กล่าวกันว่าธุรกิจภาพยนตร์ที่ทำกำไรมากที่สุดไม่ใช่ภาพยนตร์ดังๆ ของฮอลลีวูดหรอกครับ เพราะภาพยนตร์เหล่านั้นลงทุนมาก เปลืองค่าใช้จ่ายให้แก่ดาราดังๆ แถมเดาใจตลาดได้ยาก รายได้ทั่วโลกก็ขึ้นลงตามกลไกโปรโมชันซึ่งแพงระยับเหมือนกัน ภาพยนตร์บางเรื่องฟอร์มดี แต่ไม่ได้สตางค์ก็มาก
ตรงกันข้ามกับธุรกิจภาพยนตร์อีกประเภทหนึ่งที่ลงทุนต่ำใช้ตัวแสดงโนเนม แล้วยังใช้น้อยคน เทคนิคการถ่ายทำไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ภาพยนตร์ประเภทนี้ขายดิบขายดีและก็ขายได้ทั่วโลก กำไรงดงามเพราะต้นทุนต่ำมาก
ครับ... หนังเอกซ์หรือภาพยนตร์ลามกทำเงินเป็นแสนล้านต่อปี และไม่มีแนวโน้มว่าจะอับเฉา ตลาดทั่วโลกตอบรับอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตมีทั้งรูปโป๊สารพัดแบบ แต่หนังเอกซ์กลับเฟื่องฟูและก็ระบาดไปทั่วโลกจนกล่าวได้ว่าเกือบทุกชาติทุกภาษาล้วนมีหนังเอกซ์เป็นของตัวเองแล้ว ทั้งๆ ที่หนังเอกซ์เป็นหนังต้องห้ามในหลายประเทศ แต่ยอดขายหนังเอกซ์กลับพุ่งพรวดๆ และทำกำไรมากมายมหาศาลเฉพาะในอเมริกายอดขายก็นับแสนล้านบาทเข้าไปแล้ว
หนังเอกซ์ที่ถือได้ว่าเป็นตำนานแห่งยุคสมัย คงไม่มีเรื่องใดเกินหน้าหนังที่ชื่อว่า Deep Throat หรือในภาคภาษาไทยเรียกว่า "สุดคอหอย" เพราะหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นต้นตำราของยุคหนังเอกซ์ที่ดังระเบิดในอเมริกาเลยทีเดียว และก็เป็นหนังที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีขายไปทั่วโลก รวมทั้งบรรดาคอลามกชอบหนังพรรค์นี้ในเมืองไทยก็คงได้ดูมาแล้วโดยถ้วนหน้า
Deep Throat หรือสุดคอหอยนี้ออกมาฉายเมื่อปี 1972 หรือ 32 ปี มาแล้วครับ เวลานั้นฮือฮากันมากเพราะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในอเมริกาพยายามยับยั้งไม่ให้มีการฉายหนังเรื่องนี้ตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ ในประเทศ โดยอ้างว่าผิดกฎหมายเพราะเข้าข่ายเป็นภาพยนตร์สุดลามกอนาจาร
ครับ แต่หนังเรื่องนี้ก็ถูกนำมาฉายลงโรงจนได้และก็เป็นหนังลามกที่เป็นหนังเรื่องแรกที่มีผู้ดูอย่างล้นหลามทั่วอเมริกาเลยทีเดียว
บรรดาผู้ร่วมดูหนังลามกจกเปรตก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันเพราะล้วนเป็นคนดังๆ ทั้งนั้น ดาราดังอย่าง วอร์เรน เบตตี้, แจ็ค นิโคลสัน และ แจ็คลีน เคเนดี้ โอเนซิส ล้วนแห่กันไปดูหนังลามกอื้อฉาวเรื่องนี้กันถ้วนหน้า
เรื่อง Deep Throat นี้ ลงทุนแค่ 25,000 เหรียญเท่านั้นเองครับ และก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดลำดับที่ 11 ของอเมริกาในปี 1973 หลังจากนั้นก็ยังมีการทำเป็นวิดีโอเทป วีซีดี และดีวีดี ออกมาขายและมีการให้เช่าไปดูซึ่งทำให้มีรายได้รวมถึง 3 หมื่นกว่าล้านบาทเพิ่มขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังที่ทำกำไรมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการผลิตภาพยนตร์คิดจากต้นทุนเลยทีเดียวครับ
และความสำเร็จของ Deep Throat เป็นข้อพิสูจน์ถึงกระแสนิยมเกี่ยวกับรสนิยมด้านเพศสัมพันธ์ของคนอเมริกันที่สามารถถูกแปรมาสู่การค้าเพื่อสร้างกำไรเชิงพาณิชย์อย่างเป็นกอบเป็นกำได้เป็นครั้งแรกถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติทางด้านเพศสัมพันธ์
ก่อนหน้าที่ภาพยนตร์หรือ Deep Throat จะติดตลาดนั้น หนังประเภทนี้ส่วนใหญ่จะยังเป็นฟิล์มม้วนมีความยาวแค่สิบนาที ฉายตามบ้านหรือตามสถานที่ปกปิด แต่หนังเรื่อง สุดคอหอย มีความยาวร่วมชั่วโมง และมีลักษณะประชดประชัน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่ค้นพบว่าตัวเองมีจุดเสียวอยู่บริเวณสุดคอยหอย ดังนั้น เธอจึงต้องการมีเซ็กซ์แบบพิสดาร
นักจิตวิทยาด้านเพศศึกษารายหนึ่งซึ่งศึกษาเรื่องเพศเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ บอกว่าคนที่ไปดูหนังที่ไปเป็นคู่ๆ ต้องการเปิดเผยตัวตน คือต้องการให้คนอื่นๆ เห็นว่าพวกเขาควงคู่กันเข้าไปดูหนังและเดินออกมาจากโรงหนังอย่างเปิดเผยซึ่งเป็นปรากฏการณ์เชิงปฏิวัติด้านเพศสัมพันธ์แห่งทศวรรษในปี 1970
ผู้อำนวยการสร้าง DeepThroat คือ เจอราร์ด ดาเมียโน ใช้ทีมงานร่วมสร้าง 60 คน รวมดาราและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และในการสร้างหนังเรื่องนี้ก็มีปัญหามากเพราะหาสถานที่จะใช้ในการถ่ายทำได้ยากมาก ดังนั้นต้องมาลงเอยโดยกลับมาใช้ที่ถ่ายทำในโมเตลที่พักพิงอยู่ที่ไมอามี ดารานำฝ่ายชายที่ชื่อ แฮรี่ รีมส์ ซึ่งได้ค่าจ้างแค่ 250 เหรียญได้รับบทนี้ก็เพราะดาราที่ควรมาเล่นบทนำนั้นไม่มาตามคิว โดยเบี้ยวเสียดื้อๆ
ดาราฝ่ายหญิงนั้นกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงอีกหลายปี เธอคือลินดา เลิฟเลซ ต่อมาเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปในปี 2002
ตัวผู้อำนวยการสร้างดาเมียโน ต่อมาเลิกอาชีพกลายไปเป็นแคดดี้กอล์ฟ เมื่อธุรกิจภาพยนตร์ลามกได้กลายไปเป็นธุรกิจทำเงินมหาศาล และกลายเป็นกระแสวัฒนธรรมหลักอย่างหนึ่งในสังคม
เวลานี้มีคนกำลังศึกษาผลกระทบของหนัง Deep Throat ในฐานะเป็นตำนานหนังเอกซ์ โดยไบรอัน เกรเซอร์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการระดับตุ๊กตาทอง เห็นว่าหนังเรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งทางสังคมต่อธุรกิจลามกซึ่งปัจจุบันทำกำไรมหาศาลและกลายเป็นวัฒนธรรมกระแสมหาชนนิยมกำลังสร้างสารคดีเรื่อง Inside Deep Throat โดยร่วมเมื่อกับ HBO ที่คาดว่าจะนำออกฉายได้ในปีหน้านี้แหละครับ
สารคดีที่ว่านี้จะสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องที่ยังมีชีวิตอยู่จำนวนมาก รวมทั้งนักวิชาการ นักวิจัยด้านเพศอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลายคนแม้แต่นักต่อสู้เรื่องสิทธิทางด้านเพศสตรีบางคนอย่างอิริกา จอง รู้สึกไม่เห็นด้วยและต่อต้านความคิดที่ว่าผู้หญิงมีปุ่มเสียวอยู่ในคอหอยก็ตาม
ในหนังสารคดียังมีภาพที่ทางการใช้ความพยายามสั่งปิดโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังเรื่องนี้และเข้ายึดหนัง รวมทั้งสั่งฟ้องคนที่เกี่ยวข้องด้วย
ตำนานเรื่อง Deep Throat ยังมีอิทธิพลไปถึงการเมืองโดย คาร์ล เบิร์นสไตน์ และบ็อบ วู้ดเวิร์ด ผู้สื่อข่าววอชิงตันโพสต์ขณะที่เปิดโปงคดีวอร์เตอร์เกต ได้อ้างแหล่งข่าวลับของเขาว่าชื่อ "สุดคอหอย" ไงละครับ .... ถ้าจำกันได้
ตรงกันข้ามกับธุรกิจภาพยนตร์อีกประเภทหนึ่งที่ลงทุนต่ำใช้ตัวแสดงโนเนม แล้วยังใช้น้อยคน เทคนิคการถ่ายทำไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ภาพยนตร์ประเภทนี้ขายดิบขายดีและก็ขายได้ทั่วโลก กำไรงดงามเพราะต้นทุนต่ำมาก
ครับ... หนังเอกซ์หรือภาพยนตร์ลามกทำเงินเป็นแสนล้านต่อปี และไม่มีแนวโน้มว่าจะอับเฉา ตลาดทั่วโลกตอบรับอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตมีทั้งรูปโป๊สารพัดแบบ แต่หนังเอกซ์กลับเฟื่องฟูและก็ระบาดไปทั่วโลกจนกล่าวได้ว่าเกือบทุกชาติทุกภาษาล้วนมีหนังเอกซ์เป็นของตัวเองแล้ว ทั้งๆ ที่หนังเอกซ์เป็นหนังต้องห้ามในหลายประเทศ แต่ยอดขายหนังเอกซ์กลับพุ่งพรวดๆ และทำกำไรมากมายมหาศาลเฉพาะในอเมริกายอดขายก็นับแสนล้านบาทเข้าไปแล้ว
หนังเอกซ์ที่ถือได้ว่าเป็นตำนานแห่งยุคสมัย คงไม่มีเรื่องใดเกินหน้าหนังที่ชื่อว่า Deep Throat หรือในภาคภาษาไทยเรียกว่า "สุดคอหอย" เพราะหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นต้นตำราของยุคหนังเอกซ์ที่ดังระเบิดในอเมริกาเลยทีเดียว และก็เป็นหนังที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีขายไปทั่วโลก รวมทั้งบรรดาคอลามกชอบหนังพรรค์นี้ในเมืองไทยก็คงได้ดูมาแล้วโดยถ้วนหน้า
Deep Throat หรือสุดคอหอยนี้ออกมาฉายเมื่อปี 1972 หรือ 32 ปี มาแล้วครับ เวลานั้นฮือฮากันมากเพราะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในอเมริกาพยายามยับยั้งไม่ให้มีการฉายหนังเรื่องนี้ตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ ในประเทศ โดยอ้างว่าผิดกฎหมายเพราะเข้าข่ายเป็นภาพยนตร์สุดลามกอนาจาร
ครับ แต่หนังเรื่องนี้ก็ถูกนำมาฉายลงโรงจนได้และก็เป็นหนังลามกที่เป็นหนังเรื่องแรกที่มีผู้ดูอย่างล้นหลามทั่วอเมริกาเลยทีเดียว
บรรดาผู้ร่วมดูหนังลามกจกเปรตก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันเพราะล้วนเป็นคนดังๆ ทั้งนั้น ดาราดังอย่าง วอร์เรน เบตตี้, แจ็ค นิโคลสัน และ แจ็คลีน เคเนดี้ โอเนซิส ล้วนแห่กันไปดูหนังลามกอื้อฉาวเรื่องนี้กันถ้วนหน้า
เรื่อง Deep Throat นี้ ลงทุนแค่ 25,000 เหรียญเท่านั้นเองครับ และก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดลำดับที่ 11 ของอเมริกาในปี 1973 หลังจากนั้นก็ยังมีการทำเป็นวิดีโอเทป วีซีดี และดีวีดี ออกมาขายและมีการให้เช่าไปดูซึ่งทำให้มีรายได้รวมถึง 3 หมื่นกว่าล้านบาทเพิ่มขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังที่ทำกำไรมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการผลิตภาพยนตร์คิดจากต้นทุนเลยทีเดียวครับ
และความสำเร็จของ Deep Throat เป็นข้อพิสูจน์ถึงกระแสนิยมเกี่ยวกับรสนิยมด้านเพศสัมพันธ์ของคนอเมริกันที่สามารถถูกแปรมาสู่การค้าเพื่อสร้างกำไรเชิงพาณิชย์อย่างเป็นกอบเป็นกำได้เป็นครั้งแรกถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติทางด้านเพศสัมพันธ์
ก่อนหน้าที่ภาพยนตร์หรือ Deep Throat จะติดตลาดนั้น หนังประเภทนี้ส่วนใหญ่จะยังเป็นฟิล์มม้วนมีความยาวแค่สิบนาที ฉายตามบ้านหรือตามสถานที่ปกปิด แต่หนังเรื่อง สุดคอหอย มีความยาวร่วมชั่วโมง และมีลักษณะประชดประชัน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่ค้นพบว่าตัวเองมีจุดเสียวอยู่บริเวณสุดคอยหอย ดังนั้น เธอจึงต้องการมีเซ็กซ์แบบพิสดาร
นักจิตวิทยาด้านเพศศึกษารายหนึ่งซึ่งศึกษาเรื่องเพศเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ บอกว่าคนที่ไปดูหนังที่ไปเป็นคู่ๆ ต้องการเปิดเผยตัวตน คือต้องการให้คนอื่นๆ เห็นว่าพวกเขาควงคู่กันเข้าไปดูหนังและเดินออกมาจากโรงหนังอย่างเปิดเผยซึ่งเป็นปรากฏการณ์เชิงปฏิวัติด้านเพศสัมพันธ์แห่งทศวรรษในปี 1970
ผู้อำนวยการสร้าง DeepThroat คือ เจอราร์ด ดาเมียโน ใช้ทีมงานร่วมสร้าง 60 คน รวมดาราและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และในการสร้างหนังเรื่องนี้ก็มีปัญหามากเพราะหาสถานที่จะใช้ในการถ่ายทำได้ยากมาก ดังนั้นต้องมาลงเอยโดยกลับมาใช้ที่ถ่ายทำในโมเตลที่พักพิงอยู่ที่ไมอามี ดารานำฝ่ายชายที่ชื่อ แฮรี่ รีมส์ ซึ่งได้ค่าจ้างแค่ 250 เหรียญได้รับบทนี้ก็เพราะดาราที่ควรมาเล่นบทนำนั้นไม่มาตามคิว โดยเบี้ยวเสียดื้อๆ
ดาราฝ่ายหญิงนั้นกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงอีกหลายปี เธอคือลินดา เลิฟเลซ ต่อมาเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปในปี 2002
ตัวผู้อำนวยการสร้างดาเมียโน ต่อมาเลิกอาชีพกลายไปเป็นแคดดี้กอล์ฟ เมื่อธุรกิจภาพยนตร์ลามกได้กลายไปเป็นธุรกิจทำเงินมหาศาล และกลายเป็นกระแสวัฒนธรรมหลักอย่างหนึ่งในสังคม
เวลานี้มีคนกำลังศึกษาผลกระทบของหนัง Deep Throat ในฐานะเป็นตำนานหนังเอกซ์ โดยไบรอัน เกรเซอร์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการระดับตุ๊กตาทอง เห็นว่าหนังเรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งทางสังคมต่อธุรกิจลามกซึ่งปัจจุบันทำกำไรมหาศาลและกลายเป็นวัฒนธรรมกระแสมหาชนนิยมกำลังสร้างสารคดีเรื่อง Inside Deep Throat โดยร่วมเมื่อกับ HBO ที่คาดว่าจะนำออกฉายได้ในปีหน้านี้แหละครับ
สารคดีที่ว่านี้จะสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องที่ยังมีชีวิตอยู่จำนวนมาก รวมทั้งนักวิชาการ นักวิจัยด้านเพศอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลายคนแม้แต่นักต่อสู้เรื่องสิทธิทางด้านเพศสตรีบางคนอย่างอิริกา จอง รู้สึกไม่เห็นด้วยและต่อต้านความคิดที่ว่าผู้หญิงมีปุ่มเสียวอยู่ในคอหอยก็ตาม
ในหนังสารคดียังมีภาพที่ทางการใช้ความพยายามสั่งปิดโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังเรื่องนี้และเข้ายึดหนัง รวมทั้งสั่งฟ้องคนที่เกี่ยวข้องด้วย
ตำนานเรื่อง Deep Throat ยังมีอิทธิพลไปถึงการเมืองโดย คาร์ล เบิร์นสไตน์ และบ็อบ วู้ดเวิร์ด ผู้สื่อข่าววอชิงตันโพสต์ขณะที่เปิดโปงคดีวอร์เตอร์เกต ได้อ้างแหล่งข่าวลับของเขาว่าชื่อ "สุดคอหอย" ไงละครับ .... ถ้าจำกันได้