xs
xsm
sm
md
lg

"สมคิด"สั่งแก้เกณฑ์เข้าSETยาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"สมคิด" สั่งตลท.ปรับเกณฑ์รับหุ้นเข้า SET ให้เข้มขึ้น ส่วน MAI ให้ดึงดูดเอกชนเข้าจดทะเบียนมากขึ้น โดยไม่ต้องจูงใจด้วยภาษี ด้านกรรมการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เผยว่าเริ่มมีการดึงตัวนักวิเคราะห์เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์สมาคม ชี้หากกรณีที่แจ้งรายชื่อนักวิเคราะห์ไม่สัมพันธ์กับการจัดทำบทวิเคราะห์จะคอยติดตาม พร้อมเร่งสร้างนักวิเคราะห์เพิ่มอีก 50 คนสิ้นปีนี้ ด้านนายกโบรกเกอร์ระบุเรื่องคุณสมบัติของนักวิเคราะห์ที่สามารถแนะนำผ่านสื่อจะเริ่มหารือในสัปดาห์นี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์(ตลท.) ปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อพัฒนาและยกระดับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (เอ็มเอไอ) โดยให้ไปพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้บริษัทเอกชนหันมาสนใจ ที่จะเข้าไปจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอให้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็พิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นทำได้ยากขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทเอกชนไม่ได้ให้ความสนใจที่จะเข้าไปจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอมากนัก เพราะเห็นว่าเป็นตลาดเล็กและการซื้อขายหุ้นไม่เหมือนกับตลาดหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายกันอย่างคึกคัก ทั้ง ๆ ที่หุ้นตัวนั้นเมื่อเข้าซื้อขายอยู่ในตลาดเอ็มเอไอจะมีการซื้อขายที่คล่องตัวและน่าดึงดูดมากกว่า
“ตลท.ต้องดำเนินการเพื่อให้ตลาดเอ็มเอไอเป็นที่สนใจของเอกชนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนให้ได้ เพราะที่ผ่านมาบริษัทเอกชนมุ่งที่จะเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ทั้งที่ควรจะเข้าไปอยู่ในส่วนของเอ็มเอไอมากกว่า เพราะเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง ดังนั้นตลท.ต้องกลับไปพิจารณาและทบทวนกฎเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนให้ดึงดูดและเป็นที่สนใจ โดยการดึงดูดดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางด้านภาษีเข้าไปดำเนินการอีกเพราะในปัจจุบันได้ผ่อนปรนให้เป็นจำนวนมากแล้วขึ้นอยู่กับวิธีการ กฎเกณฑ์ และเงื่อนไขที่ควรกำหนดให้เหมาะสมมากกว่า" นายสมคิดกล่าว.
นายสมบัติ นราวุฒิชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ บล.กรุงศรีอยุธยา ในฐานะกรรมการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า นักวิเคราะห์ของบล.กรุงศรีอยุธยาถูกดึงตัวไป 2 คน จากจำนวนนักวิเคราะห์ที่มีอยู่ 9 คน แต่ก็ถือว่าเพียงพอและเป็นไปตามเกณฑ์สำหรับการทำบทวิเคราะห์ให้ประชาชน ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ได้มีข้อตกลงในหมู่สมาชิก(โบรกเกอร์) ให้แต่ละแห่งต้องทำบทวิเคราะห์ 80 หลักทรัพย์ หรือ 60% ของมาร์เก็ตแคปตลาดหลักทรัพย์
เรื่องการดึงตัวนักวิเคราะห์เริ่มมีหลังจากที่ทางสมาคมนักวิเคราะห์ได้แจ้งไปยังบริษัทหลักทรัพย์เพื่อให้แจ้งจำนวนนักวิเคราะห์และบทวิเคราะห์ของแต่ละบริษัท จึงเริ่มมีการดึงตัวนักวิเคราะห์กันเพื่อให้จำนวนนักวิเคราะห์เป็นไปตามเกณฑ์ของสมาคมที่กำหนด
“การที่บริษัทหลักทรัพย์ยื่นรายงานเรื่องจำนวนนักวิเคราะห์กับบทวิเคราะห์ไม่สัมพันธ์กัน หากรายงานว่ามีนักวิเคราะห์เพียง 4 คน แต่สามารถทำบทวิเคราะห์ได้เป็น 150 ตัวก็ถือว่ามากเกินไป ทางสมาคมคงต้องมีการตรวจสอบบทวิเคราะห์เพื่อติดตามดูบริษัทหลักทรัพย์แห่งนี้ต่อไปว่าจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างไร”นายสมบัติ กล่าว
สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ขนาดเล็กที่อาจจะมีนักวิเคราะห์ไม่เพียงพอกับบทวิเคราะห์ที่จะต้องทำก็อาจจะส่งผลบ้าง ด้านการดึงตัวนักวิเคราะห์หากเป็นจำนวนไม่กี่คนเพื่อเป็นแกนหลักในการทำบทวิเคราะห์ของบริษัทนั้นๆก็ถือว่ายังพอรับได้ แต่หากมีการดึงนักวิเคราะห์ไปจากบริษัทใดทั้งทีมก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหากับบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆได้
อย่างไรก็ตามขณะนี้สมาคมได้เร่งฝึกอบรมนักวิเคราะห์อยู่ประมาณ 50-70 คน ซึ่งน่าจะสามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมได้ในปีนี้ ก็อาจจะช่วยลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการดึงตัวนักวิเคราะห์ระหว่างกัน โดยสมาคมตั้งเป้าไว้ว่าในปีนี้จะสามารถสร้างนักวิเคราะห์ให้ได้ 300 คน จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 250 คน
ในส่วนของสมาคมคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้น่าจะมีการเปิดเว็ปไซต์เพื่อรวบรวมบทวิเคราะห์ของแต่ละบริษัท เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการหาข้อมูล ขณะนี้กำลังติดต่อกับเซ็ทเทรดดอทคอมเพื่อมาวางระบบในส่วนของคอมพิวเตอร์
ด้านนายสุเทพ พีตกานนท์ ประธานกรรมการบริหารบล.พัฒนสิน ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า เรื่องการส่งรายชื่อนักวิเคราะห์ให้สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ของบริษัทหลักทรัพย์ ขณะนี้บล.แต่ละแห่งอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อนักวิเคราะห์ของบริษัท ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่สำนักงานก.ล.ต.ประกาศ เพื่อขึ้นทะเบียนนักวิเคราะห์ ในส่วนเรื่องคุณสมบัติของนักวิเคราะห์ที่สามารถให้คำแนะนำผ่านสื่อได้นั้น จะมีการหารือกับสมาชิกภายในสัปดาห์นี้ก่อนที่จะสรุปและนำเรื่องไปหารือกับก.ล.ต.ต่อไป
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่พบปัญหาการแย่งตัวนักวิเคราะห์ในบริษัท โดยตอนนี้บริษัทมีนักวิเคราะห์ประมาณ 20 คน ทำบทวิเคราะห์ประมาณ 140 ตัว ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทพยายามผลิตนักวิเคราะห์มาโดยตลอด และยังมีการเชิญนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาที่มีประสบการณ์ด้านการวิจัยมาพัฒนาในเรื่องการเขียนบทวิเคราะห์เข้ามาเสริมทีมแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น