป็นของคนต่างชาติ
2.บุคคลที่จะเป็นปลัดสธ.ต้องเข้าใจอย่างแท้จริงถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับรากหญ้า ต้องมีความเข้าใจในเรื่องของความรู้ทางการแพทย์ ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมาปลัดสธ.มีเฉพาะแพทย์เท่านั้น เพราะเคยผ่านงานในระดับแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ผอ.โรงพยาบาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด จึงมีโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงฯ ก่อนที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นปลัด การแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่เคยผ่านงานในระดับต่างๆ จะสามารถทำหน้าที่ในฐานะผู้นำได้อย่างไร
3.บุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งปลัดสธ.ต้องเป็นที่ยอมรับของข้าราชการในกระทรวงฯเพื่อให้ทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น
น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า การที่ทางชมรมฯ ได้ยื่นหนังสือก็เพื่อแสดงจุดยืนที่ต้องการบุคคลที่เป็นแพทย์ เพื่อมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงฯ ซึ่งเท่าที่ดูจากแคนดิเดตของผู้สมัครทั้ง 3 คนคือ น.พ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต น.พ.วิชัย เทียนถาวร อธิบดีกรมอนามัย และ ดร.ภักดี โพธิศิริ รองปลัดสธ.บุคคลที่น่าจะเป็นตัวเลือกขณะนี้น่าจะเป็น ดร.ภักดี และ น.พ.วิชัย
“หากมติคณะรัฐมนตรีในวันนี้จะแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์จะมีผลอย่างมากต่อขวัญ และกำลังใจของแพทย์ เพราะมีความเห็นที่สนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.ยา และหากมีการแต่งตั้งจริงจะเกิดการเคลื่อนไหวจากกลุ่มแพทย์ที่ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน”น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าว
ด้านนางสุดารัตน์ กล่าวว่า ปลัดสธ.จะต้องเป็น 1 ใน 3 ผู้ที่สมัครไว้เท่านั้น ซึ่งโดยหลักการทั่วไปก็จะต้องดูเรื่องการทำงานและอาวุโสเป็นหลัก ส่วนที่มีการมีกลุ่มแพทย์คัดค้านหากแต่งตั้งคนที่ไม่ใช่แพทย์มาเป็นปลัดกระทรวงฯนั้น ก็อยากให้ทุกฝ่ายยืนอยู่บนหลักการของเหตุผล
“อยากให้ทุกฝ่ายใจเย็น ดิฉันตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องให้รองฯวิษณุ (เครืองาม)
เป็นผู้พิจารณา สำหรับความเห็นของหลายๆ กลุ่มก็พร้อมรับฟัง แต่ทุกอย่างก็ต้องอยู่บนเหตุและผลอยากให้ทุกฝ่ายเปิดกว้าง”นางสุดารัตน์กล่าว ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากสธ.กล่าวว่า ความจริงตำแหน่งปลัดมีความชัดเจนแล้วเพียงแต่นางสุดารัตน์ ยังไม่อยากพูดออกไป เพราะมีกระแสต้านตลอดเวลา และถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะมีการเสนอตำแหน่ง ซี 10 เข้าพิจารณาไปในคราวเดียวกันเลย โดยตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมโรคนั้น ได้เตรียมไว้รองรับสำหรับผู้สมัคร 1 ใน 3 ที่อกหักจากการได้รับการแต่งตั้งเบื้องต้น ซึ่งที่วางไว้ คือ น.พ.ปราชญ์ ขณะที่ฝ่ายการเมืองเองก็เตรียมที่นั่งดังกล่าวไว้สำหรับ น.พ.วิชัย เช่นเดียวกัน