นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกรัฐบาล กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกันของรองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินในเรื่องต่างๆ ในลักษณะ Working Lunch ว่า นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. เสนอนายกรัฐมนตรี เรื่องการติดตามผลของนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ (ซีอีโอ) ซึ่งนายกฯ มีความเห็นว่า ในปีนี้อยากจะให้มีการจัดระดมสมองผู้ว่าฯซีอีโอ หลังจากที่ดำเนินการเรื่องนี้มาแล้ว 1 ปี ว่าผู้ว่าฯมีความคิดเห็น หรืออยากให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง
ขณะนี้ระบบผู้ว่าฯซีอีโอ ได้มีการทำการประเมินผลอย่างจริงจังในระบบที่เรียกง่ายๆ ว่า ระบบไฟแดง ไฟเขียว และไฟเหลือง ว่าการทำงานในเชิงบูรณาการนั้นมีความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะใช้เป็นหลักในการวัดตามสัญญาที่รัฐบาลกระทำต่อผู้ว่าฯ ท่านนั้น ๆ ต่อไป ส่วนผู้ว่าฯ ที่จะมีการโยกย้ายใหม่ และจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ก็จะต้องทำสัญญากับรัฐบาลเช่นเดียวกันว่าจะนำเสนออะไรบ้าง ในเชิงผลงานของการบูรณาการ
นายจักรภพ กล่าวว่า นายกฯ ให้ไปทดลองจัดทำงบประมาณแบบใหม่นั่นคือ ให้ใช้วิธีการยึดพื้นที่เป็นหลัก โดยก้อนเงินงบประมาณที่มีอยู่ ถ้าลองหักแบ่งเพื่อจะให้กับพื้นที่ในทันที โดยไม่ต้องมีรายละเอียดว่าจะไปใช้เรื่องอะไรบ้าง หรือเรียกง่ายๆ คือ เป็นงานกันเงินส่วนหนึ่งให้กับการทำงานของจังหวัดอย่างแท้จริง และก็กันเงินจำนวนที่น้อยกว่าไว้สำหรับการทำงานที่ข้ามจังหวัด หรือข้ามเขตกลุ่มจังหวัด หรือว่างานที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล แต่เรื่องนี้ยังไม่ใช่การสั่งการ ยังไม่ใช่นโยบายเป็นเพียงการสั่งการให้ไปทดลอง ดูว่าจะสามารถปรับวิธีทำงบประมาณ เพื่อจะสนองตอบระบบผู้ว่าฯซีอีโอ ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
นอกจากนั้นนายกฯได้แสดงความเป็นห่วงระบบสนับสนุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ว่าฯแบบบูรณาการ เช่น เป็นระยะเปลี่ยนผ่านผู้ว่าฯบางคนก็ยังปรับตัวไม่ได้ กับแนวความคิดใหม่ บางคนก็ปรับตัวได้ ขณะเดียวกันระบบใหม่ก็ให้ความสำคัญกับระบบผู้ตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทยมาก แต่ในทางปฏิบัติแล้วระบบผู้ตรวจราชการ ยังมีเครื่องมือในการทำงานน้อยกว่าผู้ว่าฯ อย่างเห็นได้ชัด เช่น งบประมาณน้อยกว่า มีบุคลากรน้อยกว่า ฉะนั้นผู้ตรวจราชการจึงไม่สามารถทำหน้าที่ผู้ตรวจราชการได้ แต่มีสภาพเป็นสุสานหรือว่าถูกแขวนไว้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นให้ ก.พ.ร. ไปคิดวิธีการเพิ่มความสำคัญของระบบการตรวจราชการ เพื่อจะได้โยงกลับมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพ และประเมินผลผู้ว่าฯแบบบูรณาการด้วย ทั้งนี้นายกฯ ได้สั่งการให้มีการเชิญที่ปรึกษานายกฯที่เป็นชาวต่างชาติเข้าร่วมด้วย เพื่อที่จะช่วยชี้แนะการทำงานให้กับผู้ว่าฯซีอีโอ ของไทยและให้เชิญที่ปรึกษานายกฯที่เป็นสายทางด้านผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมในการประเมินครั้งนี้ด้วย
ขณะนี้ระบบผู้ว่าฯซีอีโอ ได้มีการทำการประเมินผลอย่างจริงจังในระบบที่เรียกง่ายๆ ว่า ระบบไฟแดง ไฟเขียว และไฟเหลือง ว่าการทำงานในเชิงบูรณาการนั้นมีความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะใช้เป็นหลักในการวัดตามสัญญาที่รัฐบาลกระทำต่อผู้ว่าฯ ท่านนั้น ๆ ต่อไป ส่วนผู้ว่าฯ ที่จะมีการโยกย้ายใหม่ และจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ก็จะต้องทำสัญญากับรัฐบาลเช่นเดียวกันว่าจะนำเสนออะไรบ้าง ในเชิงผลงานของการบูรณาการ
นายจักรภพ กล่าวว่า นายกฯ ให้ไปทดลองจัดทำงบประมาณแบบใหม่นั่นคือ ให้ใช้วิธีการยึดพื้นที่เป็นหลัก โดยก้อนเงินงบประมาณที่มีอยู่ ถ้าลองหักแบ่งเพื่อจะให้กับพื้นที่ในทันที โดยไม่ต้องมีรายละเอียดว่าจะไปใช้เรื่องอะไรบ้าง หรือเรียกง่ายๆ คือ เป็นงานกันเงินส่วนหนึ่งให้กับการทำงานของจังหวัดอย่างแท้จริง และก็กันเงินจำนวนที่น้อยกว่าไว้สำหรับการทำงานที่ข้ามจังหวัด หรือข้ามเขตกลุ่มจังหวัด หรือว่างานที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล แต่เรื่องนี้ยังไม่ใช่การสั่งการ ยังไม่ใช่นโยบายเป็นเพียงการสั่งการให้ไปทดลอง ดูว่าจะสามารถปรับวิธีทำงบประมาณ เพื่อจะสนองตอบระบบผู้ว่าฯซีอีโอ ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
นอกจากนั้นนายกฯได้แสดงความเป็นห่วงระบบสนับสนุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ว่าฯแบบบูรณาการ เช่น เป็นระยะเปลี่ยนผ่านผู้ว่าฯบางคนก็ยังปรับตัวไม่ได้ กับแนวความคิดใหม่ บางคนก็ปรับตัวได้ ขณะเดียวกันระบบใหม่ก็ให้ความสำคัญกับระบบผู้ตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทยมาก แต่ในทางปฏิบัติแล้วระบบผู้ตรวจราชการ ยังมีเครื่องมือในการทำงานน้อยกว่าผู้ว่าฯ อย่างเห็นได้ชัด เช่น งบประมาณน้อยกว่า มีบุคลากรน้อยกว่า ฉะนั้นผู้ตรวจราชการจึงไม่สามารถทำหน้าที่ผู้ตรวจราชการได้ แต่มีสภาพเป็นสุสานหรือว่าถูกแขวนไว้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นให้ ก.พ.ร. ไปคิดวิธีการเพิ่มความสำคัญของระบบการตรวจราชการ เพื่อจะได้โยงกลับมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพ และประเมินผลผู้ว่าฯแบบบูรณาการด้วย ทั้งนี้นายกฯ ได้สั่งการให้มีการเชิญที่ปรึกษานายกฯที่เป็นชาวต่างชาติเข้าร่วมด้วย เพื่อที่จะช่วยชี้แนะการทำงานให้กับผู้ว่าฯซีอีโอ ของไทยและให้เชิญที่ปรึกษานายกฯที่เป็นสายทางด้านผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมในการประเมินครั้งนี้ด้วย