xs
xsm
sm
md
lg

มรดกตกทอดของความรุ่งเรืองในอดีต

เผยแพร่:   โดย: ลิขิต ธีรเวคิน

ผู้ที่ได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมอียิปต์และตุรกี นอกจากจะได้รับความประทับใจในสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่มหึมาและสวยงามแล้ว จะเกิดความรู้สึกพิศวงและประทับใจในความสามารถและความพยายามของมนุษย์ที่ก่อสร้างสิ่งซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ของมนุษยชาติ เริ่มต้นจากประเทศอียิปต์ พีระมิด หรือหลุมฝังศพของฟาโรห์ และวิหารต่างๆ จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ความเจริญรุ่งเรืองในด้านความรู้เรื่องการก่อสร้าง ได้เกิดขึ้นในประเทศอียิปต์เมื่อห้าพันกว่าปีแล้ว คำถามที่สำคัญก็คือ ก้อนหินแต่ละก้อนซึ่งหนักถึง 2,500 กิโลกรัม ถึง 5,000 กิโลกรัม เป็นจำนวน 2 ล้าน 3 แสนกว่าก้อน ที่ก่อเป็นพีระมิดขึ้นมาถูกนำมาได้อย่างไร และด้วยยานพาหนะใด

การปรากฏของพีระมิดและมัมมี่ซึ่งเป็นศพอาบน้ำยา ไม่มีการเน่าเปื่อย บ่งชี้ถึงความรู้ของชาวอียิปต์โบราณในด้านคำนวณ เลขาคณิต ตรีโกณ เคมี อัลเคมี แต่ที่น่าคิดกว่านั้นก็คือ ความพยายามที่จะรักษาศพของผู้ตายโดยการอาบน้ำยาหลังจากที่เอาบางส่วนของอวัยวะภายในออกมาดองไว้ในโถ ห่อด้วยผ้าอย่างดี วางไว้ในโลงซึ่งทำด้วยโลหะมูลค่าสูงเช่นทองคำ พร้อมทั้งบรรจุทรัพย์สมบัติของมีค่าไว้เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีเรือสำหรับเดินทางไปสู่สัมปรายภพ เกิดขึ้นเพราะอะไร

คำตอบน่าจะเป็นว่า ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวนี้เป็นความพยายามของมนุษย์ที่จะรักษาชีวิตให้มีความเป็นนิรันดร์ มนุษย์ไม่อยากตาย อยากอยู่ค้ำฟ้า โดยคงจำกันได้จากความพยายามของกษัตริย์จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ที่พยายามหายาอายุวัฒนะ โดยอาศัยสูตรการผสมเคมีจากพระในลัทธิเต๋า นอกเหนือจากนั้นยังมีตำนานเล่ากันว่าได้มีรับสั่งให้คนหนุ่มสาว 500 คู่ เดินทางข้ามทะเลไปยังตะวันออกเพื่อค้นหายาอายุวัฒนะ คนเหล่านี้ไม่กลับมาและตั้งรกรากอยู่ที่นั่นจนเป็นบรรพบุรุษของคนญี่ปุ่นในปัจจุบัน แต่จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้มีพระชนมายุไม่ยาวนาน ทรงดื่มปรอทเป็นประจำเนื่องจากความเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและพระชนมายุยืนยาว แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นยาพิษที่คร่าพระชนม์ชีพของพระองค์ไปจากโลกเร็วขึ้น

เมื่อมนุษย์ชนะความตายไม่ได้ก็ต้องหวังว่าจะมีการกลับมาใหม่ โดยทางศาสนาพุทธเชื่อว่าจะมีการเวียนว่ายตายเกิด ซามูไรญี่ปุ่นเชื่อว่าจะกลับมาเกิดใหม่หลังตายแล้ว 7 วัน ชาวอียิปต์โบราณก็มีความเชื่อเช่นเดียวกัน และนี่คือที่มาของสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่โดยมีพื้นฐานมาจากการต่อสู้กับความตาย และความพยายามที่จะมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์

ในกรณีของตุรกีนั้น เคยเป็นอาณาจักรโรมันตะวันออก หรือจักรวรรดิไบเซนไทน์ และต่อมาก็เป็นจักรวรรดิออตโตมัน ผู้มาเยี่ยมเยียนตุรกรีจะเห็นการผสมผสานกลมกลืนระหว่างตะวันตกและเอเชีย และระหว่างคริสเตียนและอิสลาม สุเหร่าที่เรียกว่าบูลมอส และโบสถ์ซึ่งต่อมาได้ถูกแปลงให้เป็นสุเหร่าคือเซ็นต์โซเฟีย สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะการก่อสร้างที่สวยงามที่สุดสองชิ้นของโลก เทียบได้กับสิ่งก่อสร้างอันสวยงามในที่อื่นเช่นวิหารในวาติกัน เป็นต้น สิ่งก่อสร้างดังกล่าวมาแล้วนั้นเกิดจากความเชื่อและศรัทธาในศาสนาซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจของมนุษย์ และเป็นแรงบันดาลใจหรือแรงผลักที่สำคัญที่ทำให้มนุษย์ใช้ความอุตสาหะรวมสรรพกำลังทั้งหลายเพื่อการก่อสร้างสิ่งดังกล่าว ศรัทธาจึงเป็นพลังสำคัญ กล่าวกันว่า ผู้ซึ่งร่วมในการสร้างพีระมิดซึ่งประกอบด้วยสามัญชนที่เป็นชาวนานั้น ต่างมีความศรัทธาและความเชื่อที่ว่า ถ้าการสร้างพีระมิดกระทำอย่างถูกต้องแผ่นดินจะอุดมสมบูรณ์และดุลยภาพแห่งจักรวาลจะได้รับการปกปักรักษา ซึ่งหมายความว่าจะนำไปสู่ผลดีต่อชีวิตของคนทั่วไป

จากศรัทธาอันแรงกล้าดังกล่าวทำให้มนุษย์สามารถจะผลิตศิลปะที่งดงาม เช่น โบสถ์ของวัดไทยนั้นจะสังเกตได้ว่ามีความละเอียดและสวยงาม ซึ่งอาจเนื่องมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าช่างที่สร้างโบสถ์เชื่อเพื่อว่าจะได้บุญกุศลจึงพยายามใช้ฝีมือย่างเต็มที่ในการสร้างสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ รูปวาดในวิหารวาติกันก็ดี ศิลปะที่เห็นได้จากสุเหร่าที่เรียกว่าบูลมอสและเซ็นต์โซเฟียก็ดี น่าจะสะท้อนถึงศรัทธาความเชื่อดังกล่าว

ความกลัว (ความตาย) และความศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และในพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ จึงเป็นฐานสำคัญของอารยธรรมมนุษยชาติ โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์จะกลัวในสิ่งซึ่งมีขนาดใหญ่ มีความกว้างสุดลูกหูลูกตา แสงสว่างและเสียงอันดัง ดังนั้น แสงสว่างเบื้องต้นที่มนุษย์ให้ความเคารพยำเกรงก็คือดวงอาทิตย์ เพราะเป็นที่มาของความอบอุ่นและการเติบโตของสิ่งมีชีวิต เทพแห่งพระอาทิตย์จึงเป็นเทพเจ้าของชาวอียิปต์ซึ่งชาวกรีกเรียกว่าอโปโล คนอินเดียจะไหว้พระอาทิตย์ในยามเช้าตรู่ ในแง่หนึ่งเมื่อมีการพูดถึงพลังจักรวาลก็คงหนีไม่พ้นแสงที่มาจากดวงอาทิตย์เป็นสำคัญ มนุษย์กลัวความกว้างอันเวิ้งว้าง เช่น ทะเลและมหาสมุทรที่มองไม่เห็นฝั่ง หรือคนที่เดินทางในทะเลทรายยามค่ำคืน ที่เห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ ดารดาษไปด้วยดวงดาว จะรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญน้อยลงและจะมีความยำเกรงต่อความกว้างใหญ่ดังกล่าว ภูเขาที่สูงตระหง่านเสียดฟ้ามีลักษณะลึกลับก็จะเป็นที่ยำเกรงของมนุษย์เช่นเดียวกัน เสียงจากฟ้าร้องถูกมองว่าเป็นการแสดงความพิโรธของผู้ซึ่งมีอำนาจในจักรวาล

ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวแปรรูปมาเป็นเทพเจ้าโดยมีชื่อต่างๆ เช่น กรีกเรียกเทพเจ้าดวงอาทิตย์ว่าอโปโล เทพเจ้าแห่งทะเลว่าโพเซดอน ของอินเดียก็จะมีเจ้าแม่คงคา และเทพประจำภูเขา เช่น พระศิวะสิงสถิตย์สู่ยอดเขาพระสุเมรุ โมเสสก็ลงมาจากภูเขา โมฮัมหมัดพระเยซูต่างเกี่ยวข้องกับภูเขาทั้งสิ้น คำว่า เซียนในภาษาจีนประกอบด้วยตัวอักษรผสมคือมนุษย์และภูเขา ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวคือความพยายามของมนุษย์ที่จะต่อสู้กับความตาย การมีชีวิตนิรันดร์ และการขจัดความกลัวด้วยการสร้างศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนนำไปสู่สิ่งก่อสร้างที่ประทับใจและมีความสุนทรีย์ดังที่กล่าวมาแล้ว

มาในยุคปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าความตายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มนุษย์จึงมีความพยายามที่จะมีชีวิตที่ยืนยาวด้วยวิทยาการสมัยใหม่ การเปลี่ยนอวัยวะภายใน การกินอาหารเสริมโดยเชื่อว่ามนุษย์อยู่ได้ถึง 120 ปี และบางคนมีศรัทธาถึงขนาดที่เชื่อได้ว่าวันหนึ่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์จะสามารถฟื้นคืนชีวิตมนุษย์ขึ้นมาได้ จึงมีการแช่แข็งผู้เสียชีวิตแล้วไม่ให้เน่าเปื่อย โดยหวังว่าวันหนึ่งจะสามารถกลับคืนสู่ชีวิตได้ดังเดิม

ในขณะเดียวกันศรัทธาในศาสนาก็ถูกแทนที่บางส่วนด้วยวิทยาการสมัยใหม่ นั่นคือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นจากวิทยาการสมัยใหม่เช่นตึกระฟ้าทั้งหลายเกิดขึ้นจากอำนาจเศรษฐกิจแบบใหม่ หลายสิ่งที่สร้างขึ้นมาเป็นการสะท้อนถึงค่านิยมที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา หากเป็นเรื่องของการทำกำไร วัตถุนิยม บริโภคนิยม และเงินตรานิยม

ในอดีตมนุษย์สามารถมีที่พึ่งทางใจโดยความเชื่อและศรัทธาในทางศาสนา แต่ในปัจจุบันศรัทธาในวิทยาการแบบใหม่คือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกำลังมีบทบาทที่สูงขึ้นตามลำดับ คำถามที่สำคัญก็คือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และความเจริญทางวัตถุพอเพียงหรือไม่กับความต้องการทางจิตวิทยาของมนุษย์
กำลังโหลดความคิดเห็น