ตอนนี้ผมขอพาท่านผู้อ่านเข้ากล่องเวลา เดินทางย้อนอดีตไปสู่ยุคที่จักรพรรดิเหมาเป็นใหญ่ในแผ่นดินจีนระหว่างปี 1949-1976
เหมานี่แหละครับ ที่ด่านายกรัฐมนตรีของเราหลายคนว่า เป็นสุนัขรับใช้อเมริกา! มิใช่การด่าที่เจาะจง แต่ก็ด่ากราด ตรงเผงไปที่นายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี หลายๆประเทศที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามในสงครามเย็น ใครที่อยู่ข้างเดียวกับอเมริกาโดนหมด ไม่มียกเว้น
ถ้าเหมากลับชาติมาเกิด และได้เป็นใหญ่อีกในตอนนี้ คงจะไม่ต้องลำบากปากอีกแล้ว เพราะพวกฝรั่งพากันรุมยำผู้นำของตนเอง เป็นหมูเป็นหมาไปทั่วหน้า บุชเอย แบลร์เอย โฮเวิร์ดเอย
ผู้นำจีนในยุคปัจจุบันเปลี่ยนไป ต้องเกรงใจอเมริกาที่เหลือเป็นอภิมหาอำนาจอยู่หนึ่งเดียว กลับต้องเรียนยอวาที ไว้เอาใจตะวันตก เพื่อผลประโยชน์และอิทธิพลของจีน จีนต่อต้านสงครามอีรัก แต่ไม่ประณามอเมริกาด้วยภาษาของประธานเหมา
นี่แหละ คือ ความเป็นอนิจจังของสังคม!
ผมชักเขินๆ ที่เขียนคำว่าสุนัขรับใช้ เพราะมันติดคำว่าหมาๆเสียแล้ว แต่สุนัขรับใช้เป็นคำแปลจากสมุดเล็กเล่มแดงของประธานเหมา และเป็นคำที่ชินหูสมัยแอบฟังโฆษณาชวนเชื่อปักกิ่งและสถานีวิทยุเสียงประชาชนไทย (เชื้อสายจีน)เมื่อตอนหนุ่ม
คำนี้ นางเจียง จิง เมียของเหมาได้เติมรสให้เผ็ดยิ่งขึ้น ด้วยการปลุกระดมประชาชนจีนและพันธมิตรให้ต่อต้านสุนัขรับใช้ทุนนิยมเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สุนัขรับใช้ทุนนิยมได้แก่บุคคลที่ชอบใช้ของดีที่ผลิตจากประเทศนายทุน และมีรสนิยมฟุ่มเฟือยชอบใช้ของนอก และชื่นชมวัฒนธรรมตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นหนัง ดนตรีหรือวรรณคดีฯลฯ
สหาย เจียง จิง เป็นนางละครที่มีพรสวรรค์ พอประณามสุนัขรับใช้ทุนนิยมขาดคำ เธอก็เดินเข้าห้องลั่นกลอนประตู เปิดดนตรีฝรั่ง ฉายหนังฮอลลีวูดดู และเสพของตะวันตกกับบริวาร และคู่ขาไม่กี่คน อ้างว่าเป็นการศึกษาวิจัยให้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยม สันดาน และ แนวโน้มอันต่ำทรามของวัฒนธรรมตะวันตก
คำว่าสุนัขรับใช้ มาจากภาษาอังกฤษว่า running dogs เป็นผมจะแปลว่าหมาวิ่งตามตูดดีกว่า American running dogs, capitalist running dogs, imperialist running dogs หมาวิ่งตามตูดอเมริกัน หมาวิ่งตามตูดนายทุน หมาวิ่งตามตูดจักรวรรดินิยม ถ้าหากเรายังใช้นิยามของท่านประธาน การวิ่งตามตูดอเมริกันกลับจะเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่มีใครตั้งข้อสังเกตหรือประณามด้วยคำศัพท์เดิมๆให้สะเทือนใจกัน เพราะต่างฝ่ายก็มีวุฒิภาวะมากขึ้น ไม่มีใครปฏิเสธโลกาภิวัตน์ได้ และไม่มีใครจะปฏิเสธการรวมกลุ่มที่จะเอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน แม้ว่าลัทธิการเมืองจะแตกต่างกัน ต่างก็ตามตูดกันคนละเรื่องสองเรื่องแล้วแต่เหตุการณ์
หมาซึ่งเป็นคำผรุสวาทสากล ระดับนานาชาติ ก็เลยหายหรือ ลดน้อยลงกว่าเดิม กลับไปโผล่ที่ระดับท้องถิ่นหรือภายในแต่ละประเทศแทน
ในวันที่ 20 พฤษภาคม 1970 หรือพ.ศ. 2513 เหมาประกาศว่า ‘People of the World, Unite and Defeat the U.S. Aggressors and All Their Running Dogs!’
ประชาชนทั่วโลกจับมือกัน ร่วมมือกันพิชิตอเมริกันผู้รุกราน และเหล่าสุนัขรับใช้ของมัน”
เท่านั้นแหละโลกสั่นสะเทือนไปทั้งโลก ไม่แพ้คำประกาศคอมมิวนิสต์ของมาร์กซ์ ประชาชนและประชาชาติที่ถูกกดขี่ทั้งหลายพากันลุกขึ้นเคลื่อนไหวต่อสู้และปลดแอกจากอเมริกันและสุนัขรับใช้ อีก 5 ปีต่อมาอินโดจีนทั้งหมดก็ได้รับชัยชนะ เกิดผลในทางการเมืองโลกสุดที่จะบรรยาย แม้ต่อมาจักรวรรดิ์โซเวียตจะล่มสลาย แต่จีนก็ยังอยู่
ผมเองไม่ใช่แฟนเหมา เพราะผมเกลียดอำนาจนิยม แต่ผมก็อดห่วงมิได้ว่า capitalist running dogs หรือสุนัขรับใช้ทุนนิยมจะเกิดหิวกระหายออกล่าเหยื่อผู้อ่อนแอและโง่เง่าอีกทั่วโลก ด้วยวิทยายุทธ์และเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ล้ำยุค ยากที่หมาน้อยธรรมดาจะตามทัน
ท่านผู้อ่านที่เคารพ แล้วใครกันล่ะ “หมาหัวเน่า” มันเป็นหมาวิ่งตามตูดอเมริกัน หมาวิ่งตามตูดนายทุน หรือหมาวิ่งตามตูดจักรวรรดินิยมกันแน่ ไม่ใช่ซักอย่าง
ที่มันเป็นหมาหัวเน่าก็เพราะมันไม่ยอมวิ่งตามตูดนะซีครับ มันวิ่งออกหน้า ใครเรียกมันก็ไม่หันมามอง ดึงเชือกไว้มันก็ทะยานไปจนเชือกขาด มันไม่แคร์ใคร และไม่ยอมฟังใครทั้งนั้น คนอื่นเขาก็เลยไม่เอาด้วย ปล่อยให้เป็นหมาหัวเน่า
ประชาคมโลกมีกฎหมายระหว่างประเทศเป็นบรรทัดฐาน มีสหประชาชาติเป็นเครื่องมือระงับข้อพิพาท ประเทศประชาธิปไตยที่เป็นอารยะอย่างแท้จริง มีการแบ่งอำนาจอธิปไตยออกเป็นสาม และมีกลไกใน แยกอำนาจ การถ่วง และ ดุลอำนาจซึ่งกันและกัน แล้วแต่ว่าจะเป็นระบอบประธานาธิบดีหรือระบอบรัฐสภา หากใครบุคคลเดียวหรือสถาบันเดียวรวบอำนาจไปไว้ทั้งหมด และนำไปใช้โดยมิได้รับความยินยอม มองเตสกิเออบอกว่า สังคมหรือประเทศชาติจะต้องฉิบหาย
ภายนอกกลไกของรัฐ ยังมีประชาชน เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่สามารถมีสาธารณมติเป็นประจำ และประชามติเป็นครั้งคราว เสียงของประชาชนสามารถแสดงออกได้โดยตรงหรือผ่านตัวแทน มีทั้งในรูปแบบที่สงบเงียบและรุนแรงตามกติกา
การกระทำสงครามกับการใช้เงินภาษีอากรเป็นความรับผิดชอบอย่างยิ่งยวดของระบอบประชาธิปไตย
ในระบบประธานาธิบดีจะต้องได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรส ในระบบรัฐสภาจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้แทนราษฏร ในระบบประธานาธิบดีง่ายกว่า แต่ก็ต้องมีขั้นตอน ในระบบรัฐสภานายกรัฐมนตรีถือว่าเป็นบุคคลหมายเลขหนึ่งในบรรดาบุคคลที่เท่าเทียมกันคือผู้แทนราษฏรและครม.ที่มาจากผู้แทนราษฏรเท่านั้น จึงมีอำนาจน้อยกว่าประธานาธิบดี ประธานาธิบดีเมื่อได้รับอนุมัติแล้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อใคร แต่การกระทำทุกอย่างของนายกรัฐมนตรีจะต้องอยู่ภายใต้กฎของการรับผิดชอบร่วมกันของคณะรัฐมนตรี
การนำกองทหารไปรุกรานอิรักและการนำเงินของประเทศไปผลาญตามอำเภอใจทำให้บุช แบลร์และโฮเวิร์ดถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดรัฐธรรมนูญ เอกสารและคำกล่าวหามีอยู่เป็นพันๆหน้า
แต่บุช แบลร์ และโฮเวิร์ดไม่สนใจ เขาเพียงแต่ยังไม่พูดเท่านั้นว่า “ประเทศคือข้า-ข้าคือประเทศ”
พวกเขาจึงถูกประณามว่าเป็นหมา มิใช่หมาธรรมดาๆเสียด้วย เป็นหมาบ้า และหมาหัวเน่า
จงช่วยกันระวัง อย่าให้หมาบ้ามากัดคนไทย!
******
ภาษิตหมาประจำฉบับ “America is a large, friendly dog in a very small room. Every time it wags its tail it knocks over a chair. อเมริกาเปรียบเสมือนหมาใหญ่ใจดีที่อยู่ในห้องแคบๆ เวลามันกระดิกหางทีไร เป็นต้องปัดเก้าอี้ล้มทุกที” Arnold Toynbee