ศูนย์ข่าวภูเก็ต-กลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นภูเก็ต สนใจลงทุนทำดิวตี้ฟรีโซน พร้อมทุ่มทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ผุดโรงแรม ศูนย์ประชุมฯ ศูนย์การค้าบริการ ศูนย์โอทอป ภายใน 2 ปี หากรัฐจัดสรรที่ดินบริเวณท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตกว่า 100 ไร่ให้
นายปมุข อัจฉริยะฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเข้ามาลงทุนของนักลงทุน ในโครงการเขตปลอดอากรหรือดิวตี้ฟรีโซนที่จังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากที่รัฐบาล มีนโยบายผลักดันให้ภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่อง ในการจัดตั้งเขตปลอดอากร ว่า หลังจากที่รัฐบาล มีนโยบายที่จะผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยการผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเกิดดิวตี้ฟรีโซน หรือดิวตี้ฟรีพอร์ต
ขณะนี้หอการค้าจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเสนอและศึกษาหาข้อมูล พบว่า สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้และเป็นไปได้แน่นอน คือ การจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซน ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้านานนาชาติ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่อยู่ภายในอาณาเขตเดียวกันด้วย
"หลังจากหอการค้าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปดูงาน ในเมืองยาโฮบารู ประเทศมาเลเซียก่อนหน้านี้ เห็นว่า แม้ดิวตี้ฟรีโซนที่เมืองยาโฮบารู จะมีท่าเรือรวมอยู่ด้วย แต่สามารถรองรับเฉพาะนักท่องเที่ยวภายในประเทศและนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์เท่านั้น ส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจากหลายประเทศทั่วโลก คิดว่านจังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพที่ดีกว่า และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนในประเทศ ได้หันมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าภายในประเทศแทนการใช้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ"
นายปมุข กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีนักธุรกิจจำนวนมากโดยเฉพาะนักธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ จึงได้มีการปรึกษากับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมในการจัดทำดิวตี้ฟรีโซน และพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด คือ ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เนื่องจากท่าเรือดังกล่าวเป็นท่าเรือที่ขนส่งสินค้าโดยเฉพาะของจังหวัดภูเก็ตอยู่แล้ว แต่มีจำนวนน้อยมากจึงไม่คุ้มกับการลงทุน ทำให้ไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติม
ดังนั้นจึงคิดว่า ท่าเรือน้ำลึกบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ น่าจะเป็นดิวตี้ฟรีโซน ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์(โอทอป) ศูนย์การค้าและการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จุดนี้ หอการค้าจังหวัดภูเก็ตกำลังศึกษาและจะนำเสนอให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลให้การสนับสนุนสถานที่ตั้งดังกล่าวแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 ปี จะมีการจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตกลุ่มหนึ่งสนใจ ที่จะเข้ามาลงทุนจัดทำดิวตี้ฟรีโซนที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ซึ่งใช้คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท
นายปมุข อัจฉริยะฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเข้ามาลงทุนของนักลงทุน ในโครงการเขตปลอดอากรหรือดิวตี้ฟรีโซนที่จังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากที่รัฐบาล มีนโยบายผลักดันให้ภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่อง ในการจัดตั้งเขตปลอดอากร ว่า หลังจากที่รัฐบาล มีนโยบายที่จะผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยการผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเกิดดิวตี้ฟรีโซน หรือดิวตี้ฟรีพอร์ต
ขณะนี้หอการค้าจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเสนอและศึกษาหาข้อมูล พบว่า สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้และเป็นไปได้แน่นอน คือ การจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซน ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้านานนาชาติ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่อยู่ภายในอาณาเขตเดียวกันด้วย
"หลังจากหอการค้าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปดูงาน ในเมืองยาโฮบารู ประเทศมาเลเซียก่อนหน้านี้ เห็นว่า แม้ดิวตี้ฟรีโซนที่เมืองยาโฮบารู จะมีท่าเรือรวมอยู่ด้วย แต่สามารถรองรับเฉพาะนักท่องเที่ยวภายในประเทศและนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์เท่านั้น ส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจากหลายประเทศทั่วโลก คิดว่านจังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพที่ดีกว่า และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนในประเทศ ได้หันมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าภายในประเทศแทนการใช้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ"
นายปมุข กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีนักธุรกิจจำนวนมากโดยเฉพาะนักธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ จึงได้มีการปรึกษากับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมในการจัดทำดิวตี้ฟรีโซน และพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด คือ ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เนื่องจากท่าเรือดังกล่าวเป็นท่าเรือที่ขนส่งสินค้าโดยเฉพาะของจังหวัดภูเก็ตอยู่แล้ว แต่มีจำนวนน้อยมากจึงไม่คุ้มกับการลงทุน ทำให้ไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติม
ดังนั้นจึงคิดว่า ท่าเรือน้ำลึกบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ น่าจะเป็นดิวตี้ฟรีโซน ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์(โอทอป) ศูนย์การค้าและการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จุดนี้ หอการค้าจังหวัดภูเก็ตกำลังศึกษาและจะนำเสนอให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลให้การสนับสนุนสถานที่ตั้งดังกล่าวแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 ปี จะมีการจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตกลุ่มหนึ่งสนใจ ที่จะเข้ามาลงทุนจัดทำดิวตี้ฟรีโซนที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ซึ่งใช้คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท