กกต.ผิดพลาดซ้ำซากไม่แจ้งเพิกถอนสิทธิผู้สมัคร ส.อบจ.เวียงป่าเป้า จนได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามารอบใหม่เพิ่งรู้ตัว ต้องสั่งให้เลือกใหม่อีกรอบ อ้างความผิดระดับเจ้าหน้าที่ แก้เกี้ยวสั่งตั้งกรรมการสอบหาแพะ ส่วนการเลือกตั้ง ส.ว.นครศรีธรรมราช หาก 3 วันไม่มีเรื่องร้องเรียน ประกาศรับรองผลทันที
ขณะที่สมาชิกวุฒิสภากำลังดำเนินการล่าชื่อถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากเห็นว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็ปรากฎว่า เกิดความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.อีก โดยพล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการกกต.ได้ยอมรับความผิดพลาดในการสั่งเลือกตั้งใหม่สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เขต 1 อ.เมืองเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยระบุว่า จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมาปรากฏว่า นายสมเพชร วงศา ผู้สมัคร หมายเลข 3 ที่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนั้น นายสมเพชรได้ร้องเรียนว่า นายปิยะวาจา ขาใจ ผู้สมัครหมายเลข 4 กระทำการ แจกสิ่งของ ซึ่งกกต.มีมติ เมื่อวันที่ 24พ.ค.ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายปิยะวาจา
ขณะเดียวกัน นายปิยะวาจาก็ร้องเรียนว่า นายสมเพชร บริจาคเงินช่วยงานศพ จัดประชุมกรรมการหมู่บ้าน มอบเงินและสิ่งของ กกต.จึงมีมติเพิกถอนสิทธินายสมเพชร ในวันเดียวกัน และได้แจ้งไปยัง กกต.ประจำท้องถิ่นฯให้จัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 29 ส.ค.โดยไม่ต้องรับสมัครใหม่
เมื่อเลือกตั้งใหม่ปรากฏว่า นายปิยะวาจา กลับได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า มีความผิดพลาดในการแจ้งการเพิกถอนสิทธิเกิดขึ้น คือ แจ้งมติการเพิกถอนสิทธิ นายสมเพชรไปยังกกต.ประจำท้องถิ่นฯ เพียงคนเดียว แต่ไม่ได้แจ้งมติ เพิกถอนสิทธินายปิยะวาจาไปด้วย ทำให้ผอ.กกต.ท้องถิ่นมิได้ตัดสิทธิการสมัครของนายปิยะวาจา กกต.จึงได้มีการประชุมลับ และมีมติยืนยันการเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายปิยะวาจา และให้ยกเลิกการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 29 ส.ค พร้อมกับให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนความผิดพลาดเพื่อหาผู้รับผิดชอบโดยให้รายงานต่อกกต.ทราบภายใน 30 วัน ส่วนการเลือกตั้งใหม่ให้มีการจัดในวันที่ 9 ต.ค.47
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ ใครจะต้องรับผิดชอบ พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ในขั้นแรกก็คงต้องให้ทางท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ไปก่อน และหลังจากที่ได้ตัวผู้รับผิดชอบก็อาจจะฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายได้ และบุคคลนั้นก็คงต้องได้รับโทษทางวินัย แต่คงไม่ถึงขั้นไล่ออก เนื่องจากความผิดที่เกิดไม่ได้มาจากเจตนาแต่เกิดความบกพร่อง โดยยอมรับว่หากนายปิยะวาจา ไม่พอใจ รู้สึกว่าได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติของกกต.ก็สามารถฟ้องร้องได้
เมื่อถามต่อว่า ที่เกิดปัญหานี้เพราะกกต.ไม่ได้ทำคำวินิจฉัยทันที่ และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ใช่หรือไม่ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า “สำนวนมันเยอะ เจ้าหน้าที่เขียนสำนวนกันไม่ทัน และหากเจ้าหน้าที่ไม่เอะใจมันก็ไม่มีทางเช็คได้” เมื่อถามต่อว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็มีความเป็นไปได้ว่า ก่อนหน้านี้อาจจะมีกรณีเดียวกันเกิดขึ้นใช่หรือไม่ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า โอกาสเป็นไปได้น้อย เพราะน้อยมากที่ผู้สมัครจะร้องกันทั้งสองคน และได้รับใบแดงทั้งคู่
ด้าน นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต.ฝ่ายบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ว.นครศรีธรรมราช ซึ่งผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการนั้น นายสวัสดิ์ กฤตรัชตนันต์ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนนสูงสุดคือ 299,960 คะแนน หากไม่มีการร้องเรียนภายใน 3 วัน กกต.ก็จะพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง และขณะนี้ก็ยังไม่มีเรื่องร้องเรียกการทุจริตเข้ามาเลย
ทั้งนี้ในการเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิ 568,742 คน คิดเป็น 52.58 เปอร์เซ็นต์ มีบัตรเสียทั้งสิ้น 7,552 ใบ ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนเสียง 18,913 คน
ขณะที่สมาชิกวุฒิสภากำลังดำเนินการล่าชื่อถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากเห็นว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็ปรากฎว่า เกิดความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.อีก โดยพล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการกกต.ได้ยอมรับความผิดพลาดในการสั่งเลือกตั้งใหม่สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เขต 1 อ.เมืองเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยระบุว่า จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมาปรากฏว่า นายสมเพชร วงศา ผู้สมัคร หมายเลข 3 ที่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนั้น นายสมเพชรได้ร้องเรียนว่า นายปิยะวาจา ขาใจ ผู้สมัครหมายเลข 4 กระทำการ แจกสิ่งของ ซึ่งกกต.มีมติ เมื่อวันที่ 24พ.ค.ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายปิยะวาจา
ขณะเดียวกัน นายปิยะวาจาก็ร้องเรียนว่า นายสมเพชร บริจาคเงินช่วยงานศพ จัดประชุมกรรมการหมู่บ้าน มอบเงินและสิ่งของ กกต.จึงมีมติเพิกถอนสิทธินายสมเพชร ในวันเดียวกัน และได้แจ้งไปยัง กกต.ประจำท้องถิ่นฯให้จัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 29 ส.ค.โดยไม่ต้องรับสมัครใหม่
เมื่อเลือกตั้งใหม่ปรากฏว่า นายปิยะวาจา กลับได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า มีความผิดพลาดในการแจ้งการเพิกถอนสิทธิเกิดขึ้น คือ แจ้งมติการเพิกถอนสิทธิ นายสมเพชรไปยังกกต.ประจำท้องถิ่นฯ เพียงคนเดียว แต่ไม่ได้แจ้งมติ เพิกถอนสิทธินายปิยะวาจาไปด้วย ทำให้ผอ.กกต.ท้องถิ่นมิได้ตัดสิทธิการสมัครของนายปิยะวาจา กกต.จึงได้มีการประชุมลับ และมีมติยืนยันการเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายปิยะวาจา และให้ยกเลิกการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 29 ส.ค พร้อมกับให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนความผิดพลาดเพื่อหาผู้รับผิดชอบโดยให้รายงานต่อกกต.ทราบภายใน 30 วัน ส่วนการเลือกตั้งใหม่ให้มีการจัดในวันที่ 9 ต.ค.47
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ ใครจะต้องรับผิดชอบ พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ในขั้นแรกก็คงต้องให้ทางท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ไปก่อน และหลังจากที่ได้ตัวผู้รับผิดชอบก็อาจจะฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายได้ และบุคคลนั้นก็คงต้องได้รับโทษทางวินัย แต่คงไม่ถึงขั้นไล่ออก เนื่องจากความผิดที่เกิดไม่ได้มาจากเจตนาแต่เกิดความบกพร่อง โดยยอมรับว่หากนายปิยะวาจา ไม่พอใจ รู้สึกว่าได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติของกกต.ก็สามารถฟ้องร้องได้
เมื่อถามต่อว่า ที่เกิดปัญหานี้เพราะกกต.ไม่ได้ทำคำวินิจฉัยทันที่ และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ใช่หรือไม่ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า “สำนวนมันเยอะ เจ้าหน้าที่เขียนสำนวนกันไม่ทัน และหากเจ้าหน้าที่ไม่เอะใจมันก็ไม่มีทางเช็คได้” เมื่อถามต่อว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็มีความเป็นไปได้ว่า ก่อนหน้านี้อาจจะมีกรณีเดียวกันเกิดขึ้นใช่หรือไม่ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า โอกาสเป็นไปได้น้อย เพราะน้อยมากที่ผู้สมัครจะร้องกันทั้งสองคน และได้รับใบแดงทั้งคู่
ด้าน นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต.ฝ่ายบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ว.นครศรีธรรมราช ซึ่งผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการนั้น นายสวัสดิ์ กฤตรัชตนันต์ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนนสูงสุดคือ 299,960 คะแนน หากไม่มีการร้องเรียนภายใน 3 วัน กกต.ก็จะพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง และขณะนี้ก็ยังไม่มีเรื่องร้องเรียกการทุจริตเข้ามาเลย
ทั้งนี้ในการเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิ 568,742 คน คิดเป็น 52.58 เปอร์เซ็นต์ มีบัตรเสียทั้งสิ้น 7,552 ใบ ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนเสียง 18,913 คน