สุราษฎร์ธานี-สุราษฎร์ธานีเตรียมของบนายกฯที่จะเดินทางมาตรวจราชการกลางเดือนกรกฏาคมนี้ 4 โครงการกว่า 1 พันล้านบาท ทั้งการโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากขนอม-โรงไฟฟ้าพุนพิน พัฒนาบึงขุนทะเล ถมตลาดหน้าทอนเป็นศูนย์ธุรกิจรับเมืองท่องเที่ยวนานาชาติที่เกาะสมุย
นายธีระ โรจนพรพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี เปิดเผยว่า ตามที่ พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะมีกำหนดเดินทางมาตรวจราชการอย่างไม่เป็นทางการที่จังหวัดสุราษฏร์ธานีในวันที่ 15 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ทางจังหวัดเตรียมที่จะเสนอโครงการพัฒนาเร่งด่วนเพื่อของบประมาณมาดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ในเชิงบูรณาการและแผนพัฒนาจังหวัดแบบยั่งยืน
สำหรับโครงการที่จะเสนอเพื่อของบฯได้แก่ 1.โครงการวางท่อก๊าซธรรมชาติจากโรงแยกก๊าซขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อมาเชื่อมกับโรงไฟฟ้าเขาหัวควาย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร โดยโครงการดังกล่าวจะดำเนินการวางท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 นิ้ว เพื่อนำก๊าชธรรมชาติจากอ่าวไทยมาทดแทนพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานที่สะอาดที่สุดสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าในขณะนี้
โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้นและรองรับการใช้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีอัตราการใช้ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีได้เป็นอย่างดี โดยจะสามารถจัดส่งก๊าชธรรมชาติได้ 72 ล้านลูกบากศ์ฟุตต่อวัน ซึ่งในปัจจุบันโรงไฟฟ้าเขาหัวควาย มีเครื่องจักรกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซจำนวน 2 เครื่อง เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าโดยมีกำลังการผลิตเครื่องละ 100 เมกะวัตต์
นายธีระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางจังหวัดยังเสนอโครงการพัฒนาบึงขุนทะเล บนเนื้อที่ 1,220 ไร่บริเวณตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวสุราษฎร์ โครงการวางท่อประปาสู่พื้นที่ของฝั่งบางใบไม้ อำเภอเมือง ซึ่งราษฎรจำนวน 6 ตำบล ยังไม่มีน้ำประปาใช้ รวมทั้งตำบลสีเล็ด อำเภอพุนพินด้วย และโครงการถมทะเลบริเวณหน้าตลาดหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย เพื่อสร้างชุมชนศูนย์ธุรกิจทันสมัยรองรับเมืองท่องเที่ยวระดับนานานาชาติ โดยโครงการทั้งหมดที่เสนอนั้นคาดว่าจะต้องใช้งบฯในการดำเนินการประมาณ 1,000 ล้านบาท
นายธีระ โรจนพรพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี เปิดเผยว่า ตามที่ พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะมีกำหนดเดินทางมาตรวจราชการอย่างไม่เป็นทางการที่จังหวัดสุราษฏร์ธานีในวันที่ 15 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ทางจังหวัดเตรียมที่จะเสนอโครงการพัฒนาเร่งด่วนเพื่อของบประมาณมาดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ในเชิงบูรณาการและแผนพัฒนาจังหวัดแบบยั่งยืน
สำหรับโครงการที่จะเสนอเพื่อของบฯได้แก่ 1.โครงการวางท่อก๊าซธรรมชาติจากโรงแยกก๊าซขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อมาเชื่อมกับโรงไฟฟ้าเขาหัวควาย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร โดยโครงการดังกล่าวจะดำเนินการวางท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 นิ้ว เพื่อนำก๊าชธรรมชาติจากอ่าวไทยมาทดแทนพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานที่สะอาดที่สุดสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าในขณะนี้
โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้นและรองรับการใช้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีอัตราการใช้ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีได้เป็นอย่างดี โดยจะสามารถจัดส่งก๊าชธรรมชาติได้ 72 ล้านลูกบากศ์ฟุตต่อวัน ซึ่งในปัจจุบันโรงไฟฟ้าเขาหัวควาย มีเครื่องจักรกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซจำนวน 2 เครื่อง เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าโดยมีกำลังการผลิตเครื่องละ 100 เมกะวัตต์
นายธีระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางจังหวัดยังเสนอโครงการพัฒนาบึงขุนทะเล บนเนื้อที่ 1,220 ไร่บริเวณตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวสุราษฎร์ โครงการวางท่อประปาสู่พื้นที่ของฝั่งบางใบไม้ อำเภอเมือง ซึ่งราษฎรจำนวน 6 ตำบล ยังไม่มีน้ำประปาใช้ รวมทั้งตำบลสีเล็ด อำเภอพุนพินด้วย และโครงการถมทะเลบริเวณหน้าตลาดหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย เพื่อสร้างชุมชนศูนย์ธุรกิจทันสมัยรองรับเมืองท่องเที่ยวระดับนานานาชาติ โดยโครงการทั้งหมดที่เสนอนั้นคาดว่าจะต้องใช้งบฯในการดำเนินการประมาณ 1,000 ล้านบาท