ผู้จัดการรายวัน - "อินนิทิเอทิฟว์" แนะวงการเอเยนซีเร่งปรับตัวรับมือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ผุดกลยุทธ์วิธีการสื่อสารให้หลากหลาย บ่นอุบวงการเอเยนซีเริ่มกลับสู่ยุคมืดหลังน้ำมันพ่นพิษผู้ประกอบการหั่นงบโฆษณา ล่าสุด หลายค่ายเดินเครื่องดัมป์ราคาแหลก เปิดผลวิจัย เดอะ เฟซ ออฟ ไทยแลนด์ ชี้คนไทยยังมีไลฟ์สไตล์แบบทำตามขนมธรรมเนียมสูงถึง 44 %
วานนี้ (27 สิงหาคม 2547) บริษัทอินนิทิเอทิฟว์ จำกัด จัดสัมมนาในหัวข้อ เดอะ เฟซ ออฟ ไทยแลนด์ โดยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลทางด้านพฤติกรรมและลักษณะของผู้บริโภคชาวไทยเชิงลึกกว่า 6,300 คน อายุระหว่าง15-59 ปี ทั่วประเทศตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับความคิดเห็นและลักษณะการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในแต่ละกลุ่ม ตลอดจนความคาดหวังต่ออนาคตและความคิดที่มีต่อโฆษณาทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นางวรรณี รัตนพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินนิทิเอทิฟว์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการสำรวจในครั้งนี้บริษัทได้นำดัชนีชี้วัดทางด้านทัศนคติและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคคนไทยแทนที่การใช้หลักประชากรศาสตร์ อายุ เพศ รายได้ และการศึกษา ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภครวมทั้งสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การใช้หลักเกณฑ์เดิมเป็นเครื่องมือในการสำรวจจะไม่สามารถเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
"ผลจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ทำให้วงการเอเยนซี่เองจะต้องปรับตัวในเรื่องของการใช้สื่อและวิธีการสื่อสารให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้การสื่อสารในลักษณะเดียวกันกับทุกสื่อ ซึ่งจากการสำรวจในเชิงทัศนคติ ไลฟ์สไตล์จะทำให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มากขึ้น"
ขณะนี้วงการเอเยนซีเริ่มใช้กลยุทธ์ลดราคาเข้ามาแข่งขันมากขึ้น เนื่องจากในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอน ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในแต่ละเซกเมนต์วางแผนในการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ลดลง
นายอดัม ฮอดจ์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและเทคโนโลยี ประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค บริษัท อินนิทิเอทิฟว์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับผลจากการทำวิจัยสามารถแบ่งกลุ่มผู้บริโภคได้ 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก Progressive Technocrats กลุ่มผู้บริโภคที่มีการศึกษาดีและมีความมั่นใจในตนเองพร้อมที่จะค้นหาความรู้หรือประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชีวิตอยู่ตลอดเวลา และเป็นบุคคลที่ตามติดในเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ โดยคนไทยที่มีพฤติกรรมนี้ราว 12%
กลุ่มสอง Aspiring Trend Setters เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตค่อนข้างสูง ต้องพร้อมและดูดีเสมอ โดยคนไทยมีสัดส่วน 25% ส่วนกลุ่มสาม The Alphas เป็นกลุ่มผู้บริโภคผู้ชายประมาณ20% ของประชากรผู้ชาย โดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพ ให้ความสำคัญกับครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเพื่อน รักการผจญภัย คิดเป็นสัดส่วน 7 %
กลุ่มสี่ Fun Loveing Home Bodies เป็นกลุ่มคนที่มีทั้งผู้ชายและหญิง โดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในภาคกลางของประเทศมีฐานะปานกลางถึงค่อนข้างสูงคิดเป็นสัดส่วน12% ขณะที่กลุ่มคนไทยส่วนใหญ่ประมาณ 44% จะจัดอยู่ในอันดับสุดท้าย คือ The Conformists เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ค่อนข้างประพฤติปฏิบัติและดำเนินชีวิตตามแบบขนบธรรมเนียมประเพณี คนกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับงานและครอบครัวเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะลูกหลาน
จากผลการวิจัยของบริษัทจะเจาะลึกเข้าไปถึงความรู้สึกนึกคิด และจิตใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อสื่อรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างจากข้อมูลที่ใช้กันอยู่ทั่วไปเพราะจะเป็นเพียงผลสำรวจจากข้อมูลพื้นฐานของแต่ละคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ทีมงานวางแผนสื่อของบริษัทได้นำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการวางแผนสื่อโฆษณา และการซื้อสื่อให้กับลูกค้า เพื่อให้ได้เข้าถึงจิตใจของกลุ่มผู้บริโภค และได้ผลคุ้มค่ากับงบประมาณของลูกค้ามากที่สุด
วานนี้ (27 สิงหาคม 2547) บริษัทอินนิทิเอทิฟว์ จำกัด จัดสัมมนาในหัวข้อ เดอะ เฟซ ออฟ ไทยแลนด์ โดยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลทางด้านพฤติกรรมและลักษณะของผู้บริโภคชาวไทยเชิงลึกกว่า 6,300 คน อายุระหว่าง15-59 ปี ทั่วประเทศตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับความคิดเห็นและลักษณะการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในแต่ละกลุ่ม ตลอดจนความคาดหวังต่ออนาคตและความคิดที่มีต่อโฆษณาทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นางวรรณี รัตนพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินนิทิเอทิฟว์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการสำรวจในครั้งนี้บริษัทได้นำดัชนีชี้วัดทางด้านทัศนคติและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคคนไทยแทนที่การใช้หลักประชากรศาสตร์ อายุ เพศ รายได้ และการศึกษา ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภครวมทั้งสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การใช้หลักเกณฑ์เดิมเป็นเครื่องมือในการสำรวจจะไม่สามารถเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
"ผลจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ทำให้วงการเอเยนซี่เองจะต้องปรับตัวในเรื่องของการใช้สื่อและวิธีการสื่อสารให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้การสื่อสารในลักษณะเดียวกันกับทุกสื่อ ซึ่งจากการสำรวจในเชิงทัศนคติ ไลฟ์สไตล์จะทำให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มากขึ้น"
ขณะนี้วงการเอเยนซีเริ่มใช้กลยุทธ์ลดราคาเข้ามาแข่งขันมากขึ้น เนื่องจากในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอน ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในแต่ละเซกเมนต์วางแผนในการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ลดลง
นายอดัม ฮอดจ์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและเทคโนโลยี ประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค บริษัท อินนิทิเอทิฟว์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับผลจากการทำวิจัยสามารถแบ่งกลุ่มผู้บริโภคได้ 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก Progressive Technocrats กลุ่มผู้บริโภคที่มีการศึกษาดีและมีความมั่นใจในตนเองพร้อมที่จะค้นหาความรู้หรือประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชีวิตอยู่ตลอดเวลา และเป็นบุคคลที่ตามติดในเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ โดยคนไทยที่มีพฤติกรรมนี้ราว 12%
กลุ่มสอง Aspiring Trend Setters เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตค่อนข้างสูง ต้องพร้อมและดูดีเสมอ โดยคนไทยมีสัดส่วน 25% ส่วนกลุ่มสาม The Alphas เป็นกลุ่มผู้บริโภคผู้ชายประมาณ20% ของประชากรผู้ชาย โดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพ ให้ความสำคัญกับครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเพื่อน รักการผจญภัย คิดเป็นสัดส่วน 7 %
กลุ่มสี่ Fun Loveing Home Bodies เป็นกลุ่มคนที่มีทั้งผู้ชายและหญิง โดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในภาคกลางของประเทศมีฐานะปานกลางถึงค่อนข้างสูงคิดเป็นสัดส่วน12% ขณะที่กลุ่มคนไทยส่วนใหญ่ประมาณ 44% จะจัดอยู่ในอันดับสุดท้าย คือ The Conformists เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ค่อนข้างประพฤติปฏิบัติและดำเนินชีวิตตามแบบขนบธรรมเนียมประเพณี คนกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับงานและครอบครัวเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะลูกหลาน
จากผลการวิจัยของบริษัทจะเจาะลึกเข้าไปถึงความรู้สึกนึกคิด และจิตใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อสื่อรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างจากข้อมูลที่ใช้กันอยู่ทั่วไปเพราะจะเป็นเพียงผลสำรวจจากข้อมูลพื้นฐานของแต่ละคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ทีมงานวางแผนสื่อของบริษัทได้นำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการวางแผนสื่อโฆษณา และการซื้อสื่อให้กับลูกค้า เพื่อให้ได้เข้าถึงจิตใจของกลุ่มผู้บริโภค และได้ผลคุ้มค่ากับงบประมาณของลูกค้ามากที่สุด