มีสัตว์ชนิดหนึ่งชนิดเดียวที่ช่วยสร้างคนไทยและประเทศไทยให้อยู่รอดมาได้อย่างมีศักดิ์ศรีในทุกวันนี้ ซึ่งสัตว์ชนิดนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของความโง่เขลาและไม่ประสีประสาและเป็นสัตว์ชั้นต่ำที่สุดสำหรับมนุษย์ เรารู้จักสัตว์ชนิดนี้กันอย่างผิวเผินในในนามของคำว่า "ควาย" หรือ "ไอ้ควาย" เพราะเป็นสัตว์ที่โง่ที่สุดในความรู้สึกของมนุษย์ที่อาศัยแรงงานของมันเลี้ยงปากเลี้ยงท้องทุกคนอยู่
ไม่รู้ว่ากี่ร้อยปีหรือเป็นพันๆ ปีมาแล้ว ที่คนไทยเกิดมาและสามารถอยู่ได้และพากันมาผงาดกันอยู่ทุกวันนี้ ถ้าหากแผ่นดินนี้ไม่มีควายสักอย่างเดียวเท่านั้น เขาก็ไม่สามารถจะเป็นผู้เป็นคนอยู่ได้ เพราะควายเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีชื่อเสียงที่สุดในการไถนาและลากแอกลากไถทำนาให้คนไทยได้กินข้าวตลอดมา โดยที่ควายพวกนี้จะไม่แสดงการคัดค้านเจ้าของมันไม่ว่าผิดหรือถูก จะไม่วิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าเจ้าของมันจะเป็นโจรเป็นขโมย หรือเป็นพวกปล้นบ้านปล้นเมืองที่ขึ้นชื่อลือชาเต็มบ้านเต็มเมืองอยู่ทุกวันนี้ก็ตาม ควายทุกตัวทุกถิ่นกำเนิดจะแสดงอาการคารวะนบนอบตามปกติไปตลอดชีวิต
และมาถึงตอนนี้และต่อไปอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พลเมืองโลกจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นข้าวไทยที่ทำกันมาได้เพราะการรับใช้ของควายนั้น มันทำให้ชาติไทยหาเงินมาซื้อมาสร้างนักการเมืองขึ้นได้อย่างมลังเมลืองอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ มีคนกล่าวว่ามันสามารถทำให้คนไทยและประเทศไทยมีรายได้จากการขายข้าวได้เงินเข้าประเทศถึงปีละเฉียดแสนล้านบาท
ในจำนวนประชากรของไทย 62 ล้านคนนี้ หลายล้านคนจะมีชีวิตอยู่มาได้เพราะการทำงานของควายทั้งสิ้น
แต่ตลอดเวลาเป็นพันๆ ปีมาแล้ว ควายไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ได้รับการสดุดีว่าเป็นสัตว์ที่มีความรู้ความเข้าใจและความขยันหมั่นเพียรและเสียสละเพื่อคนอื่นอย่างไม่มีมนุษย์หรือสัตว์ชนิดไหนที่จะทำได้เช่นนั้น นอกจากเป็นตัวแทนของความโง่เขลาและเป็นตัวแทนความเป็นควายอย่างถึงขนาดแล้ว เมื่อเทียบกับกิ้งกือไส้เดือนหรือเหี้ยและตะกวดที่เลื้อยคลานอยู่ในแผ่นดินเดียวกันแล้ว ควายก็เป็นสัตว์ประเภทเดียวที่โง่เขลาอย่างน่าสมเพชเวทนาที่สุด
เพราะฉะนั้น ถ้าจะพูดเหยียดหยามหรือสบประมาทความโง่ความงั่งของใครต่อใคร คนไทยเรานิยมเรียกคนประเภทนี้ว่า "ไอ้ควาย"
มาถึงวันนี้ เมื่อฝรั่งสามารถผลิตรถไถนาขึ้นมาได้ ควายก็หมดหน้าที่ที่จะทำนาและรับใช้ขนข้าวของชนชาติไทยต่อไป
โชคชะตาของควายไทยนับว่ามาถึงกาลวิบัติเรียบร้อยแล้ว
นับวันจะไม่มีใครรู้จัก หรือถ้ารู้จักจะทำยังไงดีกับควายต่อไป มีทางเดียวที่ชาวชลบุรียังยอมรับนับถือควายว่าเป็นสัตว์ที่มีพระคุณ ยังมีคนเลี้ยงเอาไว้ ถึงทำอะไรไม่ได้ก็เอามันไว้ วิ่งควาย ในเทศกาลอะไรก็ได้เพื่อเรียกร้องให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องเพลงคอนเสิร์ตมาร่วมชุมนุมสนุกสนานกันตามภาษาชาวบ้าน
เพราะการเกิดมาเป็นคนเขียนหนังสือ มักจะเดินทางออกบ้านนอกในภาคต่างๆ เป็นประจำ เพื่อพูดคุย เพื่อเห็นความเสื่อมความเจริญของผู้คนและบ้านเมืองเป็นประจำ เฉพาะทางด้านภาคอีสานซึ่งถือได้ว่าชีวิตคนที่นั่นเกิดมาและสามารถอยู่มาได้ทุกวันนี้เพราะมีควายเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้เกือบจะไม่มีใครที่รู้จักควายเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ทั้งผู้หญิงผู้ชาย เพราะในการทำนาปลูกข้าวนั้นได้พัฒนาจากการใช้ควายมาเป็นการใช้รถไถเงินผ่อนกัน ต้องขายควายมาซื้อรถไถหรือรถปิกอัพ โทรศัพท์มือถือกันหมด ควายมีคนซื้อเอามาฆ่ากินแล้วแต่วัตถุประสงค์ ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในชนบททั่วประเทศว่างั้นเถอะ ก็คือการไม่รู้จักควายของคนรุ่นใหม่ เพราะทุกคนพอเริ่มรู้ภาษาคนทุกคนก็ใช้ชีวิตเหมือนกันหมดคือ ทอดทิ้งชีวิตแบบเก่า มุ่งไปสมสู่บูชาชีวิตแบบใหม่ก็คือ การไปโรงเรียนไปเรียนหนังสือ
โดยไม่รู้ว่าไปเรียนทำไม?
นอกจากเรียนเพื่อให้อ่านหนังสือออก ทำให้ประเทศไทยและคนไทยได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่ประชาชนมีการศึกษา โดยที่ไม่มีใครยอมรับว่าการศึกษาในเมืองไทยนั้น เป็นการศึกษาที่ไม่ได้ทำให้คนไทยพื้นฐานทั่วไปเป็นจำนวนสิบๆ ล้านคนนั้น ไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ทำมาหากินอะไร นอกจากอ่านหนังสือออกและในไม่ช้าก็ลืมเช่นเดียวกับบรรพบุรุษรุ่นก่อนของเขาซึ่งมีไม่น้อยกว่า 30-40 ล้านคน ที่เรียนจบประถมสี่แล้วก็ไปทำนาและไม่เคยจับหนังสือที่ไหนอีก เพราะไม่มีหนังสืออ่าน ไม่มีเงินซื้อหนังสือ และที่สำคัญที่สุดก็คืออ่านหรือไม่อ่านมันก็ต้องทำไร่ทำนาและอยู่กับควายเท่านั้น เพราะการมีชีวิตอยู่เพื่อทำนาเลี้ยงควาย ซึ่งไม่มีหนังสือเล่มใดที่เรียนมาบอกว่าจะต้องทำอย่างไรและเอาอะไรมาทำอะไร เพราะการทำไร่ทำนาทำคราดทำไถ ทุกคนก็เรียนรู้ไปจากควายหรือไอ้ควายเท่านั้น และคนที่รู้หนังสือที่ว่านั้นก็พากันนอนรอความตายกันอยู่ทั่วประเทศ ไม่มีความรู้ความสามารถใดๆ นอกเหนือจากการอยู่กับไอ้ควายโดยหนังสือที่เรียนไปตั้งแต่เด็กนั้น เป็นเพียงเศษขยะที่ไร้ค่าที่สุดในการเกิดมาเป็นคนไทย
คนไทยในสมัยก่อนที่เกิดมา พอเดินได้หรือพอรู้ภาษาคนขึ้นมาจะมีชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่หรือพ่อแม่ทิ้งไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะไปทำไร่ไถนาก็จะหอบเอาลูกไปด้วย เด็กเหล่านี้จะรู้จักชีวิตสังคม ผู้คน และการทำมาหากินตลอดจนการทำกินจากสิ่งแวดล้อมที่เขาได้รับมาในระยะนั้น เมื่อยังเด็กที่ยังทำอะไรไม่ได้ก็จะต้องรอพ่อแม่ที่กำลังไถคราดและปักดำไร่นา ซึ่งเขาก็จะรู้จักและศึกษาวิธีการทำมาหากิน ในขณะเดียวกันเขาก็จะต้องยุ่งกับควายเมื่ออายุโตขึ้นมาสักสี่ห้าขวบ ดูและคิดตามเรื่อยมา จนกระทั่งถึงวันที่จะต้องไถนาที่เขาจะต้องอยู่กับควายอีก เมื่อโตเต็มที่หรือเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเขาก็ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียนอะไรที่ไหน จะทำมาหากินทุกอย่างตามที่พ่อแม่เคยทำมา
ทุกคนจะเติบโตมากับควาย อยู่กับควาย ศึกษาและเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างกับควาย ซึ่งคุณสมบัติพิเศษประการหนึ่งที่จะมีมากในควายทุกตัวจะเหมือนกันคือ การเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ยโสโอหัง ซื่อสัตย์และไม่หน้าไหว้หลังหลอก
คนไทยเป็นล้านๆ คน ซึ่งเป็นลูกชาวนาตามชนบททุกวันนี้ ในบางจังหวัดรู้แต่เนื้อควาย ไม่เคยเห็นควาย และไม่รู้ว่าเคยทำอะไรให้แก่คน เพราะคนรุ่นใหม่ทุกคนที่เป็นพวกที่เรียกกันตามรอยเท้าฝรั่งว่า รากหญ้าเป็นล้านๆ คนที่สร้างปัญหาร้อยแปดในบ้านเมืองอยู่ทุกวันนี้ จะต้องไปโรงเรียนเพื่อเรียนให้จบประถมสี่และอ่านออกเขียนได้ จากนั้นก็จะพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เรียนต่อ หรือต้องเรียนต่อไปจนกระทั่งประถมปีที่ 6 และตอนนี้ดูเหมือนจะเปิดโอกาสให้ได้เรียนกันถึงมัธยม 3 หรือมัธยมปีที่ 6 ฟรีทุกอย่าง ซึ่งเป็นการโฆษณาโกหกของนักการเมืองที่จะไม่รู้อะไร นอกจากอ่านหนังสือออก และบวกลบคูณหารเป็น จากนั้นก็หอบประกาศนียบัตรออกไปเร่ร่อนหางานทำซึ่งจบลงด้วยงานรับจ้างก่อสร้าง ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือเป็นกระเป๋ารถเมล์กัน พอได้ประทังชีวิตไปวันๆ
อยู่กันอย่างโง่ๆ อยู่กันอย่างควายๆ คิดกันอย่างควายๆ
สติปัญญาหรือประสบการณ์ใดๆ จะไม่ต้องมี
บ้านเมืองชั่วๆ และผู้ปกครองชั่วๆ ของเราจะพากันหลับหูหลับตาอย่างไม่อินังขังขอบใดๆ ควายเหล่านี้จะมีประโยชน์เล็กน้อยเมื่อตอนที่จะมีการเลือกตั้งผู้แทนควายขึ้นมากินบ้านกินเมืองรุ่นต่อไป ซึ่งจะทำกันทุก 4 ปีเท่านั้น
ที่เจริญก้าวหน้ากว่าเพื่อนก็หันเข้าไปเป็นตัวแทนจำหน่ายยาเสพติดและติดยาเสพติด เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินทองมากพอที่จะส่งไปเรียนต่อให้สูงกว่านั้น ก็จะเข้ามาซุกกันอยู่ในกรุงเทพฯ และไปเข้าโรงเรียนอาชีวะพร้อมกับฝึกกันจับคู่ฝึกฝนหาประสบการณ์ทุกอย่างที่ให้เหนือควายมากขึ้น นับตั้งแต่การตีรันฟันแทงกันเป็นฝูงกับพรรคพวกจากสถานศึกษาที่อื่น และทำมาหากินทุกอย่างที่โรงเรียนและการศึกษาที่ไม่ได้บอกสอนว่าจะต้องทำมาหากินอะไร จากนั้นก็พัฒนาความชั่วร้ายต่างๆ กันขึ้นเอง ตอนนี้ก็พัฒนากันมาถึงขนาดปล้นทุกอย่างที่พอจะมีทางเข้าคุกได้ ปล้นโทร.มือถือ หรือเด็กอายุเพียง 6 ขวบ 7 ขวบ และอะไรต่ออะไรอีกมากมายหลายอย่างที่พอให้เป็นเรื่องสนุกสนานกันได้
การทำไร่ไถนาตามที่บรรพบุรุษทำกันมาจะไม่มีใครรู้จักควายที่เคยใช้ก็จะไม่เคยสัมผัส กว่าที่จะถึงอายุ 15-16 จะรู้จักแต่โรงเรียนที่ต้องเรียนตามหลักสูตรโง่ๆ ตามความเข้าใจอย่างโง่ๆของรัฐบาลไทยทุกชุดที่ขึ้นมาปกครองประเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมควายอย่างทุกวันนี้
ไม่ว่าเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายที่แย่งกันเกิดมาทุกวันนั้น ที่มันจะมีโอกาสเป็นความที่มีบารมีและศักดิ์ศรีนั้นจะมีสักกี่คน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ตอนนี้มีคนสำคัญของประเทศได้ประกาศความเป็นควายของคนไทยซึ่งเป็นพวกที่ไม่ซื้อเสียงไม่ขายตัว ไม่รู้ว่าเป็นพรรคที่มีเงินซึ่งกำลังกว้านซื้อเสียงนักการเมืองที่กำลังแสวงหาที่เกิดหรือที่เรียกกันว่า พวกสัมภเวสีเข้ามาร่วมเป็นลูกตีนลูกมือมารวมกันเพื่อสถาปนาตนเองและพรรคพวกเป็นผู้กินบ้านกินเมืองอย่างเบ็ดเสร็จขึ้นมาเป็นเรื่องเกรียวกราว และทำให้คนทำมาหากินต้องมาเสียเวลากับความคิด ความเห็นสวะ เพราะว่าคนที่มีศักดิ์เป็นควายหรือโง่อย่างควายจะไม่มีการซื้อเสียง หรือควายที่มาเล่นการเมืองก็จะไม่มีวันซื้อเสียง หรืออาจจะตีความหมายไปได้ว่าประชาชนที่เป็นควายนั้น ก็จะไม่มีการซื้อ ว่าที่จริงแล้วไม่ว่าควายจะซื้อนั้น จะหมายถึงใครก็ไม่พ้นจากคนไทยทั้งชาติ แต่มันก็หนีไม่พ้นที่ยืนยันว่า ไม่ว่าใครจะมีบุญญาธิการพิเศษพิสดารขนาดไหนหรือยากแค้นที่ไหนที่เป็นเพียงสวะที่รอเวลาเน่าเหม็นอยู่ในขณะนี้ มันก็ควายด้วยกันทั้งนั้น จะแตกต่างกันบ้างก็เพียงมีเงินซื้อหุ้นมากพอหรือมีโอกาสขายรัฐวิสาหกิจมาซื้อหุ้นเท่านั้น แต่ตามขอบไร่ปลายนาในชนบททั่วประเทศ คนไทยส่วนใหญ่มันมีชีวิตอย่างควายของแผ่นดินทั้งนั้น
คนไทยเรานั้น ไม่ว่าในวงการเมืองทุกวงการ ถ้ามันมีความเหมาะสมพอที่จะชื้อขายกันได้ ก็จะต้องซื้อต้องขายกันทั้งนั้น
สติปัญญาและความรู้ความสามารถของคนไทยจะเก็บเอาจากการฟังเพลงจากรายการวิทยุ-ทีวีและรายการโฆษณาสินค้าเท่านั้น
เพียงแต่เอามาตรฐานการโฆษณาในรายการวิทยุมาวัดเท่านั้น เราก็จะต้องรับความรู้ความเข้าใจและเรื่องราวของบ้านเมือง หรือเรื่องราวของคนไทยไม่มีอะไรแตกต่างไปจากควายทั้งสิ้น
อะไรที่มันให้ผลประโยชน์ได้มันก็ทำ
ไม่ว่าการเมือง การปกครอง คนจับแท็กซี่ หรือเจ้าพ่อที่ยกกองทัพโจรไปปล้นตลาดกลางเมือง เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทั้งๆ ที่บ้านเมืองมีขื่อมีแปหรือมีกองทัพ
มันเหมือนกันทุกคนและเหมือนกันทุกฝ่าย
"ชุ่ย เพียบพูนด้วยเล่ห์ โง่และแสนทราม" เหมือนกันทั้งสิ้น
เอาอย่างนี้ ควายที่นำมาพูดกันนั้นคือไอ้ตัวไหน รูปร่างหน้าตามันเป็นยังไง มันเคยพูดพล่อยๆ อย่างไร และเคยโกหกกะล่อนอะไรมาบ้าง หลังเลือกตั้งไปแล้วก็จะเห็นได้ชัดและรู้จัก
ไม่รู้ว่ากี่ร้อยปีหรือเป็นพันๆ ปีมาแล้ว ที่คนไทยเกิดมาและสามารถอยู่ได้และพากันมาผงาดกันอยู่ทุกวันนี้ ถ้าหากแผ่นดินนี้ไม่มีควายสักอย่างเดียวเท่านั้น เขาก็ไม่สามารถจะเป็นผู้เป็นคนอยู่ได้ เพราะควายเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีชื่อเสียงที่สุดในการไถนาและลากแอกลากไถทำนาให้คนไทยได้กินข้าวตลอดมา โดยที่ควายพวกนี้จะไม่แสดงการคัดค้านเจ้าของมันไม่ว่าผิดหรือถูก จะไม่วิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าเจ้าของมันจะเป็นโจรเป็นขโมย หรือเป็นพวกปล้นบ้านปล้นเมืองที่ขึ้นชื่อลือชาเต็มบ้านเต็มเมืองอยู่ทุกวันนี้ก็ตาม ควายทุกตัวทุกถิ่นกำเนิดจะแสดงอาการคารวะนบนอบตามปกติไปตลอดชีวิต
และมาถึงตอนนี้และต่อไปอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พลเมืองโลกจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นข้าวไทยที่ทำกันมาได้เพราะการรับใช้ของควายนั้น มันทำให้ชาติไทยหาเงินมาซื้อมาสร้างนักการเมืองขึ้นได้อย่างมลังเมลืองอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ มีคนกล่าวว่ามันสามารถทำให้คนไทยและประเทศไทยมีรายได้จากการขายข้าวได้เงินเข้าประเทศถึงปีละเฉียดแสนล้านบาท
ในจำนวนประชากรของไทย 62 ล้านคนนี้ หลายล้านคนจะมีชีวิตอยู่มาได้เพราะการทำงานของควายทั้งสิ้น
แต่ตลอดเวลาเป็นพันๆ ปีมาแล้ว ควายไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ได้รับการสดุดีว่าเป็นสัตว์ที่มีความรู้ความเข้าใจและความขยันหมั่นเพียรและเสียสละเพื่อคนอื่นอย่างไม่มีมนุษย์หรือสัตว์ชนิดไหนที่จะทำได้เช่นนั้น นอกจากเป็นตัวแทนของความโง่เขลาและเป็นตัวแทนความเป็นควายอย่างถึงขนาดแล้ว เมื่อเทียบกับกิ้งกือไส้เดือนหรือเหี้ยและตะกวดที่เลื้อยคลานอยู่ในแผ่นดินเดียวกันแล้ว ควายก็เป็นสัตว์ประเภทเดียวที่โง่เขลาอย่างน่าสมเพชเวทนาที่สุด
เพราะฉะนั้น ถ้าจะพูดเหยียดหยามหรือสบประมาทความโง่ความงั่งของใครต่อใคร คนไทยเรานิยมเรียกคนประเภทนี้ว่า "ไอ้ควาย"
มาถึงวันนี้ เมื่อฝรั่งสามารถผลิตรถไถนาขึ้นมาได้ ควายก็หมดหน้าที่ที่จะทำนาและรับใช้ขนข้าวของชนชาติไทยต่อไป
โชคชะตาของควายไทยนับว่ามาถึงกาลวิบัติเรียบร้อยแล้ว
นับวันจะไม่มีใครรู้จัก หรือถ้ารู้จักจะทำยังไงดีกับควายต่อไป มีทางเดียวที่ชาวชลบุรียังยอมรับนับถือควายว่าเป็นสัตว์ที่มีพระคุณ ยังมีคนเลี้ยงเอาไว้ ถึงทำอะไรไม่ได้ก็เอามันไว้ วิ่งควาย ในเทศกาลอะไรก็ได้เพื่อเรียกร้องให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องเพลงคอนเสิร์ตมาร่วมชุมนุมสนุกสนานกันตามภาษาชาวบ้าน
เพราะการเกิดมาเป็นคนเขียนหนังสือ มักจะเดินทางออกบ้านนอกในภาคต่างๆ เป็นประจำ เพื่อพูดคุย เพื่อเห็นความเสื่อมความเจริญของผู้คนและบ้านเมืองเป็นประจำ เฉพาะทางด้านภาคอีสานซึ่งถือได้ว่าชีวิตคนที่นั่นเกิดมาและสามารถอยู่มาได้ทุกวันนี้เพราะมีควายเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้เกือบจะไม่มีใครที่รู้จักควายเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ทั้งผู้หญิงผู้ชาย เพราะในการทำนาปลูกข้าวนั้นได้พัฒนาจากการใช้ควายมาเป็นการใช้รถไถเงินผ่อนกัน ต้องขายควายมาซื้อรถไถหรือรถปิกอัพ โทรศัพท์มือถือกันหมด ควายมีคนซื้อเอามาฆ่ากินแล้วแต่วัตถุประสงค์ ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในชนบททั่วประเทศว่างั้นเถอะ ก็คือการไม่รู้จักควายของคนรุ่นใหม่ เพราะทุกคนพอเริ่มรู้ภาษาคนทุกคนก็ใช้ชีวิตเหมือนกันหมดคือ ทอดทิ้งชีวิตแบบเก่า มุ่งไปสมสู่บูชาชีวิตแบบใหม่ก็คือ การไปโรงเรียนไปเรียนหนังสือ
โดยไม่รู้ว่าไปเรียนทำไม?
นอกจากเรียนเพื่อให้อ่านหนังสือออก ทำให้ประเทศไทยและคนไทยได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่ประชาชนมีการศึกษา โดยที่ไม่มีใครยอมรับว่าการศึกษาในเมืองไทยนั้น เป็นการศึกษาที่ไม่ได้ทำให้คนไทยพื้นฐานทั่วไปเป็นจำนวนสิบๆ ล้านคนนั้น ไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ทำมาหากินอะไร นอกจากอ่านหนังสือออกและในไม่ช้าก็ลืมเช่นเดียวกับบรรพบุรุษรุ่นก่อนของเขาซึ่งมีไม่น้อยกว่า 30-40 ล้านคน ที่เรียนจบประถมสี่แล้วก็ไปทำนาและไม่เคยจับหนังสือที่ไหนอีก เพราะไม่มีหนังสืออ่าน ไม่มีเงินซื้อหนังสือ และที่สำคัญที่สุดก็คืออ่านหรือไม่อ่านมันก็ต้องทำไร่ทำนาและอยู่กับควายเท่านั้น เพราะการมีชีวิตอยู่เพื่อทำนาเลี้ยงควาย ซึ่งไม่มีหนังสือเล่มใดที่เรียนมาบอกว่าจะต้องทำอย่างไรและเอาอะไรมาทำอะไร เพราะการทำไร่ทำนาทำคราดทำไถ ทุกคนก็เรียนรู้ไปจากควายหรือไอ้ควายเท่านั้น และคนที่รู้หนังสือที่ว่านั้นก็พากันนอนรอความตายกันอยู่ทั่วประเทศ ไม่มีความรู้ความสามารถใดๆ นอกเหนือจากการอยู่กับไอ้ควายโดยหนังสือที่เรียนไปตั้งแต่เด็กนั้น เป็นเพียงเศษขยะที่ไร้ค่าที่สุดในการเกิดมาเป็นคนไทย
คนไทยในสมัยก่อนที่เกิดมา พอเดินได้หรือพอรู้ภาษาคนขึ้นมาจะมีชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่หรือพ่อแม่ทิ้งไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะไปทำไร่ไถนาก็จะหอบเอาลูกไปด้วย เด็กเหล่านี้จะรู้จักชีวิตสังคม ผู้คน และการทำมาหากินตลอดจนการทำกินจากสิ่งแวดล้อมที่เขาได้รับมาในระยะนั้น เมื่อยังเด็กที่ยังทำอะไรไม่ได้ก็จะต้องรอพ่อแม่ที่กำลังไถคราดและปักดำไร่นา ซึ่งเขาก็จะรู้จักและศึกษาวิธีการทำมาหากิน ในขณะเดียวกันเขาก็จะต้องยุ่งกับควายเมื่ออายุโตขึ้นมาสักสี่ห้าขวบ ดูและคิดตามเรื่อยมา จนกระทั่งถึงวันที่จะต้องไถนาที่เขาจะต้องอยู่กับควายอีก เมื่อโตเต็มที่หรือเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเขาก็ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียนอะไรที่ไหน จะทำมาหากินทุกอย่างตามที่พ่อแม่เคยทำมา
ทุกคนจะเติบโตมากับควาย อยู่กับควาย ศึกษาและเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างกับควาย ซึ่งคุณสมบัติพิเศษประการหนึ่งที่จะมีมากในควายทุกตัวจะเหมือนกันคือ การเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ยโสโอหัง ซื่อสัตย์และไม่หน้าไหว้หลังหลอก
คนไทยเป็นล้านๆ คน ซึ่งเป็นลูกชาวนาตามชนบททุกวันนี้ ในบางจังหวัดรู้แต่เนื้อควาย ไม่เคยเห็นควาย และไม่รู้ว่าเคยทำอะไรให้แก่คน เพราะคนรุ่นใหม่ทุกคนที่เป็นพวกที่เรียกกันตามรอยเท้าฝรั่งว่า รากหญ้าเป็นล้านๆ คนที่สร้างปัญหาร้อยแปดในบ้านเมืองอยู่ทุกวันนี้ จะต้องไปโรงเรียนเพื่อเรียนให้จบประถมสี่และอ่านออกเขียนได้ จากนั้นก็จะพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เรียนต่อ หรือต้องเรียนต่อไปจนกระทั่งประถมปีที่ 6 และตอนนี้ดูเหมือนจะเปิดโอกาสให้ได้เรียนกันถึงมัธยม 3 หรือมัธยมปีที่ 6 ฟรีทุกอย่าง ซึ่งเป็นการโฆษณาโกหกของนักการเมืองที่จะไม่รู้อะไร นอกจากอ่านหนังสือออก และบวกลบคูณหารเป็น จากนั้นก็หอบประกาศนียบัตรออกไปเร่ร่อนหางานทำซึ่งจบลงด้วยงานรับจ้างก่อสร้าง ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือเป็นกระเป๋ารถเมล์กัน พอได้ประทังชีวิตไปวันๆ
อยู่กันอย่างโง่ๆ อยู่กันอย่างควายๆ คิดกันอย่างควายๆ
สติปัญญาหรือประสบการณ์ใดๆ จะไม่ต้องมี
บ้านเมืองชั่วๆ และผู้ปกครองชั่วๆ ของเราจะพากันหลับหูหลับตาอย่างไม่อินังขังขอบใดๆ ควายเหล่านี้จะมีประโยชน์เล็กน้อยเมื่อตอนที่จะมีการเลือกตั้งผู้แทนควายขึ้นมากินบ้านกินเมืองรุ่นต่อไป ซึ่งจะทำกันทุก 4 ปีเท่านั้น
ที่เจริญก้าวหน้ากว่าเพื่อนก็หันเข้าไปเป็นตัวแทนจำหน่ายยาเสพติดและติดยาเสพติด เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินทองมากพอที่จะส่งไปเรียนต่อให้สูงกว่านั้น ก็จะเข้ามาซุกกันอยู่ในกรุงเทพฯ และไปเข้าโรงเรียนอาชีวะพร้อมกับฝึกกันจับคู่ฝึกฝนหาประสบการณ์ทุกอย่างที่ให้เหนือควายมากขึ้น นับตั้งแต่การตีรันฟันแทงกันเป็นฝูงกับพรรคพวกจากสถานศึกษาที่อื่น และทำมาหากินทุกอย่างที่โรงเรียนและการศึกษาที่ไม่ได้บอกสอนว่าจะต้องทำมาหากินอะไร จากนั้นก็พัฒนาความชั่วร้ายต่างๆ กันขึ้นเอง ตอนนี้ก็พัฒนากันมาถึงขนาดปล้นทุกอย่างที่พอจะมีทางเข้าคุกได้ ปล้นโทร.มือถือ หรือเด็กอายุเพียง 6 ขวบ 7 ขวบ และอะไรต่ออะไรอีกมากมายหลายอย่างที่พอให้เป็นเรื่องสนุกสนานกันได้
การทำไร่ไถนาตามที่บรรพบุรุษทำกันมาจะไม่มีใครรู้จักควายที่เคยใช้ก็จะไม่เคยสัมผัส กว่าที่จะถึงอายุ 15-16 จะรู้จักแต่โรงเรียนที่ต้องเรียนตามหลักสูตรโง่ๆ ตามความเข้าใจอย่างโง่ๆของรัฐบาลไทยทุกชุดที่ขึ้นมาปกครองประเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมควายอย่างทุกวันนี้
ไม่ว่าเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายที่แย่งกันเกิดมาทุกวันนั้น ที่มันจะมีโอกาสเป็นความที่มีบารมีและศักดิ์ศรีนั้นจะมีสักกี่คน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ตอนนี้มีคนสำคัญของประเทศได้ประกาศความเป็นควายของคนไทยซึ่งเป็นพวกที่ไม่ซื้อเสียงไม่ขายตัว ไม่รู้ว่าเป็นพรรคที่มีเงินซึ่งกำลังกว้านซื้อเสียงนักการเมืองที่กำลังแสวงหาที่เกิดหรือที่เรียกกันว่า พวกสัมภเวสีเข้ามาร่วมเป็นลูกตีนลูกมือมารวมกันเพื่อสถาปนาตนเองและพรรคพวกเป็นผู้กินบ้านกินเมืองอย่างเบ็ดเสร็จขึ้นมาเป็นเรื่องเกรียวกราว และทำให้คนทำมาหากินต้องมาเสียเวลากับความคิด ความเห็นสวะ เพราะว่าคนที่มีศักดิ์เป็นควายหรือโง่อย่างควายจะไม่มีการซื้อเสียง หรือควายที่มาเล่นการเมืองก็จะไม่มีวันซื้อเสียง หรืออาจจะตีความหมายไปได้ว่าประชาชนที่เป็นควายนั้น ก็จะไม่มีการซื้อ ว่าที่จริงแล้วไม่ว่าควายจะซื้อนั้น จะหมายถึงใครก็ไม่พ้นจากคนไทยทั้งชาติ แต่มันก็หนีไม่พ้นที่ยืนยันว่า ไม่ว่าใครจะมีบุญญาธิการพิเศษพิสดารขนาดไหนหรือยากแค้นที่ไหนที่เป็นเพียงสวะที่รอเวลาเน่าเหม็นอยู่ในขณะนี้ มันก็ควายด้วยกันทั้งนั้น จะแตกต่างกันบ้างก็เพียงมีเงินซื้อหุ้นมากพอหรือมีโอกาสขายรัฐวิสาหกิจมาซื้อหุ้นเท่านั้น แต่ตามขอบไร่ปลายนาในชนบททั่วประเทศ คนไทยส่วนใหญ่มันมีชีวิตอย่างควายของแผ่นดินทั้งนั้น
คนไทยเรานั้น ไม่ว่าในวงการเมืองทุกวงการ ถ้ามันมีความเหมาะสมพอที่จะชื้อขายกันได้ ก็จะต้องซื้อต้องขายกันทั้งนั้น
สติปัญญาและความรู้ความสามารถของคนไทยจะเก็บเอาจากการฟังเพลงจากรายการวิทยุ-ทีวีและรายการโฆษณาสินค้าเท่านั้น
เพียงแต่เอามาตรฐานการโฆษณาในรายการวิทยุมาวัดเท่านั้น เราก็จะต้องรับความรู้ความเข้าใจและเรื่องราวของบ้านเมือง หรือเรื่องราวของคนไทยไม่มีอะไรแตกต่างไปจากควายทั้งสิ้น
อะไรที่มันให้ผลประโยชน์ได้มันก็ทำ
ไม่ว่าการเมือง การปกครอง คนจับแท็กซี่ หรือเจ้าพ่อที่ยกกองทัพโจรไปปล้นตลาดกลางเมือง เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทั้งๆ ที่บ้านเมืองมีขื่อมีแปหรือมีกองทัพ
มันเหมือนกันทุกคนและเหมือนกันทุกฝ่าย
"ชุ่ย เพียบพูนด้วยเล่ห์ โง่และแสนทราม" เหมือนกันทั้งสิ้น
เอาอย่างนี้ ควายที่นำมาพูดกันนั้นคือไอ้ตัวไหน รูปร่างหน้าตามันเป็นยังไง มันเคยพูดพล่อยๆ อย่างไร และเคยโกหกกะล่อนอะไรมาบ้าง หลังเลือกตั้งไปแล้วก็จะเห็นได้ชัดและรู้จัก