ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17 ส.ค.) นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นายประภัตร โพธสุธน รักษาการเลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ ปริศนานัทกุล รองหัวหน้าพรรค ได้ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในนาม พรรคชาติไทย จำนวน 12 คน ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์ เขต 4 นายจรัส พั้วช่วย เขต 7 นายจักรัตน์ พั้วช่วย จ.ชุมพร เขต 1 นายสุชาติ แก้วนาโพธิ์ ที่ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ จ.นราธิวาส เขต 1 นายอรรถพล มามะ ที่ย้ายมาจากพรรคไทยรักไทย จ.บุรีรัมย์ เขต 5 นายปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธ์ จ.ศรีสะเกษ เขต 1 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ จ.นครราชสีมา เขต 17 นายภิรมย์ พลวิเศษ จ.อุบลราชธานี เขต 10 นายศักดิ์ชัย จินตะเวช กทม.เขต 11 น.พ.อวยชัย ชุนาวรรณ เขต 34 นายมงคล โคว้วัตนะวงษ์รักษ์ จ.นครพนม เขต 2 นายสุรจิตร พลโลก เขต 4 นางสุมาลี พูลศิริกุล ทั้งนี้นายบรรหาร กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 24 ส.ค.จะมีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอีก 7 คน
ว่าที่ผู้สมัครมหาชนแห่ซบชาติไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมทางพรรคชาติไทยมีกำหนดที่จะเปิดตัวผู้สมัครเพียง 10 คน แต่ก่อนหน้าที่จะเปิดตัวเพียงไม่เกิน 2 ชั่วโมง ปรากฎว่าผู้สมัคร ใน จ.นครพนม ทั้ง 2 คน คือ นายสุรจิตร และนางสุมาลี ซึ่งเคยเปิดตัวกับพรรคมหาชนแล้ว ได้ติดต่อ ขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคด้วย ซึ่งนายบรรหารและแกนนำของพรรคได้ตัดสินใจ เปิดตัวไปในวันเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครอีกหลายคนซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยเปิดตัวกับพรรคมหาชน มาแล้ว เช่น นายปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธุ์ และนายภิรมย์ พลวิเศษ ส่วนผู้สมัครที่จะเปิดตัวในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ประกอบด้วย นายธวัชชัย อนามพงษ์ อดีต ส.ส.จันบุรี พรรคชาตพัฒนา นางคมคาย พลบุตร อดีต ส.ส.จันทบุรี นายวิจัย วัฒนาประสิทธิ์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้จะมีเป็นผู้สมัครที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ และอดีต ส.ส.ที่สอบตก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักจากที่ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวแล้ว นายสุชาติ ได้นำ โปสเตอร์ที่มีภาพการทำกิจกรรมในพื้นที่ จ.ชุมพร และประกาศว่า “ผมขอสู้ตั้งแต่วันนี้ ผมจะปักธงพรรคชาติไทยให้ได้ที่จ.ชุมพร หลังจากที่เคยปักธงให้ประชาธิปัตย์ เป็นคนแรกในจังหวัดนี้”
นายประภัตร มั่นใจว่าผู้สมัครที่เปิดตัวในวันนี้จะได้รับการเลือกตั้งทุกคน เพราะทุกคนได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชน เป็นอย่างดี ต้องยอมรับว่าประชาชนจะเลือกตัวบุคคลมาเป็นอันดับหนึ่งรองจาก นโยบายพรรค แต่ขณะนี้คงไม่สามารถประเมินได้ว่าจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่งอย่างไรก็ตามขณะนี้พรรคชาติไทยได้ทำนโยบาย “บรรหาร 10 ประการ” เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเปิดนโยบายได้ในเดือนหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงถ้อยคำ โดยจะเน้นสัจจะความเป็นจริงที่สามารถทำได้และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน นายวิชัย ราชานนท์ (วิชัย ขัดโพธิ์) นักชกเหรียญทองแดง โอลิมปิก อดีตผู้สมัครพรรคไทยรักไทย เขต 8 จ.ขอนแก่น ได้เดินทางมายื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย โดยให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้เคยเปิดตัวกับพรรคมหาชนมาแล้ว เพราะได้รับการทาบทามจากนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรค แต่หัวหน้าทีมในจ.ขอนแก่น ได้เตรียมผู้สมัครไว้แล้ว ตนจึงตัดสินใจมาสมัครในนามพรรคชาติไทย
นายอรรคพล สรสุชาติ รอหัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวว่า แม้ร.อ.วิชัย ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทยไม่เป็นไร เพราะยังมีคนอื่นที่เสนอตัวมาอีกหลายคน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มี นักการเมืองหลายคนที่มาเขียนใบสมัครเข้าพรรคแล้วแต่ไปเปิดตัวเป็นผู้สมัครพรรคอีกพรรคหนึ่ง จากนั้นจึงร่อนใบลาออกมา ซึ่งเราก็ต้องทำใจ และจะหาคนอื่นมาแทน
นาดคนถือเงินพรรคยังเผ่น’ ‘เอาดส.ส.อีสานไล่‘สุทัศน์’ ลงระบบเขต
นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุม ส.ส.ของพรรคว่า ตนได้เสนอผู้ใหญ่ของพรรคว่าต้องทำงานหนักขึ้น โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ภาคอีสานต้องชัดเจน เพราะมี ส.ส.มาก แต่การดำเนินการของพรรรคล่าช้า หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คนที่เตรียมไว้แต่พรรคยังไม่ได้รับรองจะเสียโอกาส จึงต้องการให้ผู้ใหญ่ของพรรคทบทวนบทบาท ใครยังไม่เต็มที่ ก็ให้ลงมาช่วยกันอย่างเต็มที่ หากไม่ทำก็ควรเปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำงาน ซึ่งนายสุทัศน์ เงินหมื่น รองหัวหน้าพรรค ซึ่งดูแลภาคอีสาน ได้ชี้แจงว่า เรื่องที่พูดอาจเป็นปัญหาเรื่อง นายไพศาล จันทวารา อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออก ซึ่งเป็นปัญหาส่วนตัว แก้ไม่ได้
“ผมบอกไปว่า หากท่านสุทัศน์จะลงปาร์ตี้ลิสต์ก็ให้บอกว่าจะรับผิดชอบ จะทำงานอะไรบ้าง ไม่อย่างนั้นก็ให้หาคนรับผิดชอบเพิ่ม ซึ่งผมพร้อมจะเป็นรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคอีสาน ยืนยันจะทำงานได้เต็มที่ เพราะมีโอกาส มีตำแหน่งที่จะช่วยสร้างความเชื่อถือแก่ประชาชน ซึ่งท่านสุทัศน์บอกว่า ยินดีเปิดโอกาส พร้อมจะลงสมัคร เขต 2 จ.อำนาจเจริญ แทนนายไพศาล ส่วนพื้นที่ในปาร์ตี้ลิสต์ให้ผม ไปหาคนที่จะดูแลพื้นที่อิสานเหนือได้มาใช้ประโยชน์ตรงนี้ และยังยินดีจะสละทุกอย่างให้พรรคโตไปข้างหน้า ซึ่งผมถือว่าเป็นความเสียสละอย่างมาก”
‘ไตรรงค์-สุเทพ’พร้อมชิงส.ส.ระบบเขต
นายไชยยศกล่าวว่า ในที่ประชุม นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี บอกว่า ต้องการชี้แจงให้ที่ประชุมรับรู้เหมือนตนว่า ภาคอีสานไม่ถึงขนาดว่าจะไม่มีผู้สมัคร หรือ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีโอกาสมีผู้สมัครชนะการเลือกตั้ง แต่จะทำได้ต้องมียุทธศาสตร์ การต่อสู้ให้ดีและร่วมกันทำงาน ซึ่งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ได้ชี้แจงว่า จากการหารือกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค คณะผู้บริหารจะจัดการเกี่ยวกับการเตรียมการเลือกตั้งในภาคอีสานให้เรียบร้อยในการประชุมคณะผู้บริหาร วันที่ 24 ส.ค.
อย่างไรก็ตาม นายไตรรงค์ได้กล่าวว่า จะร่วมรับผิดชอบและพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบเขตในทุกพื้นที่ แม้กระทั่งกรุงเทพฯ ก็พร้อมจะลง ซึ่งเรื่องนี้ ผู้ใหญ่ ในพรรคหลายคนได้เคยพูดเช่นกัน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่เคยพูดในการประชุม ส.ส.พรรคเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ว่า พร้อมจะลงทุกเขต แม้ภาพลักษณ์ไม่ดีก็พร้อมลงในกรุงเทพฯ และทุกคนในพรรคต้องพร้อมที่จะลงสู้ในระบบเขต
ทรท.คึกคักอดีตส.ส.หลายพรรคร่วม
วันเดียวกันมีการประชุม ส.ส.พรรคไทยรักไทย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะมีอดีตส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติพัฒนา ที่ย้ายมาไทยรักไทยเดินทางมาประชุมและเปิดตัวต่อพรรคเป็นครั้งแรก โดยนายสมชาย สุนทรวัฒน์ ประธานส.ส.ซึ่งเป็นประธานการประชุม กล่าวต้อนรับอดีตส.ส.ทั้งหมด โดยที่ประชุมได้ปรบมือต้อนรับและมอบของขวัญให้เป็นของที่ระลึก
อดีตส.ส.ปัตตานีปชป.เผาบ้านเก่า
ด้านนายสมมารถ เจ๊ะนา อดีตส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกประทับใจกับพรรคไทยรักไทยอย่างมากเพราะขนาดมาประชุมวันแรกได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เคยให้ความสนใจ ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เลย ทำกับพวกตนเหมือนเป็นส.ส.ชั้น 2 ไม่เคยเหลียวแล สิ่งที่พวกตนไม่พอใจอย่างมากคือ เมื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ย้ายออกจากพรรค ก็บอกว่าส.ส.ขายตัว แต่เมื่อมีส.ส.พรรคอื่นย้ายมาพรรคประชาธิปัตย์ก็บอกว่า มีอุดมการณ์ เป็นฮีโร่ พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองกี่สิบปีก็ไม่เคยเปลี่ยน คือ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น”
นายสามารถ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาอย่างมากขนาด นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ อดีตเหรัญญิกพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังลาออกไปอยู่กับพรรคมหาชน หากวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่รีบแก้ปัญหาก็ต้องเจอปัญหาไม่มีใครอยู่กับพรรคแบบนี้อีกต่อไปเรื่อยๆ
“พวกผมตัดสินใจเร็ว ไม่เหมือนประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่กล้าตัดสินใจ มัวแต่แทงกั๊กขึ้นๆลงๆ สุดท้ายเลยยังไม่รู้เลยว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งลงหรือเปล่า เพราะการทำแบบนี้พรรคประชาธิปัตย์เขาก็ไม่ไว้ใจแล้ว โอกาสสอบตกสูง เพราะทุกคนย้ายมาอยู่ไทยรักไทยหมดแล้ว แต่พวกผมก็ยังบอกผู้ใหญ ในที่ประชุมพรรควันนี้ว่ายังพร้อมรับนายประเสริฐอยู่หรือเปล่า ผู้ใหญ่ก็บอกว่ายังเปิดให้ถึงเดือนหน้า หากนายประเสริฐเปลี่ยนใจพรรคก็ยังจะส่งลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่”
ว่าที่ผู้สมัครมหาชนแห่ซบชาติไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมทางพรรคชาติไทยมีกำหนดที่จะเปิดตัวผู้สมัครเพียง 10 คน แต่ก่อนหน้าที่จะเปิดตัวเพียงไม่เกิน 2 ชั่วโมง ปรากฎว่าผู้สมัคร ใน จ.นครพนม ทั้ง 2 คน คือ นายสุรจิตร และนางสุมาลี ซึ่งเคยเปิดตัวกับพรรคมหาชนแล้ว ได้ติดต่อ ขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคด้วย ซึ่งนายบรรหารและแกนนำของพรรคได้ตัดสินใจ เปิดตัวไปในวันเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครอีกหลายคนซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยเปิดตัวกับพรรคมหาชน มาแล้ว เช่น นายปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธุ์ และนายภิรมย์ พลวิเศษ ส่วนผู้สมัครที่จะเปิดตัวในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ประกอบด้วย นายธวัชชัย อนามพงษ์ อดีต ส.ส.จันบุรี พรรคชาตพัฒนา นางคมคาย พลบุตร อดีต ส.ส.จันทบุรี นายวิจัย วัฒนาประสิทธิ์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้จะมีเป็นผู้สมัครที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ และอดีต ส.ส.ที่สอบตก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักจากที่ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวแล้ว นายสุชาติ ได้นำ โปสเตอร์ที่มีภาพการทำกิจกรรมในพื้นที่ จ.ชุมพร และประกาศว่า “ผมขอสู้ตั้งแต่วันนี้ ผมจะปักธงพรรคชาติไทยให้ได้ที่จ.ชุมพร หลังจากที่เคยปักธงให้ประชาธิปัตย์ เป็นคนแรกในจังหวัดนี้”
นายประภัตร มั่นใจว่าผู้สมัครที่เปิดตัวในวันนี้จะได้รับการเลือกตั้งทุกคน เพราะทุกคนได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชน เป็นอย่างดี ต้องยอมรับว่าประชาชนจะเลือกตัวบุคคลมาเป็นอันดับหนึ่งรองจาก นโยบายพรรค แต่ขณะนี้คงไม่สามารถประเมินได้ว่าจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่งอย่างไรก็ตามขณะนี้พรรคชาติไทยได้ทำนโยบาย “บรรหาร 10 ประการ” เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเปิดนโยบายได้ในเดือนหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงถ้อยคำ โดยจะเน้นสัจจะความเป็นจริงที่สามารถทำได้และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน นายวิชัย ราชานนท์ (วิชัย ขัดโพธิ์) นักชกเหรียญทองแดง โอลิมปิก อดีตผู้สมัครพรรคไทยรักไทย เขต 8 จ.ขอนแก่น ได้เดินทางมายื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย โดยให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้เคยเปิดตัวกับพรรคมหาชนมาแล้ว เพราะได้รับการทาบทามจากนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรค แต่หัวหน้าทีมในจ.ขอนแก่น ได้เตรียมผู้สมัครไว้แล้ว ตนจึงตัดสินใจมาสมัครในนามพรรคชาติไทย
นายอรรคพล สรสุชาติ รอหัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวว่า แม้ร.อ.วิชัย ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทยไม่เป็นไร เพราะยังมีคนอื่นที่เสนอตัวมาอีกหลายคน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มี นักการเมืองหลายคนที่มาเขียนใบสมัครเข้าพรรคแล้วแต่ไปเปิดตัวเป็นผู้สมัครพรรคอีกพรรคหนึ่ง จากนั้นจึงร่อนใบลาออกมา ซึ่งเราก็ต้องทำใจ และจะหาคนอื่นมาแทน
นาดคนถือเงินพรรคยังเผ่น’ ‘เอาดส.ส.อีสานไล่‘สุทัศน์’ ลงระบบเขต
นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุม ส.ส.ของพรรคว่า ตนได้เสนอผู้ใหญ่ของพรรคว่าต้องทำงานหนักขึ้น โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ภาคอีสานต้องชัดเจน เพราะมี ส.ส.มาก แต่การดำเนินการของพรรรคล่าช้า หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คนที่เตรียมไว้แต่พรรคยังไม่ได้รับรองจะเสียโอกาส จึงต้องการให้ผู้ใหญ่ของพรรคทบทวนบทบาท ใครยังไม่เต็มที่ ก็ให้ลงมาช่วยกันอย่างเต็มที่ หากไม่ทำก็ควรเปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำงาน ซึ่งนายสุทัศน์ เงินหมื่น รองหัวหน้าพรรค ซึ่งดูแลภาคอีสาน ได้ชี้แจงว่า เรื่องที่พูดอาจเป็นปัญหาเรื่อง นายไพศาล จันทวารา อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออก ซึ่งเป็นปัญหาส่วนตัว แก้ไม่ได้
“ผมบอกไปว่า หากท่านสุทัศน์จะลงปาร์ตี้ลิสต์ก็ให้บอกว่าจะรับผิดชอบ จะทำงานอะไรบ้าง ไม่อย่างนั้นก็ให้หาคนรับผิดชอบเพิ่ม ซึ่งผมพร้อมจะเป็นรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคอีสาน ยืนยันจะทำงานได้เต็มที่ เพราะมีโอกาส มีตำแหน่งที่จะช่วยสร้างความเชื่อถือแก่ประชาชน ซึ่งท่านสุทัศน์บอกว่า ยินดีเปิดโอกาส พร้อมจะลงสมัคร เขต 2 จ.อำนาจเจริญ แทนนายไพศาล ส่วนพื้นที่ในปาร์ตี้ลิสต์ให้ผม ไปหาคนที่จะดูแลพื้นที่อิสานเหนือได้มาใช้ประโยชน์ตรงนี้ และยังยินดีจะสละทุกอย่างให้พรรคโตไปข้างหน้า ซึ่งผมถือว่าเป็นความเสียสละอย่างมาก”
‘ไตรรงค์-สุเทพ’พร้อมชิงส.ส.ระบบเขต
นายไชยยศกล่าวว่า ในที่ประชุม นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี บอกว่า ต้องการชี้แจงให้ที่ประชุมรับรู้เหมือนตนว่า ภาคอีสานไม่ถึงขนาดว่าจะไม่มีผู้สมัคร หรือ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีโอกาสมีผู้สมัครชนะการเลือกตั้ง แต่จะทำได้ต้องมียุทธศาสตร์ การต่อสู้ให้ดีและร่วมกันทำงาน ซึ่งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ได้ชี้แจงว่า จากการหารือกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค คณะผู้บริหารจะจัดการเกี่ยวกับการเตรียมการเลือกตั้งในภาคอีสานให้เรียบร้อยในการประชุมคณะผู้บริหาร วันที่ 24 ส.ค.
อย่างไรก็ตาม นายไตรรงค์ได้กล่าวว่า จะร่วมรับผิดชอบและพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบเขตในทุกพื้นที่ แม้กระทั่งกรุงเทพฯ ก็พร้อมจะลง ซึ่งเรื่องนี้ ผู้ใหญ่ ในพรรคหลายคนได้เคยพูดเช่นกัน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่เคยพูดในการประชุม ส.ส.พรรคเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ว่า พร้อมจะลงทุกเขต แม้ภาพลักษณ์ไม่ดีก็พร้อมลงในกรุงเทพฯ และทุกคนในพรรคต้องพร้อมที่จะลงสู้ในระบบเขต
ทรท.คึกคักอดีตส.ส.หลายพรรคร่วม
วันเดียวกันมีการประชุม ส.ส.พรรคไทยรักไทย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะมีอดีตส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติพัฒนา ที่ย้ายมาไทยรักไทยเดินทางมาประชุมและเปิดตัวต่อพรรคเป็นครั้งแรก โดยนายสมชาย สุนทรวัฒน์ ประธานส.ส.ซึ่งเป็นประธานการประชุม กล่าวต้อนรับอดีตส.ส.ทั้งหมด โดยที่ประชุมได้ปรบมือต้อนรับและมอบของขวัญให้เป็นของที่ระลึก
อดีตส.ส.ปัตตานีปชป.เผาบ้านเก่า
ด้านนายสมมารถ เจ๊ะนา อดีตส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกประทับใจกับพรรคไทยรักไทยอย่างมากเพราะขนาดมาประชุมวันแรกได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เคยให้ความสนใจ ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เลย ทำกับพวกตนเหมือนเป็นส.ส.ชั้น 2 ไม่เคยเหลียวแล สิ่งที่พวกตนไม่พอใจอย่างมากคือ เมื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ย้ายออกจากพรรค ก็บอกว่าส.ส.ขายตัว แต่เมื่อมีส.ส.พรรคอื่นย้ายมาพรรคประชาธิปัตย์ก็บอกว่า มีอุดมการณ์ เป็นฮีโร่ พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองกี่สิบปีก็ไม่เคยเปลี่ยน คือ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น”
นายสามารถ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาอย่างมากขนาด นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ อดีตเหรัญญิกพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังลาออกไปอยู่กับพรรคมหาชน หากวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่รีบแก้ปัญหาก็ต้องเจอปัญหาไม่มีใครอยู่กับพรรคแบบนี้อีกต่อไปเรื่อยๆ
“พวกผมตัดสินใจเร็ว ไม่เหมือนประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่กล้าตัดสินใจ มัวแต่แทงกั๊กขึ้นๆลงๆ สุดท้ายเลยยังไม่รู้เลยว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งลงหรือเปล่า เพราะการทำแบบนี้พรรคประชาธิปัตย์เขาก็ไม่ไว้ใจแล้ว โอกาสสอบตกสูง เพราะทุกคนย้ายมาอยู่ไทยรักไทยหมดแล้ว แต่พวกผมก็ยังบอกผู้ใหญ ในที่ประชุมพรรควันนี้ว่ายังพร้อมรับนายประเสริฐอยู่หรือเปล่า ผู้ใหญ่ก็บอกว่ายังเปิดให้ถึงเดือนหน้า หากนายประเสริฐเปลี่ยนใจพรรคก็ยังจะส่งลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่”