ศูนย์ข่าวขอนแก่น-"โกลบอลเฮ้าส์" แวร์เฮาส์ค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ภาคอีสาน โชว์ผลประกอบการ 3 สาขาประสบผลสำเร็จเกินคาด ยอดขายเพิ่มกว่า 35%กลางปี 2548 รุกเปิดที่ เชียงใหม่ โดยวางรูปแบบและพื้นที่ขายเหมือนสาขาหลัก ที่จ.ขอนแก่นและร้อยเอ็ด ขณะที่แผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดไม่เกินปี 48
นายวิทูร สุริยวนากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ (ขอนแก่น) จำกัด แวร์เฮาส์ค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ในภาคอีสาน เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ในช่วงปี 46 และปี 47 ผลการดำเนินงานของบริษัท ประสบผลสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยยอดขายรวมทั้ง 3 สาขาคือ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และอุดรธานี ขยายตัวไม่น้อยกว่า 35%
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของโกลบอลเฮ้าส์ มียอดขายที่เติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด นับตั้งแต่เปิดสาขาแรกที่จังหวัดร้อยเอ็ดเมื่อปลายปี 2540 และสาขาสองที่ขอนแก่นเมื่อปี 2545 ยอดขายทั้งสองสาขาขยายตัวโดยเฉลี่ยประมาณปีละ 20-30% มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดปี 2547 การรุกเข้าไปเปิดสาขาแห่งที่ 3 ที่จังหวัดอุดรธานี ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในพื้นที่ดีมาก โดย บริษัทตั้งเป้าหมายการดำเนินงานปีแรกไว้ที่ 500 ล้านบาท คาดว่าน่าจะได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
นายวิทูร กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัท ประสบผลสำเร็จทั้ง 3 สาขา ปัจจัยหลัก คือภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ที่กำลังฟื้นตัว เกิดการบริโภคสูงขึ้น โดยเฉพาะภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด เกิดความต้องการบ้านพักอาศัยในระดับสูงมาก ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องขยายตัวตามไปด้วย
ขณะเดียวกันแวร์เฮาส์ค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ของโกลบอลเฮ้าส์ ที่สร้างความแตกต่างจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างท้องถิ่น พบว่า ลูกค้าตอบรับมาก เพราะการจัดร้านแบบสมัยใหม่ (Modern trade) สามารถเดินเลือกซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างด้วยตนเอง สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง เป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันยอดขายทุกสาขาให้เติบโตอย่างรวดเร็ว
"ปี 2547 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายสาขาร้อยเอ็ดไว้ที่ 600 ล้านบาท สาขาขอนแก่น 800 ล้านบาท และสาขาใหม่ที่จังหวัดอุดรธานีไว้ที่ 500 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่า ผลการดำเนินงานทุกสาขาจะเกินเป้หมายที่กำหนดไว้"
ปี 48เปิดเพิ่มที่เชียงใหม่ -เข้าตลาดหลักทรัพย์ ฯ
กรรมการผู้จัดการสยามโกลบอลเฮ้าส์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนงาน ปี 2548 บริษัทมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่งคือที่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่น่าสนใจ มีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและความต้องการที่อยู่อาศัยสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างอาคาร คาดว่าไม่เกินกลางปี 2548 จะสามารถเปิดให้บริการได้ โดยรูปแบบการวางสินค้าจะไม่ต่างจากสาขาเดิม
ส่วนแผนการนำบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นายวิทูร กล่าว เป็นแผนงานที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ เพราะเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ของบริษัท ว่าจะได้รับการยอมรับจากนักลงทุนในวงกว้าง ขณะเดียวกันการสร้างผลกำไรของบริษัท ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมการมาล่วงหน้าหลายปี โดยว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เข้ามาปรับปรุงระบบบัญชี และการปรับโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทในเครือ ให้เข้าสู่มาตรฐานการจัดการที่โปร่งใส และมีความเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น ขณะนี้ผลการปรับโครงสร้างทั้งสองด้านได้คืบหน้ามากแล้ว เหลือเพียงในรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น คาดว่าภายในปี 2548 จะสามารถนำบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้