พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พระ-นักวิชาการ–นักการเมือง ออกมาวิจารณ์ผลงานรัฐบาลทักษิณในช่วง 4 ปี ว่า ก็ฟัง แต่บางอย่างก็มองกันในแง่ร้ายเกินไป 4 ปีที่ทำมาเศรษฐกิจของประเทศก็ดีขึ้น หนี้ของประเทศลดลง มีเงินทุนสำรองเพิ่มมากขึ้น ประชาชนมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น กลับไม่มองในจุดนี้ แต่ไปมองอะไรก็ไม่รู้ คือคนมันจะหาเรื่อง ก็หาเรื่องได้ทุกวัน
“ผมไม่ได้มาอยู่ที่นี่ตลอดชีวิต รับรองผมไม่ตายคาเก้าอี้นายกฯแน่ ไม่ต้องห่วง ผมทำให้ประเทศเรียบร้อย หากมีใครทำได้กว่าผม ผมยินดีต้อนรับ วันพรุ่งนี้ก็ได้ ถ้ามีใครบอกว่าจะบ้านเมืองได้ดีกว่าผม และผมเชื่อว่าทำได้จริงๆมุ่งมั่นต่อบ้านเมืองจริงๆ เชิญเลยถ้าทำได้จริง ผมจะได้ไปใช้ชีวิตสบายๆ ของผมบ้าง เพราะมันไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะมาแสวงหาอะไร ต่อมิอะไรในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่า ผมจะทำงานให้ดีที่สุด หากมีใครคิดว่าทำได้ผม ก็พร้อมจะสนับสนุน”พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
ส่วนเรื่อง ส.ส.ย้ายพรรคนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า มันเป็นความกลัว คนเขากลัว ซึ่งไม่ควรจะห่วงอะไร ถ้าการเมืองเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน
“เรื่องที่ ส.ส.ย้ายพรรค คนที่ไปจินตนาการว่าเป็นการซื้อๆๆๆ ควายยังไม่ซื้อเลย แล้วคนจะไปซื้อทำไม มันบ้า คนเขาอยากมาก็ให้มา สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ คนเขาก็อยากอยู่กับผู้ชนะ เป็นเรื่องธรรมดา ใครเขาจะอยากอยู่กับผู้แพ้ มันเป็นนิสัยของคนทั่วไป เราคิดว่าประชาชนรับเขาได้เราก็รับ ไม่มีปัญหา เราได้มีการหยั่งเสียงดูแล้ว ว่าประชาชนรับเราก็รับ ไม่ใช่เอะอะ อะไร ก็มาว่าซื้อ ๆๆ เสียง พวกนี้ชอบจินตนาการไปเอง”นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนที่เกรงว่า ถ้ารัฐบาลมี 400 เสียง ทำให้กระบวนการตรวจสอบนายกฯทำได้ยากนั้นก็ไม่จริง กระบวนการตรวจสอบมีเยอะแยะ เมื่อก่อนรัฐธรรมนูญยังไม่ค่อยมีการตรวจสอบเลย ใครจะจับมือฮั้วกันในสภาก็ได้ แบ่งผลประโยชน์กันในพรรคร่วมรัฐบาล พรรคนั้นเอาเรื่องนี้ พรรคนี้เอาเรื่องนั้นไป ไม่มีคนรู้ แต่วันนี้เรามีระบบตรวจสอบที่ดีที่สุด ควรมองโลกในแง่ดีบ้าง
"ดูอย่างประเทศสิงคโปร์ เขามีฝ่ายค้านเพียง 2 คน เท่านั้น แล้วประเทศเขาล่มจมหรือเปล่า มีแต่เจริญเอา เจริญเอา มันไม่ได้เกี่ยวเลย ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์เก่งจะตาย มีแค่ 2 คน นั่งในสภาสามารถนับองค์ประชุมได้ตลอดเวลา จนที่ประชุมรวน ไม่สามารถประชุมได้ เขาทำได้หมด ไม่มีปัญหาเรื่องการตรวจสอบเพราะกติกามันมีอยู่ และองค์กรตรวจสอบมีอยู่ไม่รู้กี่องค์กร รวมทั้งสื่อมวลชนก็ตรวจสอบด้วย"นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับสถานการณ์การย้ายพรรคของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปพรรคไทยรักไทยนั้น เมื่อวานนี้ นายสุชาติ แก้วนาโพธิ์ ส.ส.เขต 2 จ.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เพื่อไปสมัครเข้าพรรคไทยรักไทย ทั้งนี้ เนื่องจาก นายสุชาติ ขอย้ายพื้นที่ในการลงสมัคร ส.ส.จากเขต 2 ไปเขต 1 ซึ่งเป็นเขตของ นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีมติส่งผู้สมัครคนใหม่ลงแทนนายสุชาติใน เขต 2 แล้ว ขณะเดียวกันในเขต 1 พรรคได้มีมติส่ง นายศิริศักดิ์ ซึ่งเป็นส.ส.เดิมลง นาย“สุชาติ"จึงตัดสินใจลาออกจากปชป.
ขณะที่ นายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และนายวัยโรจน์ พิพิธภักดี ส.ส.ปัตตานี เขต 1พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เข้าพบกับแกนนำพรรคไทยรักไทยที่ที่ทำการพรรค เพื่อหารือถึงความชัดเจนการย้ายพรรคของส.ส.ประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง 5 คนโดยยืนยันที่จะมาเข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทยแน่นอน แต่ที่ไม่สามารถมาเปิดตัวในวันนี้ได้เพราะทั้งหมดยังไมได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการ จึงขอเวลาในช่วง1-2 วันนี้ ไปดำเนินการเรื่องเอกสารให้เสร็จก่อน
ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาลแกนนำพรรคไทยรักไทยที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าจะมีส.ส.ภาคใต้ของประชาธิปัตย์ อีก 9-10 คน เตรียมจะย้ายเข้ามาอยู่กับพรรคไทยรักไทย ว่า ล่าสุดยังไม่มีการติดต่อมาแต่พรรคไทยรักไทย ก็ยังคงเปิดกว้างที่จะรับส.ส.ที่อยากจะเข้ามาร่วมอุดมการณ์เสมอ และผู้ที่เข้ามา ก็อาจจะมีการเจรจาผ่านแกนนำของพรรคคนอื่นที่ไม่ใช่ตน
**ชาติไทยเปิดประตูรับ“คมคาย”
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณี นางคมคาย พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ จะย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทย ว่า พรรคชาติไทยกำลังรอการตัดสินใจของนางคมคายอยู่ หากสนใจจะมาอยู่จริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สำหรับพรรคชาติไทยแล้วไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีคนมาสมัครมาทุกวัน ซึ่งพรรคก็ต้องมีการสกรีนคนก่อนที่จะมีการเปิดตัว
ด้าน นายประวัฒน์ อุตตะโมต ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี(ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์)และอดีตส.ส.จันทบุรี กล่าวว่า โอกาสที่นางคมคาย จะย้ายมาไทยรักไทยนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะนายสรอรรถ กลิ่นประทุม รองหัวหน้าพรรค ที่รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคกลาง เคยพูดไว้แล้วว่า จะไม่รับนางคมคาย เด็ดขาดเนื่องจากที่ผ่านมา นายอลงกรณ์ พลบุตร สามีนางคมคาย ได้อภิปราย และออกมาโจมตีรัฐบาลอย่างหนัก โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีและครอบครัว จึงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่พรรคจะรับนางคมคาย
**ปชป.เร่งสร้างมั่นใจให้กับส.ส.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักไทยจำนวนมาก ว่า เป็นเรื่องที่พรรคต้องกลับมาทบทวน และต้องเร่งให้ความมั่นใจกับส.ส.แต่แนวทางของพรรคจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะพรรคยังยึดพรรคในสิ่งที่คิดและปฏิบัติ อย่างไรก็ตามวิธีการดูดส.ส.ดังกล่าวแม้จะมีส.ส.ปัจจุบันเข้าไปร่วมด้วยจำนวนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าวิธีนี้จะได้ผล เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.เก่าจะสอบตก 40% เพียงแต่การกระทำของพรรคไทยรักไทยในการดูดส.ส.เข้าพรรค และยุบรวมเพื่อให้ได้เสียงมากที่สุดเป็นวิธีการที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมจะต้องตระหนักและตรวจสอบ รวมทั้งต้องคิดว่าจะยอมรับแนวทางการเมืองเช่นนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเรียกประชุมกรรมการบริหารชุดใหญ่เพื่อแก้ปัญหาส.ส.ย้ายพรรคในวันนี้
**"ประทีป"ประกาศฟื้นชพน.
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รองเลขาธิการพรรคชาติพัฒนา น้องชายนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค กล่าวถึงการยุบพรรคชาติพัฒนาไปรวมกับพรรคไทยรักไทย ว่า ต้องรอมติการประชุมพรรคชาติพัฒนาอย่างเป็นทางการในวันนี้ (10ส.ค.)อย่างไรก็ตาม เมื่อมติพรรคให้ยุบไปรวมกับพรรคไทยรักไทย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องบังคับให้ส.ส.ไปสังกัดด้วย ทั้งนี้ จุดยืนของตนยังรักพรรคชาติพัฒนาไม่เปลี่ยนแปลง
นายเทวัญ กล่าวด้วยว่า อาจจะมีสมาชิกพรรคบางคนที่จะไม่ไป เช่น พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น ส่วนนายธวัชชัย อนามพงศ์ ส.ส.จันทบุรี นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะไปพรรคไทยรักไทยหรือไปอยู่พรรคชาติไทย
ด้านนายประทีป กรีฑาเวช ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมใหญ่มีมติยุบพรรค ตนพร้อมด้วย พ.อ.วินัย สมพงษ์ จะไปยื่นขอจดทะเบียนพรรคชาติพัฒนาต่อกกต.เพื่อรักษาพรรคไว้ตามเจตนารมณ์ ของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ซึ่งการดำเนินการที่ขัดกับมติพรรคในครั้งนี้ เชื่อว่าจะไม่ทำให้นายสุวัจน์ ลำบากใจ
“ผมพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้า ในนามพรรคชาติพัฒนาด้วย และเชื่อว่าจะรักษาเก้าอี้พรรคไว้ได้ เพราะชาวบ้านในพื้นที่ยังเชื่อมั่นในตัวบุคคล"นายประทีป กล่าว
**ทรท.ไร้ปัญหามีที่ปรึกษาฯอย่าง“เสนาะ”
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ระบุว่าหากพรรคชาติพัฒนายุบรวมกับพรรคไทยรักไทย จะก่อให้เกิดปัญหาการแบ่งพรรคแบ่งพวกว่า ไม่มีปัญหา มีนายเสนาะดูแลอยู่ ไม่มีปัญหา
“โธ่ ผมมีประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ชื่อเสนาะ เทียนทอง จะไปห่วงอะไร คุณเสนาะ ดูแลเรียบร้อยทุกอย่างไม่มีปัญหา เว้นแต่คุณเสนาะไม่ดูแล ถึงจะไม่เรียบร้อย มนุษย์เรามีบ่นบ้างเป็นธรรมดา ผม55 แล้วยังบ่นเลย 70จะไม่บ่นได้อย่างไร”
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องที่มีข่าวว่า จะมีการเลื่อนสมณะศักดิ์ให้ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ว่า เป็นเรื่องพิเศษ เนื่องในวโรกาสครบรอบ 72 พรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะมีการพระราชทานสมณะศักดิ์ เป็นวาระพิเศษ 73 รูป อันนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ขออย่าเอาเรื่องพระมาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของมหาเถร กับสำนักพระราชวัง ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่รับสนองพระบรมราชโองการเท่านั้น
**จวกยับใช้"หลวงพ่อคูณ"เป็นเครื่องมือ
นายไสว พราหมณี ส.ว.นครราชสีมา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนโคราชเห็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสุวัจน์ ใช้พิธีเปิดอนุสรณ์สถานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ มาเป็นพีธีกรรมในการยุบรวมพรรคชาติพัฒนา แล้วเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่ทั้งสองคนให้หลวงพ่อคูณ มาพูดต่อคนโคราชเพื่อให้ชาติพัฒนาไปยุบรวมกับไทยรักไทย ยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควรกระทำมาก เพราะก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยออกมาแสดงความเห็นว่าหากพระสงฆ์จะพูดเรื่องการเมือง ก็ให้สึกมาลงส.ส.แต่ครั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณกลับนำพระมาพูดเรื่องการเมือง นำการเมืองเข้าไปเกี่ยวกับวงการพระสงฆ์ถือเป็นการฉวยโอกาสทางการเมืองซึ่งคนโคราชรับไม่ได้
"หากสุวัจน์ กับ ทักษิณ ต้องการให้ยุบรวมพรรคกันก็ตัดสินใจไปเลยไม่ใช่มาอาศัยพระกับอนุสรณ์น้าชาติ องค์หนึ่งก็เป็นพระ ส่วนอีกหนึ่งก็เสียชีวิตไปแล้วจะมารับรู้เรื่องการเมือง การยุบพรรคได้อย่างไรแล้วอย่ามาอ้างว่าเป็นมติคนโคราช เพราะนี่มันแค่การตัดสินใจของคนสองคนคือทักษิณกับสุวัจน์ วันนี้หากสุวัจน์ไปจริงก็ขอให้กำลังใจคนที่เหลืออยู่โดยเฉพาะนายประทีป กรีฑาเวช ส.ส.โคราช ควรจะรักษาพรรคไว้ โดยเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาต่อจากนายสุวัจน์ เชื่อว่าจะได้รับเสียงจากประชาชนโคราชอย่างล้มหลามที่รักษาพรรคไว้"นายไสว ระบุ
รายงานข่าวจากพรรคชาติพัฒนาแจ้งว่า นายสุวัจน์ เตรียมใช้โอกาสฤกษ์งามยามดี คือวันที่ 17 ส.ค.เป็นวันตัดสินอนาคตการเมืองของพรรคชาติพัฒนา เพราะนายสุวัจน์และพรรคชาติพัฒนานิยมใช้เลข 7 เป็นเครื่องหมายนำโชคทางการเมือง เห็นได้จากการเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ที่ใช้วันที่ 7 ส.ค.เป็นวันจัดงาน และใช้เวลาในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 7 ปี บนเนื้อที่ 37ไร่ โดยใช้งบการก่อสร้าง 17 ล้านบาท และเลขทะเบียนของมอเตอร์ไซด์ช็อปเปอร์ ของ พล.อ.ชาติชาย ก็มีเลขทะเบียนน 7777 โดยพลเอกชาติชาย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านายสุวัจน์ ได้เตรียมให้นายประทีป กรีฑาเวช ส.ส.นครราชสีมาไปยื่นจดทะเบียนเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เพื่อสืบทอดพรรคชาติพัฒนาต่อไป
"มหาชน"เปิดตัว 49ผู้สมัคร
วานนี้ (9ส.ค.)พรรคมหาชนได้เปิดตัวผู้สมัครส.ส.จำนวน 49 คน ที่บ้านสนามบินน้ำ โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคมหาชน กล่าวต้อนรับผู้สมัครว่า จากการเดินสายในภาคอีสานได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก แต่จะได้รับการเลือกตั้งหรือไม่ อยู่ที่ความตั้งใจแน่วแน่ในการเสนอตัวต่อประชาชนของผู้สมัคร
สำหรับผู้สมัครที่มีการเปิดตัวในรอบแรกนี้ มีบุคคลที่น่าสนใจอาทิ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีตส.ส.พิจิตร พรรคประชาธิปัตย์ นายณรงค์เลิศ สุรพล อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคกิจสังคม และมีกลุ่มอดีต ส.ส.อีสาน ซึ่งส่วนใหญ่จะย้ายมาจากพรรคความหวังใหม่เดิม เช่น กลุ่มผู้สมัครอุบลราชธานี มีนายวิทยา ขันอาสา นายปัญญา จินตะเวช นายตุ่น จินตะเวช และนายวิทยา นันทุปา ซึ่งย้ายมาจากพรรคราษฎร
นายสุเมธ พรหมพันห่าว จะลงสมัครส.ส.หนองคาย เขต 6 นายกำชัย เรืองกาญจนเศรษฐ ลงสมัครจ.สุรินทร์ เขต 6 ส่วนภาคเหนือ นายไพโรจน์ ตันบรรจง จะลงสมัครที่ จ.พะเยา เขต 3 กลุ่มลูกของนายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ จะยกทีมลงสมัครใน จ.ลำปาง นายปิยะชนก ลิมปะพันธุ์ บุตรชายนายประพาส ลิมปะพันธุ์ ผอ.พรรคชาติพัฒนา จะลงที่ จ.สุโขทัย เขต 4
ส่วนภาคใต้ ทางพรรคได้ประกาศผู้สมัครทั้งหมด 3 คน คือ นายสมมติ เบญญาลักษณ์ ปัตตานี เขต 1 นายวาร์มูอำหมัด บินแวดาโอ๊ะ นราธิวาส เขต 1และ นายสุชาติ รักใหม่ พัทลุง เขต 2
นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครกลุ่มอื่นที่น่าสนใจ อาทิ นายประพัทธพงศ์ พราหมณี บุตรชายนายไสว พราหมณี ส.ว.นครราชสีมา ซึ่งจะลงสมัครในเขต 1 นครราชสีมา กลุ่มผู้สมัครส.ส.สมุทรปราการ เช่น นางนันทิดา แก้วบัวสาย นักร้องชื่อดังและลูกสะใภ้นายวัฒนา อัศวเหม ที่ปรึกษาพรรคมหาชน และ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม อดีตนายกอบจ.สมุทรปราการ และหลานชายนายวัฒนา นอกจากนี้ ร.อ.วิชัย ราชานนท์ อดีตนักชกโอลิมปิก เหรียญทองแดง ในปีเดียวกับ สมรักษ์ คำสิงห์ ก็สนใจจะลงสมัครส.ส.ขอนแก่น เขต 8 ในนามพรรคมหาชนด้วย
.
“ผมไม่ได้มาอยู่ที่นี่ตลอดชีวิต รับรองผมไม่ตายคาเก้าอี้นายกฯแน่ ไม่ต้องห่วง ผมทำให้ประเทศเรียบร้อย หากมีใครทำได้กว่าผม ผมยินดีต้อนรับ วันพรุ่งนี้ก็ได้ ถ้ามีใครบอกว่าจะบ้านเมืองได้ดีกว่าผม และผมเชื่อว่าทำได้จริงๆมุ่งมั่นต่อบ้านเมืองจริงๆ เชิญเลยถ้าทำได้จริง ผมจะได้ไปใช้ชีวิตสบายๆ ของผมบ้าง เพราะมันไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะมาแสวงหาอะไร ต่อมิอะไรในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่า ผมจะทำงานให้ดีที่สุด หากมีใครคิดว่าทำได้ผม ก็พร้อมจะสนับสนุน”พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
ส่วนเรื่อง ส.ส.ย้ายพรรคนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า มันเป็นความกลัว คนเขากลัว ซึ่งไม่ควรจะห่วงอะไร ถ้าการเมืองเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน
“เรื่องที่ ส.ส.ย้ายพรรค คนที่ไปจินตนาการว่าเป็นการซื้อๆๆๆ ควายยังไม่ซื้อเลย แล้วคนจะไปซื้อทำไม มันบ้า คนเขาอยากมาก็ให้มา สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ คนเขาก็อยากอยู่กับผู้ชนะ เป็นเรื่องธรรมดา ใครเขาจะอยากอยู่กับผู้แพ้ มันเป็นนิสัยของคนทั่วไป เราคิดว่าประชาชนรับเขาได้เราก็รับ ไม่มีปัญหา เราได้มีการหยั่งเสียงดูแล้ว ว่าประชาชนรับเราก็รับ ไม่ใช่เอะอะ อะไร ก็มาว่าซื้อ ๆๆ เสียง พวกนี้ชอบจินตนาการไปเอง”นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนที่เกรงว่า ถ้ารัฐบาลมี 400 เสียง ทำให้กระบวนการตรวจสอบนายกฯทำได้ยากนั้นก็ไม่จริง กระบวนการตรวจสอบมีเยอะแยะ เมื่อก่อนรัฐธรรมนูญยังไม่ค่อยมีการตรวจสอบเลย ใครจะจับมือฮั้วกันในสภาก็ได้ แบ่งผลประโยชน์กันในพรรคร่วมรัฐบาล พรรคนั้นเอาเรื่องนี้ พรรคนี้เอาเรื่องนั้นไป ไม่มีคนรู้ แต่วันนี้เรามีระบบตรวจสอบที่ดีที่สุด ควรมองโลกในแง่ดีบ้าง
"ดูอย่างประเทศสิงคโปร์ เขามีฝ่ายค้านเพียง 2 คน เท่านั้น แล้วประเทศเขาล่มจมหรือเปล่า มีแต่เจริญเอา เจริญเอา มันไม่ได้เกี่ยวเลย ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์เก่งจะตาย มีแค่ 2 คน นั่งในสภาสามารถนับองค์ประชุมได้ตลอดเวลา จนที่ประชุมรวน ไม่สามารถประชุมได้ เขาทำได้หมด ไม่มีปัญหาเรื่องการตรวจสอบเพราะกติกามันมีอยู่ และองค์กรตรวจสอบมีอยู่ไม่รู้กี่องค์กร รวมทั้งสื่อมวลชนก็ตรวจสอบด้วย"นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับสถานการณ์การย้ายพรรคของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปพรรคไทยรักไทยนั้น เมื่อวานนี้ นายสุชาติ แก้วนาโพธิ์ ส.ส.เขต 2 จ.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เพื่อไปสมัครเข้าพรรคไทยรักไทย ทั้งนี้ เนื่องจาก นายสุชาติ ขอย้ายพื้นที่ในการลงสมัคร ส.ส.จากเขต 2 ไปเขต 1 ซึ่งเป็นเขตของ นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีมติส่งผู้สมัครคนใหม่ลงแทนนายสุชาติใน เขต 2 แล้ว ขณะเดียวกันในเขต 1 พรรคได้มีมติส่ง นายศิริศักดิ์ ซึ่งเป็นส.ส.เดิมลง นาย“สุชาติ"จึงตัดสินใจลาออกจากปชป.
ขณะที่ นายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และนายวัยโรจน์ พิพิธภักดี ส.ส.ปัตตานี เขต 1พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เข้าพบกับแกนนำพรรคไทยรักไทยที่ที่ทำการพรรค เพื่อหารือถึงความชัดเจนการย้ายพรรคของส.ส.ประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง 5 คนโดยยืนยันที่จะมาเข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทยแน่นอน แต่ที่ไม่สามารถมาเปิดตัวในวันนี้ได้เพราะทั้งหมดยังไมได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการ จึงขอเวลาในช่วง1-2 วันนี้ ไปดำเนินการเรื่องเอกสารให้เสร็จก่อน
ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาลแกนนำพรรคไทยรักไทยที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าจะมีส.ส.ภาคใต้ของประชาธิปัตย์ อีก 9-10 คน เตรียมจะย้ายเข้ามาอยู่กับพรรคไทยรักไทย ว่า ล่าสุดยังไม่มีการติดต่อมาแต่พรรคไทยรักไทย ก็ยังคงเปิดกว้างที่จะรับส.ส.ที่อยากจะเข้ามาร่วมอุดมการณ์เสมอ และผู้ที่เข้ามา ก็อาจจะมีการเจรจาผ่านแกนนำของพรรคคนอื่นที่ไม่ใช่ตน
**ชาติไทยเปิดประตูรับ“คมคาย”
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณี นางคมคาย พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ จะย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทย ว่า พรรคชาติไทยกำลังรอการตัดสินใจของนางคมคายอยู่ หากสนใจจะมาอยู่จริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สำหรับพรรคชาติไทยแล้วไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีคนมาสมัครมาทุกวัน ซึ่งพรรคก็ต้องมีการสกรีนคนก่อนที่จะมีการเปิดตัว
ด้าน นายประวัฒน์ อุตตะโมต ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี(ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์)และอดีตส.ส.จันทบุรี กล่าวว่า โอกาสที่นางคมคาย จะย้ายมาไทยรักไทยนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะนายสรอรรถ กลิ่นประทุม รองหัวหน้าพรรค ที่รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคกลาง เคยพูดไว้แล้วว่า จะไม่รับนางคมคาย เด็ดขาดเนื่องจากที่ผ่านมา นายอลงกรณ์ พลบุตร สามีนางคมคาย ได้อภิปราย และออกมาโจมตีรัฐบาลอย่างหนัก โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีและครอบครัว จึงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่พรรคจะรับนางคมคาย
**ปชป.เร่งสร้างมั่นใจให้กับส.ส.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักไทยจำนวนมาก ว่า เป็นเรื่องที่พรรคต้องกลับมาทบทวน และต้องเร่งให้ความมั่นใจกับส.ส.แต่แนวทางของพรรคจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะพรรคยังยึดพรรคในสิ่งที่คิดและปฏิบัติ อย่างไรก็ตามวิธีการดูดส.ส.ดังกล่าวแม้จะมีส.ส.ปัจจุบันเข้าไปร่วมด้วยจำนวนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าวิธีนี้จะได้ผล เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.เก่าจะสอบตก 40% เพียงแต่การกระทำของพรรคไทยรักไทยในการดูดส.ส.เข้าพรรค และยุบรวมเพื่อให้ได้เสียงมากที่สุดเป็นวิธีการที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมจะต้องตระหนักและตรวจสอบ รวมทั้งต้องคิดว่าจะยอมรับแนวทางการเมืองเช่นนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเรียกประชุมกรรมการบริหารชุดใหญ่เพื่อแก้ปัญหาส.ส.ย้ายพรรคในวันนี้
**"ประทีป"ประกาศฟื้นชพน.
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รองเลขาธิการพรรคชาติพัฒนา น้องชายนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค กล่าวถึงการยุบพรรคชาติพัฒนาไปรวมกับพรรคไทยรักไทย ว่า ต้องรอมติการประชุมพรรคชาติพัฒนาอย่างเป็นทางการในวันนี้ (10ส.ค.)อย่างไรก็ตาม เมื่อมติพรรคให้ยุบไปรวมกับพรรคไทยรักไทย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องบังคับให้ส.ส.ไปสังกัดด้วย ทั้งนี้ จุดยืนของตนยังรักพรรคชาติพัฒนาไม่เปลี่ยนแปลง
นายเทวัญ กล่าวด้วยว่า อาจจะมีสมาชิกพรรคบางคนที่จะไม่ไป เช่น พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น ส่วนนายธวัชชัย อนามพงศ์ ส.ส.จันทบุรี นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะไปพรรคไทยรักไทยหรือไปอยู่พรรคชาติไทย
ด้านนายประทีป กรีฑาเวช ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมใหญ่มีมติยุบพรรค ตนพร้อมด้วย พ.อ.วินัย สมพงษ์ จะไปยื่นขอจดทะเบียนพรรคชาติพัฒนาต่อกกต.เพื่อรักษาพรรคไว้ตามเจตนารมณ์ ของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ซึ่งการดำเนินการที่ขัดกับมติพรรคในครั้งนี้ เชื่อว่าจะไม่ทำให้นายสุวัจน์ ลำบากใจ
“ผมพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้า ในนามพรรคชาติพัฒนาด้วย และเชื่อว่าจะรักษาเก้าอี้พรรคไว้ได้ เพราะชาวบ้านในพื้นที่ยังเชื่อมั่นในตัวบุคคล"นายประทีป กล่าว
**ทรท.ไร้ปัญหามีที่ปรึกษาฯอย่าง“เสนาะ”
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ระบุว่าหากพรรคชาติพัฒนายุบรวมกับพรรคไทยรักไทย จะก่อให้เกิดปัญหาการแบ่งพรรคแบ่งพวกว่า ไม่มีปัญหา มีนายเสนาะดูแลอยู่ ไม่มีปัญหา
“โธ่ ผมมีประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ชื่อเสนาะ เทียนทอง จะไปห่วงอะไร คุณเสนาะ ดูแลเรียบร้อยทุกอย่างไม่มีปัญหา เว้นแต่คุณเสนาะไม่ดูแล ถึงจะไม่เรียบร้อย มนุษย์เรามีบ่นบ้างเป็นธรรมดา ผม55 แล้วยังบ่นเลย 70จะไม่บ่นได้อย่างไร”
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องที่มีข่าวว่า จะมีการเลื่อนสมณะศักดิ์ให้ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ว่า เป็นเรื่องพิเศษ เนื่องในวโรกาสครบรอบ 72 พรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะมีการพระราชทานสมณะศักดิ์ เป็นวาระพิเศษ 73 รูป อันนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ขออย่าเอาเรื่องพระมาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของมหาเถร กับสำนักพระราชวัง ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่รับสนองพระบรมราชโองการเท่านั้น
**จวกยับใช้"หลวงพ่อคูณ"เป็นเครื่องมือ
นายไสว พราหมณี ส.ว.นครราชสีมา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนโคราชเห็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสุวัจน์ ใช้พิธีเปิดอนุสรณ์สถานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ มาเป็นพีธีกรรมในการยุบรวมพรรคชาติพัฒนา แล้วเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่ทั้งสองคนให้หลวงพ่อคูณ มาพูดต่อคนโคราชเพื่อให้ชาติพัฒนาไปยุบรวมกับไทยรักไทย ยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควรกระทำมาก เพราะก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยออกมาแสดงความเห็นว่าหากพระสงฆ์จะพูดเรื่องการเมือง ก็ให้สึกมาลงส.ส.แต่ครั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณกลับนำพระมาพูดเรื่องการเมือง นำการเมืองเข้าไปเกี่ยวกับวงการพระสงฆ์ถือเป็นการฉวยโอกาสทางการเมืองซึ่งคนโคราชรับไม่ได้
"หากสุวัจน์ กับ ทักษิณ ต้องการให้ยุบรวมพรรคกันก็ตัดสินใจไปเลยไม่ใช่มาอาศัยพระกับอนุสรณ์น้าชาติ องค์หนึ่งก็เป็นพระ ส่วนอีกหนึ่งก็เสียชีวิตไปแล้วจะมารับรู้เรื่องการเมือง การยุบพรรคได้อย่างไรแล้วอย่ามาอ้างว่าเป็นมติคนโคราช เพราะนี่มันแค่การตัดสินใจของคนสองคนคือทักษิณกับสุวัจน์ วันนี้หากสุวัจน์ไปจริงก็ขอให้กำลังใจคนที่เหลืออยู่โดยเฉพาะนายประทีป กรีฑาเวช ส.ส.โคราช ควรจะรักษาพรรคไว้ โดยเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาต่อจากนายสุวัจน์ เชื่อว่าจะได้รับเสียงจากประชาชนโคราชอย่างล้มหลามที่รักษาพรรคไว้"นายไสว ระบุ
รายงานข่าวจากพรรคชาติพัฒนาแจ้งว่า นายสุวัจน์ เตรียมใช้โอกาสฤกษ์งามยามดี คือวันที่ 17 ส.ค.เป็นวันตัดสินอนาคตการเมืองของพรรคชาติพัฒนา เพราะนายสุวัจน์และพรรคชาติพัฒนานิยมใช้เลข 7 เป็นเครื่องหมายนำโชคทางการเมือง เห็นได้จากการเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ที่ใช้วันที่ 7 ส.ค.เป็นวันจัดงาน และใช้เวลาในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 7 ปี บนเนื้อที่ 37ไร่ โดยใช้งบการก่อสร้าง 17 ล้านบาท และเลขทะเบียนของมอเตอร์ไซด์ช็อปเปอร์ ของ พล.อ.ชาติชาย ก็มีเลขทะเบียนน 7777 โดยพลเอกชาติชาย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านายสุวัจน์ ได้เตรียมให้นายประทีป กรีฑาเวช ส.ส.นครราชสีมาไปยื่นจดทะเบียนเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เพื่อสืบทอดพรรคชาติพัฒนาต่อไป
"มหาชน"เปิดตัว 49ผู้สมัคร
วานนี้ (9ส.ค.)พรรคมหาชนได้เปิดตัวผู้สมัครส.ส.จำนวน 49 คน ที่บ้านสนามบินน้ำ โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคมหาชน กล่าวต้อนรับผู้สมัครว่า จากการเดินสายในภาคอีสานได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก แต่จะได้รับการเลือกตั้งหรือไม่ อยู่ที่ความตั้งใจแน่วแน่ในการเสนอตัวต่อประชาชนของผู้สมัคร
สำหรับผู้สมัครที่มีการเปิดตัวในรอบแรกนี้ มีบุคคลที่น่าสนใจอาทิ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีตส.ส.พิจิตร พรรคประชาธิปัตย์ นายณรงค์เลิศ สุรพล อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคกิจสังคม และมีกลุ่มอดีต ส.ส.อีสาน ซึ่งส่วนใหญ่จะย้ายมาจากพรรคความหวังใหม่เดิม เช่น กลุ่มผู้สมัครอุบลราชธานี มีนายวิทยา ขันอาสา นายปัญญา จินตะเวช นายตุ่น จินตะเวช และนายวิทยา นันทุปา ซึ่งย้ายมาจากพรรคราษฎร
นายสุเมธ พรหมพันห่าว จะลงสมัครส.ส.หนองคาย เขต 6 นายกำชัย เรืองกาญจนเศรษฐ ลงสมัครจ.สุรินทร์ เขต 6 ส่วนภาคเหนือ นายไพโรจน์ ตันบรรจง จะลงสมัครที่ จ.พะเยา เขต 3 กลุ่มลูกของนายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ จะยกทีมลงสมัครใน จ.ลำปาง นายปิยะชนก ลิมปะพันธุ์ บุตรชายนายประพาส ลิมปะพันธุ์ ผอ.พรรคชาติพัฒนา จะลงที่ จ.สุโขทัย เขต 4
ส่วนภาคใต้ ทางพรรคได้ประกาศผู้สมัครทั้งหมด 3 คน คือ นายสมมติ เบญญาลักษณ์ ปัตตานี เขต 1 นายวาร์มูอำหมัด บินแวดาโอ๊ะ นราธิวาส เขต 1และ นายสุชาติ รักใหม่ พัทลุง เขต 2
นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครกลุ่มอื่นที่น่าสนใจ อาทิ นายประพัทธพงศ์ พราหมณี บุตรชายนายไสว พราหมณี ส.ว.นครราชสีมา ซึ่งจะลงสมัครในเขต 1 นครราชสีมา กลุ่มผู้สมัครส.ส.สมุทรปราการ เช่น นางนันทิดา แก้วบัวสาย นักร้องชื่อดังและลูกสะใภ้นายวัฒนา อัศวเหม ที่ปรึกษาพรรคมหาชน และ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม อดีตนายกอบจ.สมุทรปราการ และหลานชายนายวัฒนา นอกจากนี้ ร.อ.วิชัย ราชานนท์ อดีตนักชกโอลิมปิก เหรียญทองแดง ในปีเดียวกับ สมรักษ์ คำสิงห์ ก็สนใจจะลงสมัครส.ส.ขอนแก่น เขต 8 ในนามพรรคมหาชนด้วย
.