xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องของคนแก้ผ้า

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ผมคิดว่า ถ้าสังคมไม่ดัดจริต คงต้องยอมรับส่วนใหญ่คงเคยดูหนังเอ็กซ์มาแล้ว โดยเฉพาะในยุคที่วีซีดี ดีวีดีกลายเป็นเทคโนโลยีราคาถูก สมัยก่อนหนังเอกซ์หรือหนังแปดมิล เป็นเรื่องที่หาดูยาก ต้องรอดูในโรงภาพยนตร์ที่มักจะเอามาฉายเป็นรอบพิเศษหลังเที่ยงคืน สมัยก่อนแถวบ้านผมถ้าบอกว่าไปดูหนังรอบมิดไนต์ก็รู้กันว่า ไปดูหนังโป๊

ถ้าจะพูดว่า หนังโป๊หรือ หนังเอกซ์ เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยก็อาจจะน้อยไป ต้องบอกว่า หนังโป๊หรือหนังเอกซ์เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลกเลยทีเดียว เพียงแต่หลายประเทศในโลกนี้ หนังโป๊ยังอยู่ในมุมมืด โดยเฉพาะที่อ้างว่าเป็นสังคมพุทธอย่างบ้านเรา

แต่อีกเสียงบอกว่า บ้านเรานั่นแหละตัวดี หนังโป๊ในโรงหนังบ้านเราก็ยังมีอยู่แถวโรงชั้นสอง ซึ่งเป็นที่รับรู้กันทั่วไป ฉายกันทั้งวันทั้งคืน ประเภทขึ้นป้ายว่า หนังไทย-จีน-ฝรั่ง-ญี่ปุ่น อาจจะมีก็ตำรวจไทยเท่านั้นที่ไม่ค่อยรู้ค่อยเห็น จนกระทั่งมาตื่นตาตื่นใจเมื่อเจอหนังโป๊ของน้องแนท-เกศริน

ผมถูกเพื่อนถามว่า สังคมไทยมองหนังโป๊หรือหนังเอกซ์อย่างไร ทำไมกะแค่น้องแนทถ่ายหนังโป๊ถึงจะเป็นจะตายกัน คำตอบของผม คือไม่รู้ ที่รู้ๆก็คือ ใครๆก็ชอบดู

ผมพยายามทบทวนหนังโป๊อื้อฉาวในรอบปี ก่อนหน้านี้มีกรณีลูกสาวนักการเมืองกับนักการเมืองหนุ่มใครๆก็ดูกันทั่วเมือง ตอนนั้นมีแต่คนถามหาว่ามีเวอร์ชันใหม่หรือยัง แม้ว่าจะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ที่สำคัญคนขายรวยไม่รู้เรื่องกับวีซีดีชุดนั้น

ก่อนหน้า “ตั๊ก”บงกช นางเอกจากภาพยนตร์เรื่อง “ไอ้ฟัก” จากบทประพันธ์ “คำพิพากษา”ของชาติ กอบจิตติ กลายเป็นข่าวฉาวเมื่อภาพลับเฉพาะที่เธอแก้ผ้าเข้าฉากหลุดรอดออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ

ต่อมาตำรวจจับผู้ต้องหาคนหนึ่งคือ โจ้-ศรยุทธ โดยถูกระบุว่า เป็นผู้เผยแพร่ภาพของ “ตั๊ก” ทางอินเทอร์เน็ต ในขณะที่ โจ้ยืนยันว่า เขาได้รับภาพที่ฟอร์เวิร์ดต่อกันมา จึงส่งภาพลงในกระทู้ของพันทิปว่า เป็นภาพตั๊กจริงหรือไม่ และเขาได้ปกปิดอวัยวะบางส่วนของตั๊กแล้ว

ขณะที่คนในอินเทอร์เน็ตมองว่า โจ้-ศรยุทธ เป็นแพะของเรื่องนี้ มีการรุมประณามทั้งตั๊กและตำรวจ เพราะโจ้ถูกตำรวจดำเนินคดีราวกับเป็นอาชญากรร้ายแรง และไม่ยอมให้ประกันตัวในเบื้องต้น ส่วนตั๊กนั้นสังคมส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่า ตอนที่แก้ผ้าทำไมไม่คิดให้ดีก่อน และก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของตั๊กก็เป็นเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว

ตั๊กและทีมงานสร้างภาพยนตร์ยังถูกมองว่า เคยออกมาโวยวายที่เซ็นเซอร์ภาพของตั๊กในหนังเรื่องนี้ ทำนองว่า ที “นมฝรั่ง” ทำไมกองเซ็นเซอร์ถึงปล่อยออกมาได้ ก็คือ ตั๊กไม่แคร์ที่จะโป๊ ประเภทว่านมของฉันจะให้ใครดูมายุ่งทำไม ถ้าจำไม่ผิดฝ่ายเซ็นเซอร์ออกมาตอบโต้ทำนองว่า เป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ของฝรั่งนั้นเขาแก้ผ้าเดินโทงๆในบ้านได้ ส่วนคนไทยนั้นขนาดพ่อแม่กับลูกยังต้องระมัดระวังกันมิดชิด

พอรูปหลุดรอดออกมา น้ำหนักที่ตั๊กออกมาโวยวายจึงไม่ได้รับความเชื่อถือนัก กระทั่งตั๊กกลายเป็นจำเลยสังคมเสียเอง จนต้องถอนฟ้องผู้ต้องหา อย่างไรก็ตามเธอก็ยังยืนยันว่า ถึงเธอแก้ผ้าจริงก็เป็นเรื่องของเธอ เคยแก้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้มีเจตนาเอาภาพมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ และตั้งคำถามว่า เธอเป็นผู้เสียหาย แต่ทำไมสังคมกลับรุมประณามเธอขนาดนี้ เธอถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับสังคมทำไมคนทำผิดถึงกลายเป็นฮีโร่

เธอถามหาบรรทัดฐานของสังคม ทั้งๆที่ตอนที่เถียงกันเรื่องนมไทย-นมฝรั่ง เธอไม่เชื่อเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามข่าวของตั๊กออกมาในช่วงเดียวกับที่มีการโปรโมทวีซีดี และดีวีดี หนังเรื่อง “ไอ้ฟัก”พอดี ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ใครจะได้ประโยชน์ หลังจาก “ไอ้ฟัก”ไม่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ลงโรง

ดูเหมือนว่า แม้สังคมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับตั๊ก ขณะเดียวกันกลับปรารถนาที่จะดูภาพของตั๊กกันทั่วบ้านทั่วเมือง

มาถึงภาพของน้องแนท-เกศริน ซึ่งตำรวจออกมาแถลงข่าวว่า จะจับกุมนางเอกสาวที่เล่นหนังเรื่องนี้เสียใหญ่โต ตำรวจกระตือรือร้นมาก ราวกับว่า จะเป็นการทลายขบวนการค้ามนุษย์ และขุดรากถอนโคนผู้ผลิตหนังโป๊ให้หมดไปจากสังคม

ด้านดาราสาวอ้างว่า เธอถูกหลอกให้ถ่าย และถ่ายเพียงเรื่องเดียว แต่คนที่ดูแล้วกลับไม่มีใครเชื่อ ล้วนแต่ชื่นชมเธอว่า เล่นได้สมบทบาททั้งสิ้น

ดูเหมือนว่าตำรวจจะเอาเป็นเอาตายอยู่กับดาราสาวผู้แสดง อ้างว่า เพราะเธอใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง (ต่อไปเล่นหนังโป๊ต้องใช้ชื่อปลอมจำไว้) ทั้งๆที่คดีนี้เธอมีความผิดเพียงเล็กน้อย คือมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 อนาจารเพื่อหากำไร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่ง หากยอมรับสารภาพ อาจแค่รับโทษปรับเท่านั้น และยังใช้ตัวเองประกันตัวได้ด้วย

การที่ตำรวจพยายามทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่โตเกินกว่าเหตุนี่เอง ทำให้อารมณ์ของคนในสังคม เริ่มมีความเห็นอกเห็นใจน้องแนทแม้จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเธอ ในตอนต้น โดยเฉพาะในสังคมอินเทอร์เน็ตที่จับต้องไม่ได้ และไม่มีตัวตน พากันรุมประณามตำรวจ และบางคนตั้งคำถามว่า มีเรื่องตั้งมากมายให้จับไม่จับ ดีแต่ไล่จับ...ผู้หญิง สารพัดจะก่นด่า จนตำรวจกำลังจะพลิกกลายเป็นจำเลย(สังคม) ในเรื่องนี้

อีกด้านก็ได้ยินเสียงถามหาว่าเห็นหนังเรื่องล่าสุดหรือยัง ที่เพราะตำรวจออกข่าวว่า ถ่ายถึง 3 เรื่อง ถ้ามีแล้วอย่าลืมเอามาดูกันบ้าง กลายเป็นว่า ความพยายามทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ของตำรวจยิ่งทำให้หนังที่น้องแนทแสดงขายดียิ่งขึ้น

ถ้าสรุปเอาหยาบๆก็ต้องบอกว่า ส่วนใหญ่อยากดูหนังโป๊ของน้องแนทกันทั้งนั้น แล้วหนังโป๊มันเกิดขึ้นในประเทศไทยจากเรื่องที่น้องแนทเธอแสดงหรืออย่างไร ตำรวจจึงทำท่าทางราวกับหูตาสว่างเพียงนั้น

ลองทบทวนดูซิครับว่า ได้ยินเรื่องหนังโป๊แต่ละครั้งแล้วใครรวย ใครได้ประโยชน์ ตำรวจจับใครได้บ้าง หรือว่า ดีแต่ไล่จับ...ผู้หญิงอย่างที่เขาว่าจริงๆ ใครกันแน่ที่ล่อนจ้อน
กำลังโหลดความคิดเห็น