ในสถานการณ์
เสนาคาม
วันใหม่..ชีวิตใหม่คนเมืองหลวง
ฝากไว้ในใจพ่อเมืองกทม.คนใหม่..
อรุณรุ่งวันใหม่ของคนเมืองหลวง ที่ตื่นมาพบกับข่าวผู้ว่า กทม.คนใหม่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวดี หรือข่าวร้าย และจะถูกใจใคร หรือไม่ถูกใจใครบ้างก็ตาม
แต่นั่นก็ถือเป็นอาณัติ เป็นประกาศิต และเป็นเสียงสวรรค์ของคนเมืองหลวง ในมิติของระบอบประชาธิปไตย ที่เห็นพ้องร่วมกันแล้ว มอบหมายให้เขาคนนั้น เข้ามาทำหน้าที่กุมบังเหียนบริหารงานกรุงเทพมหานคร ตามวาระงาน 4 ปี (ถ้ากกต.รับรอง)
ผิดถูกอย่างไร..ถึงตอนนี้คงไปเปลี่ยนอะไรกันอีกไม่ได้ มีอยู่ทางเดียว คือ ต้องยอมก้มหน้ารับกรรมไปอีก 4 ปี แต่ถ้าออกมาตรงกันข้าม ก็ถือเป็นโชคดีของคนเมืองหลวง ที่ตื่นมารับวันใหม่ ที่มาพร้อมกับอนาคต และความหวังแห่งรุ่งอรุณ..
เอาเป็นว่า นาทีต่อจากนี้คนกทม.ได้พ่อเมืองคนใหม่แล้วครับ!
ในฐานะที่เป็นส่วนผสมหนึ่งของกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เห็นว่ามีปัญหาเฉพาะหน้าอย่างน้อย 2-3 เรื่อง ที่อยากให้ผู้ว่า กทม.คนใหม่ หยิบยกขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วน
อย่างแรกเลย เป็นเรื่องของการจัดระเบียบเมือง ซึ่งถูกละเลยปล่อยให้อยู่กันอย่างอีแหละเขระขละมานาน ตัวอย่างเรื่องหาบเร่ แผงลอยในพื้นที่ผ่อนผัน ที่ดูเหมือนจะผ่อนกันจนหย่อน! ปล่อยให้ตั้งวางสินค้าบนฟุตบาธกันตามอำเภอน้ำใจ จนแทบจะไม่เหลือช่องให้คนเดิน ต้องหนีลงมาเดินเหิรกันบนผิวจราจรแทน เพราะเหล่าผู้มีพระคุณของเทศกิจ ท่านยึดสัมปทานทางเท้ากันไปเกือบหมด ไม่เชื่อไปดูของจริงกันได้ที่บางลำภู ใกล้ๆ บ้านผู้จัดการนี่เอง และอีกหลายๆ แห่งที่มีสภาพไม่แตกต่างกัน
อีกอันเป็นเรื่องของปัญหาขยะ และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตัวอย่างอยู่ใกล้ๆ บ้านผู้จัดการเหมือนกัน..ย่านหลังวัดชนะสงคราม ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นดงเกสท์เฮ้าส์ ที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติ เกือบจะทุกชาติ ทุกภาษา มารวมกันอยู่ที่นี่ เพราะหลงเสน่ห์ของถนนข้าวสาร
แต่น่าหดหู่คือความสกปรกเข้าครอบงำในเกือบทุกอณูของพื้นที่แถบนี้ แขกไปใครมาผ่านเข้าไปแล้ว ดูไม่เจริญหูเจริญตาเอาเสียเลย ทั้งๆ ที่เป็นหน้าตาของเมืองแท้ๆ และยังเป็นแหล่งทำเงินเข้าประเทศปีละมากๆ อีกด้วย
นอกจากนั้น ปัญหาความไร้ระเบียบ จิตสำนึกต่ำ ของผู้คนที่เห็นแก่ตัว ประเภทจูงสัตว์เลี้ยงออกมาปลดทุกข์ตามฟุตบาธตอนเช้าๆ แล้วมุดกลับเข้าตึกแถวไปโดยไม่เก็บกวาด ปล่อยให้คนเหยียบผิด เหยียบถูก ลากถูไปตามพื้น เป็นที่น่าขยะแขยง!
ก็เป็นอีกเรื่องที่ กทม.ต้องดูแล ปลูกจิตสำนึกคนเมืองกันเสียใหม่!
สุดท้ายปัญหามะเร็งร้ายเรื่อง คอรัปชั่น! เลิกกันเสียทีกับ ็หัวคิวขยะิ ที่ปล่อยให้หมู่บ้านย่านชานเมืองจัดเก็บค่าขยะเอง ในราคาที่สูงลิ่ว เกินกว่าที่กำหนดไว้ในเทศบัญญัติกทม.หลายเท่าตัว ทั้งๆ ที่รถขยะ กทม.แท้ๆ ที่เข้าไปขนกันทุกเช้า แต่กลับปล่อยให้มีนอกมีในชักหัวคิวกันเพลิน
เรื่องนี้ไม่รู้จะเป็นวัดครึ่ง กรรมการครึ่งหรือเปล่า!
ทั้งหมดที่ว่ามา แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นเหมือนก้อนกรวดในรองเท้า ฝากผู้ว่ากทม.คนใหม่ช่วยดูให้ทีครับ
เสนาคาม
วันใหม่..ชีวิตใหม่คนเมืองหลวง
ฝากไว้ในใจพ่อเมืองกทม.คนใหม่..
อรุณรุ่งวันใหม่ของคนเมืองหลวง ที่ตื่นมาพบกับข่าวผู้ว่า กทม.คนใหม่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวดี หรือข่าวร้าย และจะถูกใจใคร หรือไม่ถูกใจใครบ้างก็ตาม
แต่นั่นก็ถือเป็นอาณัติ เป็นประกาศิต และเป็นเสียงสวรรค์ของคนเมืองหลวง ในมิติของระบอบประชาธิปไตย ที่เห็นพ้องร่วมกันแล้ว มอบหมายให้เขาคนนั้น เข้ามาทำหน้าที่กุมบังเหียนบริหารงานกรุงเทพมหานคร ตามวาระงาน 4 ปี (ถ้ากกต.รับรอง)
ผิดถูกอย่างไร..ถึงตอนนี้คงไปเปลี่ยนอะไรกันอีกไม่ได้ มีอยู่ทางเดียว คือ ต้องยอมก้มหน้ารับกรรมไปอีก 4 ปี แต่ถ้าออกมาตรงกันข้าม ก็ถือเป็นโชคดีของคนเมืองหลวง ที่ตื่นมารับวันใหม่ ที่มาพร้อมกับอนาคต และความหวังแห่งรุ่งอรุณ..
เอาเป็นว่า นาทีต่อจากนี้คนกทม.ได้พ่อเมืองคนใหม่แล้วครับ!
ในฐานะที่เป็นส่วนผสมหนึ่งของกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เห็นว่ามีปัญหาเฉพาะหน้าอย่างน้อย 2-3 เรื่อง ที่อยากให้ผู้ว่า กทม.คนใหม่ หยิบยกขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วน
อย่างแรกเลย เป็นเรื่องของการจัดระเบียบเมือง ซึ่งถูกละเลยปล่อยให้อยู่กันอย่างอีแหละเขระขละมานาน ตัวอย่างเรื่องหาบเร่ แผงลอยในพื้นที่ผ่อนผัน ที่ดูเหมือนจะผ่อนกันจนหย่อน! ปล่อยให้ตั้งวางสินค้าบนฟุตบาธกันตามอำเภอน้ำใจ จนแทบจะไม่เหลือช่องให้คนเดิน ต้องหนีลงมาเดินเหิรกันบนผิวจราจรแทน เพราะเหล่าผู้มีพระคุณของเทศกิจ ท่านยึดสัมปทานทางเท้ากันไปเกือบหมด ไม่เชื่อไปดูของจริงกันได้ที่บางลำภู ใกล้ๆ บ้านผู้จัดการนี่เอง และอีกหลายๆ แห่งที่มีสภาพไม่แตกต่างกัน
อีกอันเป็นเรื่องของปัญหาขยะ และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตัวอย่างอยู่ใกล้ๆ บ้านผู้จัดการเหมือนกัน..ย่านหลังวัดชนะสงคราม ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นดงเกสท์เฮ้าส์ ที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติ เกือบจะทุกชาติ ทุกภาษา มารวมกันอยู่ที่นี่ เพราะหลงเสน่ห์ของถนนข้าวสาร
แต่น่าหดหู่คือความสกปรกเข้าครอบงำในเกือบทุกอณูของพื้นที่แถบนี้ แขกไปใครมาผ่านเข้าไปแล้ว ดูไม่เจริญหูเจริญตาเอาเสียเลย ทั้งๆ ที่เป็นหน้าตาของเมืองแท้ๆ และยังเป็นแหล่งทำเงินเข้าประเทศปีละมากๆ อีกด้วย
นอกจากนั้น ปัญหาความไร้ระเบียบ จิตสำนึกต่ำ ของผู้คนที่เห็นแก่ตัว ประเภทจูงสัตว์เลี้ยงออกมาปลดทุกข์ตามฟุตบาธตอนเช้าๆ แล้วมุดกลับเข้าตึกแถวไปโดยไม่เก็บกวาด ปล่อยให้คนเหยียบผิด เหยียบถูก ลากถูไปตามพื้น เป็นที่น่าขยะแขยง!
ก็เป็นอีกเรื่องที่ กทม.ต้องดูแล ปลูกจิตสำนึกคนเมืองกันเสียใหม่!
สุดท้ายปัญหามะเร็งร้ายเรื่อง คอรัปชั่น! เลิกกันเสียทีกับ ็หัวคิวขยะิ ที่ปล่อยให้หมู่บ้านย่านชานเมืองจัดเก็บค่าขยะเอง ในราคาที่สูงลิ่ว เกินกว่าที่กำหนดไว้ในเทศบัญญัติกทม.หลายเท่าตัว ทั้งๆ ที่รถขยะ กทม.แท้ๆ ที่เข้าไปขนกันทุกเช้า แต่กลับปล่อยให้มีนอกมีในชักหัวคิวกันเพลิน
เรื่องนี้ไม่รู้จะเป็นวัดครึ่ง กรรมการครึ่งหรือเปล่า!
ทั้งหมดที่ว่ามา แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นเหมือนก้อนกรวดในรองเท้า ฝากผู้ว่ากทม.คนใหม่ช่วยดูให้ทีครับ