xs
xsm
sm
md
lg

โค้กเรียนลัดชาเขียวยืมแบรนด์เนสทีทำตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - โค้กร่วมเปิดศึกชาเขียวหันใช้แบรนด์พันธมิตรส่ง "เนสที ไอซ์ รัช" ลุยทำตลาด หลังเจอชาเขียวซัดน้ำอัดลมหด ประเดิมเปิดตัวแบบขวด 7 บาทค่อยตามต่อด้วยแบบกล่อง เร่งหน่วยรถเดินสายดันเข้าโชวห่วย เตรียมอัดต่อด้วยสปอตโฆษณาสร้างการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมาย

ขณะนี้บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมโค้กและแฟนต้าได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาเขียวรสเลมอนลงทำตลาดภายใต้แบรนด์ "เนสที ไอซ์ รัช" ซึ่งถือเป็นการกระโดดลงตลาดชาเขียวเป็นครั้งแรก โดยแบรนด์ดังกล่าวเป็นเครื่องดื่มที่ไทยน้ำทิพย์เป็นผู้ผลิตและทำตลาดเอง ซึ่งการเข้ามาทำตลาดชาเขียวซึ่งคาดการณ์กันว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 3,900 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2547 ของไทยน้ำทิพย์ในครั้งนี้ ถือเป็นการยืมแบรนด์ของพันธมิตรอย่างเนสท์เล่มาทำตลาด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์ทันทีไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา

เนื่องจากแบรนด์เนสทีเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชามะนาวของค่ายเนสท์เล่ที่ผลิตและทำตลาดเอง และยังคงวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน และเป็นแบรนด์ที่ถูกสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคมานานแล้วว่าเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชา ซึ่งหากไทยน้ำทิพย์จะนำแบรนด์โค้กหรือแฟนต้าที่มีอยู่มาใช้กับเครื่องดื่มชาเขียวที่ต้องการจะลงมาทำตลาดก็จะทำให้ตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ทั้งน้ำอัดลมและชาเขียวไม่ชัดเจน

ไทยน้ำทิพย์ได้ทดลองตลาดด้วยการทำกิจกรรมล้อนช์เนสที ไอซ์ รัชเป็นครั้งแรกที่สวนจตุจักรเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา และมหาวิทยาลัยทั่วกรุงเทพ โดยเบื้องต้นเริ่มจำหน่ายเนสที ไอซ์ รัชภายใต้แนวคิดเพิ่มคูลลิ่ง แอคชั่นแบบขวดขนาด 280 มล. ในราคา 7 บาท ซึ่งถือเป็นรายแรกที่ทำชาเขียวใส่ขวดแก้ว และแบบกล่องพาสเจอร์ไรซ์ขนาด 280 มล. ราคา 10 บาท ซึ่งช่วงแนะนำได้เพิ่มปริมาณให้กับแบบกล่องอีก 30 มล. และช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไทยน้ำทิพย์ได้เริ่มให้หน่วยรถทั่วประเทศเสนอเนสที ไอซ์ รัชตามร้านค้าทั่วไปแล้ว โดยมีแผนครบวงจรทั้งโฆษณาทีวี วิทยุ สื่อโฆษณากลางแจ้ง การแจกชิมฟรี

เนสที ไอซ์ รัช มีวางจำหน่ายแล้วในหลายประเทศเช่น ฮ่องกง ไต้หวัน และจีนที่เพิ่งเปิดตัวเร็วๆนี้
ก่อนหน้านี้โค้กเคยมีบริษัทร่วมทุนกับเนสท์เล่เพื่อจับชาพร้อมดื่มเนสทีมาปรับเปลี่ยนภาพใหม่และลงเล่นในทุกช่องทางขาย โดยเฉพาะกับตลาดขวดคืนที่เข้ามาประกบกับลิปตัน ไอซ์ที ที่กวาดตลาดในช่องทางดังกล่าวมานาน แต่เมื่อตลาดชามะนาวซบเซาลง ชามะนาวเนสทีแบบขวด 8 บาทจึงถูกยกเลิกการขายและการผลิตลง
ในขณะที่เจ้าตลาดชามะนาวอย่างลิปตัน ไอซ์ทียังคงยืนหยัดที่จะทำตลาดนี้ต่อไปแต่ต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการแตกไลน์ลิปตัน เวฟเป็นเครื่องดื่มชาเขียวเพื่อไม่ให้ยอดขายของลิปตัน ไอซ์ทีต้องหดตัวลงตามแนวโน้มของตลาด

จากข้อมูลของบริษัทเอซีนีลสันระบุว่าตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม า ตลาดรวมมีมูลค่าสูงถึง 1,500 ล้านบาทในปีที่แล้ว และปีนี้คาดว่าจะสูงขึ้นถึง 3,900 ล้านบาท โดยชาเขียวเริ่มเข้ามากลืนกินตลาดน้ำอัดลมและชาพร้อมดื่มประเภทอื่น อาทิ ชามะนาว ชาผลไม้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้ยักษ์ใหญ่ค่ายน้ำอัดลมไม่ว่าจะเป็น เป็ปซี่หรือโค้กก็ต้องงัดทุกกลยุทธ์ในการทำตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเดิมกลับคืนมา ในขณะที่เสริมสุขและไทยน้ำทิพย์เองในฐานะผู้จัดหน่ายเครื่องน้ำอัดลมคงไม่ยินดีแน่ถ้าตลาดน้ำอัดลมจะต้องหดตัวลง

ผู้นำตลาดเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มในปัจจุบันยังคงเป็นยูนิฟจากค่ายยักษ์ใหญ่จากไต้หวันยูนิ-เพรสซิเดนท์ ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 42-45% โดยลดลงจากเดิมที่เคยครองส่วนแบ่งตลาดสูงกว่า 50% ในปีที่แล้ว เพราะมีคู่แข่งที่สำคัญอย่างโออิชิที่ไต่ส่วนแบ่งตลาดจาก 20% เป็น 30-40% ในปีนี้ ชาลีวังซึ่งเบียดทิปโก้ขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดที่ใกล้เคียงกันประมาณ 5-4% และน้องใหม่เซ็นชะ มีส่วนแบ่งตลาด 3% คงต้องรอดูว่าไทยน้ำทิพย์จะมีไม้เด็ดอย่างไรในการเข้ามาท้ารบเปิดศึกใหม่ในตลาดชาเขียวที่กำลังดุเดือดเช่นนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น