มนุษย์อุบัติในโลกนี้มาเป็นเวลานานพอสมควร จักรวรรดิ์ ราชอาณาจักร เจริญเติบโตและล่มสลายมาเป็นยุคๆ ตามครรลอง ในแต่ละยุคของสังคมมนุษย์มักจะมีคนในอุดมคติของสังคม เช่น ในสังคมจีนโบราณนั้นบุคคลที่ถูกมองว่าเป็นคนในอุดมคติก็คือ คนที่มีรูปร่างบอบบาง สวมผ้าไหม มีหนังสืออยู่ในมือ บุคคลเช่นนี้คือนักปราชญ์ราชบัณฑิตที่รู้เรื่องคำสอนของลัทธิขงจื๊อ การปกครองบริหาร มีความลึกซึ้งในปรัชญา แต่งกลอน แต่งโคลง และเรียงความ คนเช่นนี้คือผู้ซึ่งสมาชิกของชนชั้นสูงในสังคมรับราชการด้วยการสอบคัดเลือกจากระดับอำเภอไปถึงมณฑล และระดับชาติที่นครหลวง โดยจะได้รับการสอบผ่านสูงสุดถึงระดับจอหงวน ซึ่งเมื่อสอบผ่านก็จะได้เสื้อครุยสีแดงพร้อมหมวก และมีสำหรับศรีภรรยาด้วยอีกหนึ่งชุด บุคคลในอุดมคติเช่นนี้จะรับราชการรับใช้องค์จักรพรรดิ์ และมีส่วนอย่างยิ่งในการบริหารราชการแผ่นดิน
แต่บุคคลเช่นนี้กลับถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเสื่อมในสังคมศักดินาจีน บุคคลกลุ่มนี้จะถูกมองว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีบุคลิกเผด็จการ หาความร่ำรวยจากการเก็บค่าเช่านาโดยเอาเปรียบชาวนาที่ยากจน ฉ้อราษฎร์บังหลวง และมีส่วนอย่างยิ่งในการรักษาไว้ซึ่งระบบศักดินาจีนแบบเก่า เหมา เจ๋อตุง ได้กล่าวถึงบุคคลกลุ่มนี้ว่าหมกมุ่นอยู่ในความสนุกสนานและชีวิตในโลกีย์วิสัย โดยเหมาได้ยกตัวอย่างการพรรณนาถึงความเสื่อมทรามของครอบครัวจีนในสมัยยุคศักดินา ในหนังสือเรื่อง “ความฝันในหอแดง” เมื่อคอมมิวนิสต์เข้ามาปกครองแผ่นดินจีน บุคคลในอุดมคติก็คือคนที่ใส่เสื้อคลุมยาว ถือร่ม และมีหนังสือคติพจน์ของเหมาเล่มแดง โดยมีบุคลิกของคนที่ศรัทธาเชื่อมั่นในลัทธิมาร์กซ์ พร้อมที่จะต่อสู้กับกลุ่มนายทุนเจ้าของที่นา และนายทุนที่เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต จะเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของชนชั้นเพื่อให้ได้ชัยชนะ และนำชนชั้นกรรมาชีพและชาวนาไปสู่ความสมบูรณ์พูนสุข
นอกจากคนในอุดมคติดังกล่าวนี้ ก็ยังมีการเปลี่ยนค่านิยมสังคมโดยการยกย่องผู้ใช้แรงงานและชาวนา การเป็นชาวนาหรือผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมถือเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในเมืองจีนจะมีผู้ใช้แรงงานซึ่งพับแขนเสื้อพร้อมกับมีค้อนอยู่ในมือ อนุสาวรีย์ดังกล่าวนี้มีอยู่ในประเทศคอมมิวนิสต์ต่างๆ เช่น เกาหลีเหนือและเวียดนาม เป็นต้น แต่มาในปัจจุบันอนุสาวรีย์ดังกล่าวนี้ได้หายไปจากประเทศคอมมิวนิสต์ในบางส่วน
ข้อที่น่าคิดก็คือ คนไทยในอุดมคติมีลักษณะอย่างไร ในอดีตนั้นคนไทยในอุดมคติก็คือนักรบ ถือดาบคู่ในมือ ต่อสู้สละชีวิตเพื่อเสรีภาพและเอกราช บรรพบุรุษไทยได้เสียสละชีวิตเพื่อธำรงไว้ซึ่งแผ่นดินที่เป็นขวานทองอยู่ ณ บัดนี้ มาในปัจจุบันในยุคใหม่ซึ่งเป็นยุคโลกาภิวัตน์ ผสมผสานกับการปกครองแบบประชาธิปไตย ความเสมอภาคทางสังคม คนไทยในอุดมคติควรจะเป็นอย่างไรยังไม่มีการกล่าวถึงอย่างเป็นระบบ นี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะคนไทยในอุดมคติในจินตนาการนั้นจะเป็นแนวทางสำหรับการสั่งสอนอบรมให้เยาวชนรุ่นใหม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในลักษณะใด กล่าวอีกนัยหนึ่ง ทั้งพ่อแม่ก็ดี ทั้งสถาบันการศึกษาก็ดี จำเป็นต้องมีจินตนาการถึงบุคลิกลักษณะของบุคคลที่จะสร้างขึ้นมาเป็นผู้นำสังคมและเป็นประชาชนที่ดีในอนาคต
ก็อาจมีการลองเสนอว่า คนไทยในอุดมคติคือบุคคลที่ยืนสูงตระหง่าน มีหนังสืออยู่ในมือ บนปกหนังสือมีภาษาลาติน ตัวอัลฟ่าและเบลต้า รวมถึงตัวเลขและคำนวณ ซึ่งบ่งบอกถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ขณะเดียวกันบนหนังสือเล่มเดียวกันนั้นจะมีสัญลักษณะของปรัชญาและศาสนาของคนในชาตินั้น ทั้งหมดนี้คือการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและจารีตประเพณี ระหว่างความเจริญทางวิทยาศาสตร์-วัตถุ และการพัฒนาทางปรัชญาและจิตใจ คนไทยในอุดมคติดังกล่าวจะมองเบิ่งตาไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เชื่อมั่น พร้อมจะเจรจากับนานาชาติอย่างมั่นใจ มีศรัทธาแรงกล้าในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย กล้าจะต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ภูมิใจที่เป็นคนไทย และพร้อมที่จะรับค่านิยมใหม่ๆ ที่ไม่ขัดแย้งกับค่านิยมไทยจนเกินเหตุ มีความรักชาติแต่ไม่หลงชาติ มีความชาญฉลาดและมีความเป็นนานาชาติ พูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว เข้าใจวิธีการใช้สมองกล และรู้ภาษาจีน
เพื่อการดังกล่าว ระบบการศึกษาจะต้องมีส่วนทำให้การสร้างคนไทยในอุดมคติให้เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน วัฒนธรรมที่ขัดแย้งต่อการสร้างบุคลิกดังกล่าวก็อาจต้องมีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยน การอบรมในครอบครัวต้องถือเป็นความจำเป็นอันดับแรกในกระบวนการสร้างคนสร้างชาติแบบใหม่ ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวนี้ต้องถือเป็นภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของคนไทยทุกคน ที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในยุคโลกาภิวัตน์
ข้อเสนอดังกล่าวนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของบุคลิกลักษณะของคนไทยในอุดมคติ ซึ่งอาจมีความคิดเห็นและข้อเสนอหลากหลาย แต่ที่สำคัญจำเป็นต้องมีการให้น้ำหนักกับแนวความคิดดังกล่าว เพราะมิฉะนั้นจะไม่สามารถจะจัดระบบการศึกษาการเลี้ยงดูในครอบครัวให้สอดคล้องกับยุคสมัยได้
แต่บุคคลเช่นนี้กลับถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเสื่อมในสังคมศักดินาจีน บุคคลกลุ่มนี้จะถูกมองว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีบุคลิกเผด็จการ หาความร่ำรวยจากการเก็บค่าเช่านาโดยเอาเปรียบชาวนาที่ยากจน ฉ้อราษฎร์บังหลวง และมีส่วนอย่างยิ่งในการรักษาไว้ซึ่งระบบศักดินาจีนแบบเก่า เหมา เจ๋อตุง ได้กล่าวถึงบุคคลกลุ่มนี้ว่าหมกมุ่นอยู่ในความสนุกสนานและชีวิตในโลกีย์วิสัย โดยเหมาได้ยกตัวอย่างการพรรณนาถึงความเสื่อมทรามของครอบครัวจีนในสมัยยุคศักดินา ในหนังสือเรื่อง “ความฝันในหอแดง” เมื่อคอมมิวนิสต์เข้ามาปกครองแผ่นดินจีน บุคคลในอุดมคติก็คือคนที่ใส่เสื้อคลุมยาว ถือร่ม และมีหนังสือคติพจน์ของเหมาเล่มแดง โดยมีบุคลิกของคนที่ศรัทธาเชื่อมั่นในลัทธิมาร์กซ์ พร้อมที่จะต่อสู้กับกลุ่มนายทุนเจ้าของที่นา และนายทุนที่เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต จะเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของชนชั้นเพื่อให้ได้ชัยชนะ และนำชนชั้นกรรมาชีพและชาวนาไปสู่ความสมบูรณ์พูนสุข
นอกจากคนในอุดมคติดังกล่าวนี้ ก็ยังมีการเปลี่ยนค่านิยมสังคมโดยการยกย่องผู้ใช้แรงงานและชาวนา การเป็นชาวนาหรือผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมถือเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในเมืองจีนจะมีผู้ใช้แรงงานซึ่งพับแขนเสื้อพร้อมกับมีค้อนอยู่ในมือ อนุสาวรีย์ดังกล่าวนี้มีอยู่ในประเทศคอมมิวนิสต์ต่างๆ เช่น เกาหลีเหนือและเวียดนาม เป็นต้น แต่มาในปัจจุบันอนุสาวรีย์ดังกล่าวนี้ได้หายไปจากประเทศคอมมิวนิสต์ในบางส่วน
ข้อที่น่าคิดก็คือ คนไทยในอุดมคติมีลักษณะอย่างไร ในอดีตนั้นคนไทยในอุดมคติก็คือนักรบ ถือดาบคู่ในมือ ต่อสู้สละชีวิตเพื่อเสรีภาพและเอกราช บรรพบุรุษไทยได้เสียสละชีวิตเพื่อธำรงไว้ซึ่งแผ่นดินที่เป็นขวานทองอยู่ ณ บัดนี้ มาในปัจจุบันในยุคใหม่ซึ่งเป็นยุคโลกาภิวัตน์ ผสมผสานกับการปกครองแบบประชาธิปไตย ความเสมอภาคทางสังคม คนไทยในอุดมคติควรจะเป็นอย่างไรยังไม่มีการกล่าวถึงอย่างเป็นระบบ นี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะคนไทยในอุดมคติในจินตนาการนั้นจะเป็นแนวทางสำหรับการสั่งสอนอบรมให้เยาวชนรุ่นใหม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในลักษณะใด กล่าวอีกนัยหนึ่ง ทั้งพ่อแม่ก็ดี ทั้งสถาบันการศึกษาก็ดี จำเป็นต้องมีจินตนาการถึงบุคลิกลักษณะของบุคคลที่จะสร้างขึ้นมาเป็นผู้นำสังคมและเป็นประชาชนที่ดีในอนาคต
ก็อาจมีการลองเสนอว่า คนไทยในอุดมคติคือบุคคลที่ยืนสูงตระหง่าน มีหนังสืออยู่ในมือ บนปกหนังสือมีภาษาลาติน ตัวอัลฟ่าและเบลต้า รวมถึงตัวเลขและคำนวณ ซึ่งบ่งบอกถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ขณะเดียวกันบนหนังสือเล่มเดียวกันนั้นจะมีสัญลักษณะของปรัชญาและศาสนาของคนในชาตินั้น ทั้งหมดนี้คือการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและจารีตประเพณี ระหว่างความเจริญทางวิทยาศาสตร์-วัตถุ และการพัฒนาทางปรัชญาและจิตใจ คนไทยในอุดมคติดังกล่าวจะมองเบิ่งตาไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เชื่อมั่น พร้อมจะเจรจากับนานาชาติอย่างมั่นใจ มีศรัทธาแรงกล้าในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย กล้าจะต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ภูมิใจที่เป็นคนไทย และพร้อมที่จะรับค่านิยมใหม่ๆ ที่ไม่ขัดแย้งกับค่านิยมไทยจนเกินเหตุ มีความรักชาติแต่ไม่หลงชาติ มีความชาญฉลาดและมีความเป็นนานาชาติ พูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว เข้าใจวิธีการใช้สมองกล และรู้ภาษาจีน
เพื่อการดังกล่าว ระบบการศึกษาจะต้องมีส่วนทำให้การสร้างคนไทยในอุดมคติให้เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน วัฒนธรรมที่ขัดแย้งต่อการสร้างบุคลิกดังกล่าวก็อาจต้องมีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยน การอบรมในครอบครัวต้องถือเป็นความจำเป็นอันดับแรกในกระบวนการสร้างคนสร้างชาติแบบใหม่ ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวนี้ต้องถือเป็นภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของคนไทยทุกคน ที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในยุคโลกาภิวัตน์
ข้อเสนอดังกล่าวนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของบุคลิกลักษณะของคนไทยในอุดมคติ ซึ่งอาจมีความคิดเห็นและข้อเสนอหลากหลาย แต่ที่สำคัญจำเป็นต้องมีการให้น้ำหนักกับแนวความคิดดังกล่าว เพราะมิฉะนั้นจะไม่สามารถจะจัดระบบการศึกษาการเลี้ยงดูในครอบครัวให้สอดคล้องกับยุคสมัยได้