สตช.สั่งตำรวจ เตรียมพร้อมรับมือแก๊งทวงหนี้โหด หลังจบฟุตบอลยูโร 2004 ลั่นจับได้ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ด้วยการสั่งฟ้องลงโทษในอัตราสูงสุด พร้อมฝากเตือนพ่อ แม่ ผู้ปกครอง เฝ้าดูพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลจับกุมโต๊ะบอล และนักพนันทั่วประเทศ สรุปผลวันนี้
วานนี้(4 ก.ค.)พล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการดูแลเหตุร้ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2004 จบลงว่า ทุกหน่วยได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว ทั้งในด้านการป้องกันและปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิด โดยเฉพาะการติดตามทวงหนี้โดยการข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว หรือทำร้ายร่างกายนั้น ล้วนเป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษสถานหนัก ทั้งจำคุกและปรับ
พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ ให้ช่วยกันเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และหากพบว่าน่าจะเป็นหนี้พนันบอล หรือต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งติดตามทวงหนี้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อร่วมกันดูแลแก้ไข อย่าปล่อยให้เด็กต้องเข้าไปแก้ปัญหาด้วยตัวเองโดยลำพัง เพราะอาจทำในสิ่งที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
โฆษก สตช.กล่าวต่อว่า ในช่วงหลังเทศกาลฟุตบอลยูโรจบลงนั้น ตำรวจทุกพื้นที่จะเฝ้าระวัง และวางมาตรการในการป้องกันอาชญากรรมที่เกี่ยวกับทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน ลักทรัพย์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งคดีที่เกี่ยวกับการวิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ ที่ล่อแหลม โดยจะมีการจัดกำลังสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ทำการเฝ้าระวังและซุ่มโป่ง หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ส่วนในกรณีการติดตามทวงหนี้ที่อาจเกิดขึ้นจากการพนันบอลนั้น เป็นเรื่องที่ตำรวจมีความห่วงใยเช่นเดียวกับฝ่ายอื่นๆ โดยเฉพาะเหยื่อที่เป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตำรวจจะติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยขอความร่วมมือจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ ได้ช่วยสังเกตพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิดด้วย
สำหรับการติดตามทวงหนี้พนันบอลนั้น หากมีพฤติกรรมข่มขืนใจ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่า จะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขู่ ถือว่า เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.337มีโทษจำคุกไม่เกิน 5ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ แต่หากมีการใช้อาวุธด้วย จะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7ปี และหากเป็นพฤติกรรมที่มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวจนสูญเสียอิสรภาพ หรือเสรีภาพ จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.309มีโทษจำคุก 3ปี ปรับไม่เกิน 6,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และมีอาวุธจะมีโทษสูงสุดถึง 5ปี จึงขอฝากเตือนผู้ที่คิดจะกระทำผิดในลักษณะนี้ หากถูกตำรวจจับกุมได้ จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และจะพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้องและลงโทษในอัตราสูงสุดด้วย
ส่วนผลการปราบปรามจับกุม โต๊ะรับพนันทายผลฟุตบอล และนักพนัน ที่ได้มีการระดมกวาดล้างตั้งแต่วันที่ 12มิ.ย.ถึงวันที่ 4ก.ค.ตำรวจภูธรภาค 1-9และนครบาล จะสรุปภาพรวม ส่งมาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อทำการแถลงผลการปราบปราม จับกุม อย่างเป็นทางการต่อไป
วานนี้(4 ก.ค.)พล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการดูแลเหตุร้ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2004 จบลงว่า ทุกหน่วยได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว ทั้งในด้านการป้องกันและปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิด โดยเฉพาะการติดตามทวงหนี้โดยการข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว หรือทำร้ายร่างกายนั้น ล้วนเป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษสถานหนัก ทั้งจำคุกและปรับ
พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ ให้ช่วยกันเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และหากพบว่าน่าจะเป็นหนี้พนันบอล หรือต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งติดตามทวงหนี้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อร่วมกันดูแลแก้ไข อย่าปล่อยให้เด็กต้องเข้าไปแก้ปัญหาด้วยตัวเองโดยลำพัง เพราะอาจทำในสิ่งที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
โฆษก สตช.กล่าวต่อว่า ในช่วงหลังเทศกาลฟุตบอลยูโรจบลงนั้น ตำรวจทุกพื้นที่จะเฝ้าระวัง และวางมาตรการในการป้องกันอาชญากรรมที่เกี่ยวกับทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน ลักทรัพย์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งคดีที่เกี่ยวกับการวิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ ที่ล่อแหลม โดยจะมีการจัดกำลังสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ทำการเฝ้าระวังและซุ่มโป่ง หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ส่วนในกรณีการติดตามทวงหนี้ที่อาจเกิดขึ้นจากการพนันบอลนั้น เป็นเรื่องที่ตำรวจมีความห่วงใยเช่นเดียวกับฝ่ายอื่นๆ โดยเฉพาะเหยื่อที่เป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตำรวจจะติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยขอความร่วมมือจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ ได้ช่วยสังเกตพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิดด้วย
สำหรับการติดตามทวงหนี้พนันบอลนั้น หากมีพฤติกรรมข่มขืนใจ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่า จะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขู่ ถือว่า เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.337มีโทษจำคุกไม่เกิน 5ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ แต่หากมีการใช้อาวุธด้วย จะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7ปี และหากเป็นพฤติกรรมที่มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวจนสูญเสียอิสรภาพ หรือเสรีภาพ จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.309มีโทษจำคุก 3ปี ปรับไม่เกิน 6,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และมีอาวุธจะมีโทษสูงสุดถึง 5ปี จึงขอฝากเตือนผู้ที่คิดจะกระทำผิดในลักษณะนี้ หากถูกตำรวจจับกุมได้ จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และจะพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้องและลงโทษในอัตราสูงสุดด้วย
ส่วนผลการปราบปรามจับกุม โต๊ะรับพนันทายผลฟุตบอล และนักพนัน ที่ได้มีการระดมกวาดล้างตั้งแต่วันที่ 12มิ.ย.ถึงวันที่ 4ก.ค.ตำรวจภูธรภาค 1-9และนครบาล จะสรุปภาพรวม ส่งมาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อทำการแถลงผลการปราบปราม จับกุม อย่างเป็นทางการต่อไป