ในสถานการณ์
เสนาคาม
ก้าวแรก‘อภิรักษ์’บนเก้าอี้ผู้ว่ากทม.
ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์เต็ม บนเก้าอี้ผู้ว่ากทม.ของ อภิรักษ์ โกษะโยธิน พ่อเมืองกรุงเทพมหานครคนใหม่ ที่คนเมืองหลวงพร้อมใจกันฉีกกระแสโพล เทคะแนนให้มากกว่า 9 แสนเสียง
แต่ว่าคงยังไปประเมินอะไรกันไม่ได้ในตอนนี้ เพราะเพิ่งจะผ่านพ้นไปแค่สัปดาห์แรกเท่านั้น
เอาเป็นว่างานนี้ “หล่อเล็ก” ไม่มีเวลาสำหรับการฮันนี่มูน เหมือนช่วงข้าวใหม่ ปลามันของรัฐบาล หรือแม้แต่จะปลีกตัวไปรับเลี้ยงแสดงความยินดี ก็ยังลำบากเลย.. ว่ากันอย่างนั้น
เพราะสารพัดปัญหาเมืองหลวงที่รออยู่เบื้องหน้านั้น โดยเฉพาะปัญหาจราจร มันสาหัสสากรรจ์จริงๆ และทำท่าจะเป็นเดิมพันราคาแพงเอาเสียด้วย
จึงไม่แปลกที่เห็นผู้ว่ากทม.คนใหม่ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพจราจร เป็นงานแรกทันที หลังเข้ารับตำแหน่ง และตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เวลาเกือบจะทั้งหมดถูกใช้ไปกับการคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาจราจรแทบทั้งสิ้น
จนเกือบจะเรียกได้ว่า ติดหล่มวิกฤตจราจร!
ยังดีที่ในช่วงวันศุกร์มีเวลาแวบไปดูปัญหาขยะ และต่อด้วยเรื่องราวของปัญหาน้ำท่วม ซึ่งได้ตระเวนดูระบบการระบายน้ำ ตามคูคลองต่างๆ หลายแห่ง ทั้งฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรี ในวันเสาร์
ส่วนสัปดาห์นี้ นอกจากจะตามเก็บรายละเอียดเรื่องรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที 2 เส้นทาง ที่นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งดำเนินการให้เสร็จทันก่อนหนึ่งปี และเรื่องของขยะที่เปิดหัวเอาไว้แล้ว ก็คงถึงคิวของปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินบ้าง ซึ่ง เป็น 1 ใน 3 นโยบายเร่งด่วน ที่ได้ให้สัญญาประชาคมขายฝันกับคนกรุงเอาไว้เช่นกัน
เบ็ดเสร็จแล้วดูจากลีลาการลุยงาน รวมทั้ง การจัดลำดับความสำคัญปัญหาก่อนหลัง ของผู้ว่าฯ นักการตลาด ในช่วงสัปดาห์แรก ก็เรียกได้ว่า ไม่ผิดหวัง! และดูเหมือนคนกรุงจะได้โชคสองชั้น หรือประมาณว่า ยิงปืนนัดเดียวแล้วได้นกสองตัว อะไรทำนองนั้น ด้วยซ้ำ
เพราะนอกจากจะได้ผู้ว่ากทม.ที่มาจากคนละพรรคกับรัฐบาล ช่วยสร้างสมดุลทางอำนาจอย่างที่วาดหวังกันไว้แล้ว ยังได้เห็นภาพการแข่งขันเรื่องการทำงานอีกด้วย ซึ่งหนังตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในเรื่องนี้ คือ การกู้วิกฤตจราจรเมืองหลวง ที่มีสารพัดโครงการทะลักออกมาจากรัฐบาล คิดเป็นเม็ดเงินสูงถึง 5 แสนล้านบาท
งานนี้แม้จะมีคลื่นแทรกออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำนองตำหนิรัฐบาลที่ไปแย่งซีนผู้ว่า กทม.คนใหม่ ชิงอนุมัติแผนแก้จราจรตัดหน้าไปก่อนก็ตาม แต่ “หล่อเล็ก” อย่างอภิรักษ์ โกษะโยธิน ก็ยังรักษาระยะห่าง เรื่องการเมืองกับการทำงานเอาไว้ได้ในระดับที่ดีทีเดียว..
สิบนิ้ววันทา เดินหน้าเข้าหารือ ขอคำชี้แนะจากนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงสายของวันที่ 9 กันยายน ภาพที่ออกมานับว่าได้อะไรต่อมิอะไร ติดไม้ติดมือมาไม่น้อย และดูเหมือนนายกฯ จะให้ความรู้สึกที่ดีต่อผู้ว่ากทม.มากกว่าที่ประเมินกันไว้ด้วยซ้ำ
นาทีต่อจากนี้ จึงเป็นภาระที่ท้าทายของผู้ว่าฯ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนภาระอันแสนจะหนักอึ้งของเมืองหลวง ไปพร้อมๆ กับการประคับประคองรักษาระยะห่างทางการเมืองเอาไว้ให้ได้ รวมทั้ง จะต้องเร่งผลิตผลงานที่เป็นรูปธรรม เข้ามาแทนที่มายาภาพของความเป็นนักการตลาด ที่นำเสนออยู่ในเวลานี้ให้ได้เร็วที่สุด
และสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเก็บอาการเสือหิว ไม่ผลีผลามคิดว่า กทม.เป็นแหล่งโอเอซิสกลางทะเลทราย แล้วพากันเข้าไปรุมทึ้ง รุมตัก จนแห้งขอดเสียก่อน ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็คงเอวัง! เป็นเรื่องเศร้า ตัวใครตัวมันครับ.
เสนาคาม
ก้าวแรก‘อภิรักษ์’บนเก้าอี้ผู้ว่ากทม.
ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์เต็ม บนเก้าอี้ผู้ว่ากทม.ของ อภิรักษ์ โกษะโยธิน พ่อเมืองกรุงเทพมหานครคนใหม่ ที่คนเมืองหลวงพร้อมใจกันฉีกกระแสโพล เทคะแนนให้มากกว่า 9 แสนเสียง
แต่ว่าคงยังไปประเมินอะไรกันไม่ได้ในตอนนี้ เพราะเพิ่งจะผ่านพ้นไปแค่สัปดาห์แรกเท่านั้น
เอาเป็นว่างานนี้ “หล่อเล็ก” ไม่มีเวลาสำหรับการฮันนี่มูน เหมือนช่วงข้าวใหม่ ปลามันของรัฐบาล หรือแม้แต่จะปลีกตัวไปรับเลี้ยงแสดงความยินดี ก็ยังลำบากเลย.. ว่ากันอย่างนั้น
เพราะสารพัดปัญหาเมืองหลวงที่รออยู่เบื้องหน้านั้น โดยเฉพาะปัญหาจราจร มันสาหัสสากรรจ์จริงๆ และทำท่าจะเป็นเดิมพันราคาแพงเอาเสียด้วย
จึงไม่แปลกที่เห็นผู้ว่ากทม.คนใหม่ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพจราจร เป็นงานแรกทันที หลังเข้ารับตำแหน่ง และตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เวลาเกือบจะทั้งหมดถูกใช้ไปกับการคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาจราจรแทบทั้งสิ้น
จนเกือบจะเรียกได้ว่า ติดหล่มวิกฤตจราจร!
ยังดีที่ในช่วงวันศุกร์มีเวลาแวบไปดูปัญหาขยะ และต่อด้วยเรื่องราวของปัญหาน้ำท่วม ซึ่งได้ตระเวนดูระบบการระบายน้ำ ตามคูคลองต่างๆ หลายแห่ง ทั้งฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรี ในวันเสาร์
ส่วนสัปดาห์นี้ นอกจากจะตามเก็บรายละเอียดเรื่องรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที 2 เส้นทาง ที่นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งดำเนินการให้เสร็จทันก่อนหนึ่งปี และเรื่องของขยะที่เปิดหัวเอาไว้แล้ว ก็คงถึงคิวของปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินบ้าง ซึ่ง เป็น 1 ใน 3 นโยบายเร่งด่วน ที่ได้ให้สัญญาประชาคมขายฝันกับคนกรุงเอาไว้เช่นกัน
เบ็ดเสร็จแล้วดูจากลีลาการลุยงาน รวมทั้ง การจัดลำดับความสำคัญปัญหาก่อนหลัง ของผู้ว่าฯ นักการตลาด ในช่วงสัปดาห์แรก ก็เรียกได้ว่า ไม่ผิดหวัง! และดูเหมือนคนกรุงจะได้โชคสองชั้น หรือประมาณว่า ยิงปืนนัดเดียวแล้วได้นกสองตัว อะไรทำนองนั้น ด้วยซ้ำ
เพราะนอกจากจะได้ผู้ว่ากทม.ที่มาจากคนละพรรคกับรัฐบาล ช่วยสร้างสมดุลทางอำนาจอย่างที่วาดหวังกันไว้แล้ว ยังได้เห็นภาพการแข่งขันเรื่องการทำงานอีกด้วย ซึ่งหนังตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในเรื่องนี้ คือ การกู้วิกฤตจราจรเมืองหลวง ที่มีสารพัดโครงการทะลักออกมาจากรัฐบาล คิดเป็นเม็ดเงินสูงถึง 5 แสนล้านบาท
งานนี้แม้จะมีคลื่นแทรกออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำนองตำหนิรัฐบาลที่ไปแย่งซีนผู้ว่า กทม.คนใหม่ ชิงอนุมัติแผนแก้จราจรตัดหน้าไปก่อนก็ตาม แต่ “หล่อเล็ก” อย่างอภิรักษ์ โกษะโยธิน ก็ยังรักษาระยะห่าง เรื่องการเมืองกับการทำงานเอาไว้ได้ในระดับที่ดีทีเดียว..
สิบนิ้ววันทา เดินหน้าเข้าหารือ ขอคำชี้แนะจากนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงสายของวันที่ 9 กันยายน ภาพที่ออกมานับว่าได้อะไรต่อมิอะไร ติดไม้ติดมือมาไม่น้อย และดูเหมือนนายกฯ จะให้ความรู้สึกที่ดีต่อผู้ว่ากทม.มากกว่าที่ประเมินกันไว้ด้วยซ้ำ
นาทีต่อจากนี้ จึงเป็นภาระที่ท้าทายของผู้ว่าฯ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนภาระอันแสนจะหนักอึ้งของเมืองหลวง ไปพร้อมๆ กับการประคับประคองรักษาระยะห่างทางการเมืองเอาไว้ให้ได้ รวมทั้ง จะต้องเร่งผลิตผลงานที่เป็นรูปธรรม เข้ามาแทนที่มายาภาพของความเป็นนักการตลาด ที่นำเสนออยู่ในเวลานี้ให้ได้เร็วที่สุด
และสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเก็บอาการเสือหิว ไม่ผลีผลามคิดว่า กทม.เป็นแหล่งโอเอซิสกลางทะเลทราย แล้วพากันเข้าไปรุมทึ้ง รุมตัก จนแห้งขอดเสียก่อน ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็คงเอวัง! เป็นเรื่องเศร้า ตัวใครตัวมันครับ.