ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ภูเก็ตตั้งความหวังหาผู้ลงทุนในโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตให้ได้ในปี 2550 หลังผ่านการเห็นชอบจากครม. ขณะนี้ที่เอกชนมอง โครงการใหญ่ต้องใช้เวลาในการผลักดัน รัฐน่าส่งเสริมโครงการที่เอกชนพร้อมลงทุนมากกว่า
วานนี้ (15 ก.ย.) จังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอ ขั้นตอนการดำเนินการผลักดันการพัฒนาอ่าวภูเก็ต รับฟังความคิดเห็น จากคณะกรรมการบริหารราชการแบบบูรณาการ หรือซีอีโอจังหวัดภูเก็ต โดยกำหนดระยะเวลาการดำเนินการ จนสามารถหาเอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปี 2548-2550
ทั้งนี้ ในปี 2548 ได้กำหนดแผนงาน ให้หน่วยงานของเจ้าของโครงการ จัดทำโครงการเสนอกระทรวงเจ้าสังกัด ซึ่งในส่วนนี้ จังหวัดภูเก็ตจะต้องเสนอโครงการไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยเสนอขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการ กับว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาให้คำปรึกษาโครงการและวิเคราะห์โครงการ และจัดทำประชาพิจารณ์ สอบถามความเห็นประชาชนในภูเก็ต รวมทั้งประกาศเชิญชวนนักลงทุน ที่สนใจเข้ามาลงทุน และตามแผนงานที่วางไว้ ภายปี 2550 เอกชนที่ได้รับการคัดเลือกจะสามารถเข้ามาดำเนินการได้
นายปมุข อัจฉริยะฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การลงทุนในโครงการดังกล่าวเป็นโครงการใหญ่ ที่ต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูงถึง 75,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปได้ค่อนข้างยาก โดยรัฐบาลน่าที่จะเข้าไปสนับสนุน โครงการที่เอกชนสนใจจะเข้ามาลงทุนจริงๆ เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเป็นดิวตี้ฟรีโซน ที่ประกอบด้วย โรงแรม ศูนย์การค้า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ฯลฯ แทนที่จะมาสนับสนุนโครงการที่เป็นไปได้ยากในระยะอันใกล้นี้
ขณะที่นายพัฒนพงษ์ เอกวานิช นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ใหญ่มาก เกรงว่าประชาชนในภูเก็ตจะไม่เข้าใจและคัดค้านโครงการ ซึ่งกรณีของศูนย์ประชุม ที่จะสร้างที่สะพานหิน แต่ได้รับการคัดค้านจากประชาชนเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว ซึ่งคิดว่า หากรัฐบาลต้องการที่จะผลักดันโครงการนี้ให้เกิดจริง จะต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบตั้งแต่ตอนนี้
วานนี้ (15 ก.ย.) จังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอ ขั้นตอนการดำเนินการผลักดันการพัฒนาอ่าวภูเก็ต รับฟังความคิดเห็น จากคณะกรรมการบริหารราชการแบบบูรณาการ หรือซีอีโอจังหวัดภูเก็ต โดยกำหนดระยะเวลาการดำเนินการ จนสามารถหาเอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปี 2548-2550
ทั้งนี้ ในปี 2548 ได้กำหนดแผนงาน ให้หน่วยงานของเจ้าของโครงการ จัดทำโครงการเสนอกระทรวงเจ้าสังกัด ซึ่งในส่วนนี้ จังหวัดภูเก็ตจะต้องเสนอโครงการไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยเสนอขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการ กับว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาให้คำปรึกษาโครงการและวิเคราะห์โครงการ และจัดทำประชาพิจารณ์ สอบถามความเห็นประชาชนในภูเก็ต รวมทั้งประกาศเชิญชวนนักลงทุน ที่สนใจเข้ามาลงทุน และตามแผนงานที่วางไว้ ภายปี 2550 เอกชนที่ได้รับการคัดเลือกจะสามารถเข้ามาดำเนินการได้
นายปมุข อัจฉริยะฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การลงทุนในโครงการดังกล่าวเป็นโครงการใหญ่ ที่ต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูงถึง 75,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปได้ค่อนข้างยาก โดยรัฐบาลน่าที่จะเข้าไปสนับสนุน โครงการที่เอกชนสนใจจะเข้ามาลงทุนจริงๆ เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเป็นดิวตี้ฟรีโซน ที่ประกอบด้วย โรงแรม ศูนย์การค้า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ฯลฯ แทนที่จะมาสนับสนุนโครงการที่เป็นไปได้ยากในระยะอันใกล้นี้
ขณะที่นายพัฒนพงษ์ เอกวานิช นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ใหญ่มาก เกรงว่าประชาชนในภูเก็ตจะไม่เข้าใจและคัดค้านโครงการ ซึ่งกรณีของศูนย์ประชุม ที่จะสร้างที่สะพานหิน แต่ได้รับการคัดค้านจากประชาชนเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว ซึ่งคิดว่า หากรัฐบาลต้องการที่จะผลักดันโครงการนี้ให้เกิดจริง จะต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบตั้งแต่ตอนนี้