ซิซซ์เล่อร์เปิดฉากลุย ชูกลยุทธ์ร้านอาหารเพื่อสุขภาพชัดเจนขึ้นและเร่งสร้างมูลค่าเพิ่ม จากเดิมที่ยังไม่เน้นมาก สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคน้ำมันแพงที่ต้องการใช้เงินคุ้มค่า มั่นใจปีนี้โต 20% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่ปีหน้าอีก 4 แห่ง ล่าสุดจับมือกับแคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จัดแคมเปญใหญ่ อิงสุขภาพด้วยโปรแกรม บิแครมโยคะ
นางสาวนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารซิซซ์เล่อร์ ในประเทศไทยในเครือบริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวทางการทำตลาดของธุรกิจร้านอาหารจากนี้จะต้องคำนึงถึงการสร้างบริการที่แตกต่างรวมไปถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่เน้นแต่การทำโปรโมชั่หรือการลดราคาอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น
นโยบายของซิซซ์เล่อร์จากนี้ก็จะหันมาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ดังกล่าวมากขึ้น อีกทั้งจะหันมาเน้นการสร้างภาพลักษณ์ของร้านซิซซ์เล่อร์ให้เป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพและให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจากเดิมก็เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่แล้วแต่ไม่ได้เน้นหนักตรงนี้มากเท่าใดนัก ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้สามารถตอบรับกับกระแสการรักสุขภาพและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เน้นการใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลและคุ้มค่ามากขึ้น ในยุคปัจจุบันที่ค่าครองชีพสูงขึ้นจากการปรับราคาของน้ำมันที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยในปีนี้ซิซซ์เล่อร์ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 850 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 700 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 20% ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้สามารถทำอัตราการเติบโตได้แล้ว 18% และจะจัดสรรงบประมาณเฉลี่ย 10% จากรายได้รวมเพื่อนำมาใช้ทางด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มและคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก โดยคาดว่าในปีนี้จะมีฐานลูกค้าประมาณ 3.5 ล้านคน
ทั้งนี้ซิซซ์เล่อร์มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายครอบคลุมหลายกลุ่มทั้งวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา ครอบคัว คนทำงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งต่างกันไป เช่น สาขาลาดพร้าวก็จะเป็นกลุ่มคอบครัวและวัยรุ่นเป็นหลัก ส่วนสาขาที่สีลมก็จะเป็นคนทำงานบริษัท โดยค่าใช้จ่ายที่เข้าร้านเฉลี่ย 200-300 บาทต่อคนต่อครั้ง และลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 2 ครั้งต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้มีฐานสมาชิกประมาณ 40,000 ราย โดยจะเปิดรับสมาชิกปีละครั้งช่วงต้นปี
สำหรับแผนการขยายสาขา นั้น ในปีนี้เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 2 แห่งคือที่ เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต และอุดรเจริญศรี ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 24 แห่ง จากสิ้นปีที่แล้วมี 22 แห่ง โดยแบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ 16 แห่ง และในต่างจังหวัด 8 แห่ง และในปีหน้ามีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4 สาขา เน้นในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก
ซิซซ์เล่อร์จะมีการทำกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรหลากหลายและต่อเนื่อง รวมไปถึงการทำโปรโมชั่นในร้านด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกเมนูใหม่ที่เน้นสุขภาพ หรือการทำโปรโมชั่นด้านราคาเช่นที่ทำอยู่ขณะนี้คือ เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านแต่ไม่ต้องการสั่งอาหารที่อยู่ในเมนูหลัก ก็สามารถจ่ายเพียง 99 บาทเพื่อทานสลัดบาร์และสามารถเพิ่มอีก 25บาทได้สเต็กไก่ หรือเพิ่ม 35 บาทสำหรับสเต็กหมู และเพิ่ม 45 บาทสำหรับสเต็กปลาทอด ซึ่งจะใช้จนถึงสิ้นปีนี้ล่าสุดได้ร่วมมือกับแคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ ในการทำกิจกรรมร่วมกัน และถือเป็นปีที่สองที่ร่วมกัน
“ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการบริโภคเพื่อสุขภาพมากขึ้น จึงได้จัดรายการส่งเสริมการขาย “Get Hot Get Firm Get Healthy at Sizzler” มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มครบตามเงื่อนไข 1,000 บาททุกสาขาจะได้รับบัตรทดลองโยคะแนวใหม่แบบ บิแครมโยคะ จำนวน 2 ท่าน มูลค่า 1,000 บาทฟรี 1 ครั้ง พร้อมวีซีดีแนะนำที่แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ และสมาชิกของแคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์จะได้รับคูปองส่วนลด 100 บาทเมื่อสั่งคอมไบเนชั่นแพลตเตอร์ จานละ 295 บาท จำนวน 2 จานที่ร้านซิซซ์เล่อร์”
แคมเปญนี้ซิซซ์เล่อร์ทำเพื่อที่ต้องการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภคซึ่งแคมเปญนี้สามารถเชื่อมต่อกับแคลิฟอร์เนียได้เพราะมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันคือผู้ที่รักสุขภาพ
นางสาวนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารซิซซ์เล่อร์ ในประเทศไทยในเครือบริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวทางการทำตลาดของธุรกิจร้านอาหารจากนี้จะต้องคำนึงถึงการสร้างบริการที่แตกต่างรวมไปถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่เน้นแต่การทำโปรโมชั่หรือการลดราคาอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น
นโยบายของซิซซ์เล่อร์จากนี้ก็จะหันมาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ดังกล่าวมากขึ้น อีกทั้งจะหันมาเน้นการสร้างภาพลักษณ์ของร้านซิซซ์เล่อร์ให้เป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพและให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจากเดิมก็เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่แล้วแต่ไม่ได้เน้นหนักตรงนี้มากเท่าใดนัก ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้สามารถตอบรับกับกระแสการรักสุขภาพและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เน้นการใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลและคุ้มค่ามากขึ้น ในยุคปัจจุบันที่ค่าครองชีพสูงขึ้นจากการปรับราคาของน้ำมันที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยในปีนี้ซิซซ์เล่อร์ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 850 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 700 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 20% ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้สามารถทำอัตราการเติบโตได้แล้ว 18% และจะจัดสรรงบประมาณเฉลี่ย 10% จากรายได้รวมเพื่อนำมาใช้ทางด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มและคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก โดยคาดว่าในปีนี้จะมีฐานลูกค้าประมาณ 3.5 ล้านคน
ทั้งนี้ซิซซ์เล่อร์มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายครอบคลุมหลายกลุ่มทั้งวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา ครอบคัว คนทำงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งต่างกันไป เช่น สาขาลาดพร้าวก็จะเป็นกลุ่มคอบครัวและวัยรุ่นเป็นหลัก ส่วนสาขาที่สีลมก็จะเป็นคนทำงานบริษัท โดยค่าใช้จ่ายที่เข้าร้านเฉลี่ย 200-300 บาทต่อคนต่อครั้ง และลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 2 ครั้งต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้มีฐานสมาชิกประมาณ 40,000 ราย โดยจะเปิดรับสมาชิกปีละครั้งช่วงต้นปี
สำหรับแผนการขยายสาขา นั้น ในปีนี้เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 2 แห่งคือที่ เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต และอุดรเจริญศรี ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 24 แห่ง จากสิ้นปีที่แล้วมี 22 แห่ง โดยแบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ 16 แห่ง และในต่างจังหวัด 8 แห่ง และในปีหน้ามีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4 สาขา เน้นในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก
ซิซซ์เล่อร์จะมีการทำกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรหลากหลายและต่อเนื่อง รวมไปถึงการทำโปรโมชั่นในร้านด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกเมนูใหม่ที่เน้นสุขภาพ หรือการทำโปรโมชั่นด้านราคาเช่นที่ทำอยู่ขณะนี้คือ เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านแต่ไม่ต้องการสั่งอาหารที่อยู่ในเมนูหลัก ก็สามารถจ่ายเพียง 99 บาทเพื่อทานสลัดบาร์และสามารถเพิ่มอีก 25บาทได้สเต็กไก่ หรือเพิ่ม 35 บาทสำหรับสเต็กหมู และเพิ่ม 45 บาทสำหรับสเต็กปลาทอด ซึ่งจะใช้จนถึงสิ้นปีนี้ล่าสุดได้ร่วมมือกับแคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ ในการทำกิจกรรมร่วมกัน และถือเป็นปีที่สองที่ร่วมกัน
“ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการบริโภคเพื่อสุขภาพมากขึ้น จึงได้จัดรายการส่งเสริมการขาย “Get Hot Get Firm Get Healthy at Sizzler” มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มครบตามเงื่อนไข 1,000 บาททุกสาขาจะได้รับบัตรทดลองโยคะแนวใหม่แบบ บิแครมโยคะ จำนวน 2 ท่าน มูลค่า 1,000 บาทฟรี 1 ครั้ง พร้อมวีซีดีแนะนำที่แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ และสมาชิกของแคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์จะได้รับคูปองส่วนลด 100 บาทเมื่อสั่งคอมไบเนชั่นแพลตเตอร์ จานละ 295 บาท จำนวน 2 จานที่ร้านซิซซ์เล่อร์”
แคมเปญนี้ซิซซ์เล่อร์ทำเพื่อที่ต้องการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภคซึ่งแคมเปญนี้สามารถเชื่อมต่อกับแคลิฟอร์เนียได้เพราะมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันคือผู้ที่รักสุขภาพ