"สมใจนึก" สั่งควานหาไอ้โม่งอนุมัติจัดจ้างซื้อสื่อซีเอ็นเอ็น ยื้อเวลาจากค่าโฆษณาCNN ไฟเขียวตั้งคณะกรรมการ 3 ชุดพิจารณา ทำงานควบคู่ไปกับการพิจารณาตีความของอัยการ เรื่องข้อกฎหมายเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการจัดการงานนอกสั่ง คาด 2 เดือนรู้ผล เผยรับทราบมีใบสั่งทำอาร์ตเวิร์ค จากนิตยสาร TIME แล้ว เตรียมสาวเรื่องขยายผล พร้อมเรียกถามข้อเท็จจริง จุฑามาศ - ไพสิฐ
นายโชคศิริ รอดบุญพา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัดหรือทีพีซี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติให้ ดำเนินการจัดตั้ง คณะกรรมการรวม 3 ชุด เพื่อมาดำเนินการตรวจสอบปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างสื่อโฆษณา ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการชุดตรวจสอบผลงานว่าถูกต้องหรือไม่ ในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง 2.คณะกรรมการชุดตรวจสอบการรับงาน และ 3. คณะกรรมการชุดสอบวินัยภายในบริษัท
ทั้งนี้การทำงานของคณะกรรมการทั้ง 3 ชุด จะทำเพื่อขยายความต่อจากคณะกรรมการชุดตรวจสอบ ซึ่งมี นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยชุดที่ 1 และ3 สามารถดำเนินการจัดตั้งได้ทันที ดังนั้นขั้นตอนที่จะทำคือ ขอคำปรึกษาจากคณะที่ปรึกษาก่อนการจัดตั้ง ส่วนผู้ที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการจะคัดเลือกมาจากบุคคลภายนอก ส่วนคณะกรรมการชุดที่ 2 ต้องรอผลจากคณะกรรมการชุดแรกก่อน
ทั้งนี้ปัญหาการจัดจ้างที่เกิดขึ้น จะมีผู้เกี่ยวข้องอยู่ 3 ฝ่าย คือ มีเดีย ,โบรกเกอร์มีเดีย และ บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ซึ่งโบรกเกอร์มีเดียในที่นี้คือ บริษัท ไทย เรพพรีเซนเทชั่น จำกัด ที่เป็นผู้จัดซื้อสื่อรวม 4 แห่ง เป็นจำนวนเงิน 147 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. บริษัท CNN จำนวนเงิน 49.08 ล้านบาท 2. ไทม์ แมกกาซีน 68.85 ล้านบาท 3.นิตยสาร ฟอร์จูน 25.93 ล้านบาท และ 4. นิยตสารเพรสซิเด้นท์ 3.4 ล้านบาท ซึ่งการทวงหนี้ที่เกิดขึ้นเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาของ CNN นั้นเป็นการสั่งซื้อโดยบริษัท ไทยเรพพรีเซนเทชั่น แต่กลับไม่มีผู้สั่งการจาก บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ตรงนี้จึงต้องมีการตรวจสอบ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงของใบคำสั่งให้ได้ ก่อนจะตัดสินว่าต้องจ่ายเงินใครในจำนวนเท่าใด โดยประเมินตามผลงานที่เกิดขึ้น
นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานคณะกรรมการ บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เปิดเผยว่า การทำงานของคณะกรรมการชุดตรวจสอบ ยังหาหลักฐานได้ไม่เพียงพอ มีเพียงใบสั่งทำอาร์ตเวิร์ค จากบางบริษัทจาก นิตยสาร TIME ดังนั้นสิ่งที่เราต้องสืบถามต่อไปคือ ได้มีการอนุมัติให้ไปลงโฆษณาใน CNN ด้วยหรือไม่ เพราะการทำงานทุกอย่างต้องมีคำสั่ง จึงต้องตั้งคณะกรรมการ ขึ้นอีก 3 ชุดดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบ และประเมินผลงาน
ขณะเดียวกันจะทำเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ส่งอัยการ มาช่วยพิจารณาตรวจสอบและตีความในข้อกฎหมายเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง และการจัดการงานนอกสั่ง ว่าการเซ็นอนุมัติในแต่ละครั้งเข้าข่ายข้อบังคับในข้อใด เพราะในช่วง 6 เดือนแรกของการตั้ง ทีพีซี จะยังไม่สามารถใช้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างได้ โดยทั้งหมดจะดำเนินการไปพร้อมๆกัน ซึ่งตามอำนาจของผู้บริหาร ทีพีซี สามารถอนุมัติจ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกินวงเงิน 50 ล้านบาท ในเหตุผลที่สมควร
"ณ วันนี้ ผลของการออกสื่อโฆษณา CNN มีผลตอบรับที่ดี โดยมีผู้สนใจสอบถามมายัง CNN มากกว่า 1,000 ราย ถือว่าเป็นผลประโยชน์ของ ทีพีซี ดังนั้นเราจะต้องมีการจ่ายค่าโฆษณาแน่นอน แต่ในขั้นตอนการดำเนินการ ต้องมีหลักฐานว่ามีผู้สั่งให้ดำเนินการก่อน จากนั้นจะนำผลงานมาประเมิน ว่าจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเท่าใด และยืนยันว่า ทีพีซีไม่มีความคิดที่จะเบี้ยวค่าโฆษณา"
จากการสอบถามของคณะกรรมการฯล่าสุดก็ยังไม่มีผู้ใดออกมายอมรับว่าเป็นผู้สั่งอนุมัติ ซึ่งหน้าที่ของคณะกรรมการ 3 ชุดที่ตั้งขึ้นใหม่ จะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงของผู้มีอำนาจสั่งการขณะนั้น โดยจะสอบถามไปยัง นายไพสิฐ แก่นจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีต ประธานคณะกรรมการ และผู้จัดการฝ่ายการตลาด ณ ขณะนั้น การตรวจสอบทั้งหมดคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือน ก็จะรู้ผลและจ่ายเงินได้
อย่างไรก็ตามในวันนี้ คณะกรรมการฯได้สั่งจ่ายเงิน ค่าที่ปรึกษา ค่าทนายความ และอื่นๆ รวม 18 บริษัท เป็นวงเงินรวม 20 ล้านบาท เพราะตั้งแต่เกิดการทวงหนี้ของ CNN ทีพีซี ก็ยังไม่ได้จ่ายเงินให้กับบริษัทใดๆทั้งสิ้น แต่ที่วันนี้อนุมัติได้ เพราะมีหลักฐานการสั่งจ้าง
นายโชคศิริ รอดบุญพา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัดหรือทีพีซี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติให้ ดำเนินการจัดตั้ง คณะกรรมการรวม 3 ชุด เพื่อมาดำเนินการตรวจสอบปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างสื่อโฆษณา ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการชุดตรวจสอบผลงานว่าถูกต้องหรือไม่ ในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง 2.คณะกรรมการชุดตรวจสอบการรับงาน และ 3. คณะกรรมการชุดสอบวินัยภายในบริษัท
ทั้งนี้การทำงานของคณะกรรมการทั้ง 3 ชุด จะทำเพื่อขยายความต่อจากคณะกรรมการชุดตรวจสอบ ซึ่งมี นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยชุดที่ 1 และ3 สามารถดำเนินการจัดตั้งได้ทันที ดังนั้นขั้นตอนที่จะทำคือ ขอคำปรึกษาจากคณะที่ปรึกษาก่อนการจัดตั้ง ส่วนผู้ที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการจะคัดเลือกมาจากบุคคลภายนอก ส่วนคณะกรรมการชุดที่ 2 ต้องรอผลจากคณะกรรมการชุดแรกก่อน
ทั้งนี้ปัญหาการจัดจ้างที่เกิดขึ้น จะมีผู้เกี่ยวข้องอยู่ 3 ฝ่าย คือ มีเดีย ,โบรกเกอร์มีเดีย และ บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ซึ่งโบรกเกอร์มีเดียในที่นี้คือ บริษัท ไทย เรพพรีเซนเทชั่น จำกัด ที่เป็นผู้จัดซื้อสื่อรวม 4 แห่ง เป็นจำนวนเงิน 147 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. บริษัท CNN จำนวนเงิน 49.08 ล้านบาท 2. ไทม์ แมกกาซีน 68.85 ล้านบาท 3.นิตยสาร ฟอร์จูน 25.93 ล้านบาท และ 4. นิยตสารเพรสซิเด้นท์ 3.4 ล้านบาท ซึ่งการทวงหนี้ที่เกิดขึ้นเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาของ CNN นั้นเป็นการสั่งซื้อโดยบริษัท ไทยเรพพรีเซนเทชั่น แต่กลับไม่มีผู้สั่งการจาก บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ตรงนี้จึงต้องมีการตรวจสอบ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงของใบคำสั่งให้ได้ ก่อนจะตัดสินว่าต้องจ่ายเงินใครในจำนวนเท่าใด โดยประเมินตามผลงานที่เกิดขึ้น
นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานคณะกรรมการ บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เปิดเผยว่า การทำงานของคณะกรรมการชุดตรวจสอบ ยังหาหลักฐานได้ไม่เพียงพอ มีเพียงใบสั่งทำอาร์ตเวิร์ค จากบางบริษัทจาก นิตยสาร TIME ดังนั้นสิ่งที่เราต้องสืบถามต่อไปคือ ได้มีการอนุมัติให้ไปลงโฆษณาใน CNN ด้วยหรือไม่ เพราะการทำงานทุกอย่างต้องมีคำสั่ง จึงต้องตั้งคณะกรรมการ ขึ้นอีก 3 ชุดดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบ และประเมินผลงาน
ขณะเดียวกันจะทำเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ส่งอัยการ มาช่วยพิจารณาตรวจสอบและตีความในข้อกฎหมายเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง และการจัดการงานนอกสั่ง ว่าการเซ็นอนุมัติในแต่ละครั้งเข้าข่ายข้อบังคับในข้อใด เพราะในช่วง 6 เดือนแรกของการตั้ง ทีพีซี จะยังไม่สามารถใช้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างได้ โดยทั้งหมดจะดำเนินการไปพร้อมๆกัน ซึ่งตามอำนาจของผู้บริหาร ทีพีซี สามารถอนุมัติจ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกินวงเงิน 50 ล้านบาท ในเหตุผลที่สมควร
"ณ วันนี้ ผลของการออกสื่อโฆษณา CNN มีผลตอบรับที่ดี โดยมีผู้สนใจสอบถามมายัง CNN มากกว่า 1,000 ราย ถือว่าเป็นผลประโยชน์ของ ทีพีซี ดังนั้นเราจะต้องมีการจ่ายค่าโฆษณาแน่นอน แต่ในขั้นตอนการดำเนินการ ต้องมีหลักฐานว่ามีผู้สั่งให้ดำเนินการก่อน จากนั้นจะนำผลงานมาประเมิน ว่าจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเท่าใด และยืนยันว่า ทีพีซีไม่มีความคิดที่จะเบี้ยวค่าโฆษณา"
จากการสอบถามของคณะกรรมการฯล่าสุดก็ยังไม่มีผู้ใดออกมายอมรับว่าเป็นผู้สั่งอนุมัติ ซึ่งหน้าที่ของคณะกรรมการ 3 ชุดที่ตั้งขึ้นใหม่ จะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงของผู้มีอำนาจสั่งการขณะนั้น โดยจะสอบถามไปยัง นายไพสิฐ แก่นจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีต ประธานคณะกรรมการ และผู้จัดการฝ่ายการตลาด ณ ขณะนั้น การตรวจสอบทั้งหมดคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือน ก็จะรู้ผลและจ่ายเงินได้
อย่างไรก็ตามในวันนี้ คณะกรรมการฯได้สั่งจ่ายเงิน ค่าที่ปรึกษา ค่าทนายความ และอื่นๆ รวม 18 บริษัท เป็นวงเงินรวม 20 ล้านบาท เพราะตั้งแต่เกิดการทวงหนี้ของ CNN ทีพีซี ก็ยังไม่ได้จ่ายเงินให้กับบริษัทใดๆทั้งสิ้น แต่ที่วันนี้อนุมัติได้ เพราะมีหลักฐานการสั่งจ้าง