xs
xsm
sm
md
lg

โอบองแปง-กาโตว์เฮ้าส์-มายเบรด ปรับเกมบุกชิงแชร์เบเกอรี่คาเฟ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มีความเคลื่อนไหวในแง่ของการปรับตัวที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มธุรกิจ เบเกอรี่คาเฟ่ ซึ่งบางแบรนด์เองก็ยังคาบเกี่ยวระหว่าง ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ อย่างไรก็ตาม หากจะนำมาวิเคราะห์รวมกันแล้ว ก็ยังถือว่าอยู่ในตลาดที่มีกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกัน ในช่วงนี้จะเห็นการปรับทิศทางในการทำตลาดและลงทุนของสามรายใหญ่ อย่างเห็นได้ชัด

มายเบรด ซึ่งเป็นร้านในเครือข่ายของร้านกาแฟแบล็คแคนยอนนั้น และเป็นน้องใหม่สุด หลังจากที่ก่อเกิดขึ้นมาได้ประมาณ 3 ปีแล้วในเครือของแบล็คแคนยอน ก็มีการปรับทิศทางการรุกใหม่ โดยหลังจากนี้จะเน้นถึงการเปิดสาขาควบคู่ไปกับร้านแบล็คแคนยอนเดิม จากเดิมที่มีการเปิดแบบสแตนด์อโลน ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุน และความคล่องตัวในการขยายสาขา แต่หากมีจังหวะหรือโอกาสในการได้ทำเลดีๆแล้ว มายเบรดก็ยังคงเปิดแบบร้านเดี่ยวเหมือนกัน

ขณะนี้ มายเบรดมีสาขาที่เป็นร้านแยกเฉพาะเปิดบริการแล้วประมาณ 4 สาขาคือ สยามสแควร์ เซ็นทรัลพระรามสอง ศูนย์เฟอร์นิเจอร์อินเด็กซ์บางนา ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ส่วนร้านที่เปิดคู่กับร้านแบล็คแคนยอนนั้นก็สามารถเปิดได้แล้วกว่า 20 กว่าแห่งที่ตั้งเปิดเป็นมุมหนึ่งอยู่ในร้านแบล็คแคนยอน

นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ให้เหตุผลหลักว่า เพราะต้องการเสริมสร้างศักยภาพซึ่งกันและกัน โดยนำเอาจุดเด่นของทั้งสองแบรนด์มาไว้รวมที่เดียวกัน ซึ่งจะทำให้มีบริการทั้งด้านกาแฟ อาหาร เบเกอรี่ ขนมปัง และทำให้มายเบรดขยายตัวเร็วขึ้นด้วย

เนื่องจากว่าร้านแบล็คแคนยอนมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 100 สาขาแล้ว ทำให้โอกาสของมายเบรดในการเพิ่มเครือข่ายนั้นง่ายขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า จะมีความเหมาะสมในการเลือกสาขาแบล็คแคนยอนร้านใดเท่านั้นเองเพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของตลาดในแต่ละทำเล ซึ่งแบล็คแคนยอนเองก็มีแผนที่จะเปิดร้านเพิ่มเติมอีกทั้งปีนี้ประมาณ 15-20 สาขา โดยแบ่งเป็นร้านของบริษัทเอง 50% และร้านของแฟรนไชส์อีก 50% เท่ากัน

ที่ผ่านมาร้านมายเบรดถือว่าประสบความสำเร็จในขั้นหนึ่ง มียอดขายประมาณ 15 ล้านบาทต่อปี แต่ยังน้อยอยู่เมื่อเทียบกับรายได้ของร้านแบล็คแคนยอน ที่มีรายได้รวมในปี 2546 มากถึง 730 ล้านบาท และในปี 2547 นี้ ตั้งเป้ารายได้ เติบโต 10%

ขณะที่ร้านโอบองแปงของกลุ่มรอยัลฟู้ดกรุ๊ป ที่มีร้านดังกิ้นโดนัทด้วยั้น ก็เดินเกมใหม่ให้กับร้านโอบองแปงหลังเปิดมาครบ 7 ปี ด้วยคอนเซ็ปท์ เซลฟ์เซอร์วิส ซึ่งจะให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการบริการตัวเองสร้างประสบการณ์แห่งการรับประทานเหมือนอย่างที่ดังกิ้นโดนัทเคยทำมาแล้วเช่นการให้เลือกโดนัทและคีบเองใส่ถาด ทั้งนี้รูปแบบดังกล่าวงโอบองแปงในต่างประเทศก็ทำและประสบความสำเร็จมาแล้วที่อเมริกา และไทยเองก็จะเป็นประเทศที่สองที่จะนำรูปแบบดังกล่าวมาปรับใช้ด้วยและคาดว่าจะเห็นได้ในกลางปีหน้าโดยมีพื้นที่ของร้านประมาณ 300-400 ตารางเมตร

ทั้งนี้จะเริ่มปรับรูปแบบจากทั้งสาขาเก่าโดยมีการรีโนเวทพร้อมกับเปิดสาขาใหม่อีกด้วย โดยสาขาใหม่จะเปิดปีนี้ประมาณ 6 แห่ง เช่น เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต และจะรีโนเวทสาขาเก่าอีกหลายแห่งทยอยไป เริ่มปรับแล้วเช่น สาขาสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะมีการเปิดสาขาใหม่ประมาณ 8 สาขา สาขาใหม่สุดเปิดที่ตึกมาลีนนท์ทาวเวอร์ ใช้งบประมาณในการลงทุนถึง 4 ล้านบาท ซึ่งสาขานี้จะมีเมนูใหม่เข้ามาเปิดตัวด้วยเช่น กลุ่มขนมปัง กลุ่มสลัด

ปัจจุบันโอบองแปงมีสาขารวม 29 สาขากระจายอยู่ตามทำเลต่างๆ ทั้งศูนย์การค้า โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน เช่นเดียวกับแบรนด์อื่นๆ

อีกแบรนด์คือ กาโตว์เฮ้าส์ ซึ่งแบรนด์นี้ค่อนข้างจะโดดเด่นกว่าในเรื่องของขนมปังและเบเกอรี่ และมีสาขามากถึง 43 แห่งแล้ว เกมรุกจากนี้จะหันมาเน้นเรื่องการบริการและการสร้างแบรนด์รวมไปถึงการเพิ่มเมนูและขยายไลน์ธุรกิจ โดยอาศัยความแข็งแรก่งของแบรนด์ กาโตว์เฮ้าส์มาเป็นตัวสร้างตลาด ล่าสุดกาโตว์เฮ้าส์เตรียมที่จะเปิดตัวอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา

ขณะเดียวกันยังเน้นการสร้างแบรนด์เพิ่มมากขึ้น ด้วยการใช้กลยุทธ์การเข้าร่วมเป็นสปอนเซอร์ให้กับรายการต่างๆรวมถึงการลงโฆษณาตามสื่อสิ่งพิมพ์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม กาโตว์เฮ้าส์ ไม่ได้มุ่งหวังที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นมากมายเท่าใดนักในปีนี้ ซึ่งสาขาล่าสุดเปิดที่คาร์ฟูร์เพชรเกษมและเตรียมที่จะเปิดสาขาใหม่อีกที่เทสโก้โลตัสพระราม 1 เนื่องจากต้องการเน้นการบริรรูปแบบใหม่ๆและการรีโนเวตสาขาเดิม หลังจากที่เพิ่มบริการแคเธอริ่งไปเมื่อเกือบปีที่ผ่านมาเป็นการปรับเกมบุกของแบรนด์ใหญ่ที่ต้องการช่วงชิงกลุ่มเป้าหมายและส่วนแบ่งทางการตลาดให้มากที่สุด เพราะธุกริจนี้แข่งขันกันรุนแรงไม่น้อยเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น