ศูนย์ข่าวภาคอีสาน- สภาพัฒน์ห่วงปัญหาราคาน้ำมันแพง กระทบเศรษฐกิจภาคอีสาน เผยราคาน้ำมัน ดันค่าขนส่งเพิ่ม อีกทั้งส่งผลต่อค่าไฟฟ้าสูง กระทบต้นทุนธุรกิจใน 4 หมวดหลักเพิ่มขึ้นทั้งภาคอีสาน เชื่อผลกระทบไม่รุนแรง เหตุขนาดฐานรายได้คนอีสานมีเพียงร้อยละ 11 ของประเทศ ด้านผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจภาคอีสาน ไตรมาสแรกปี 47 ลดลงแทบทุกหมวดจากปลายปีที่แล้ว
นายเดชา วาณิชวโรตม์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจอีสานว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคอีสานช่วงเดือนมกราคม ถึงเมษายน 2547 ปรับตัวดีขึ้น แต่ต้องมาเจอกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน ที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจอีสานชะลอตัวลง
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตในภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจขนส่งได้รับผลกระทบชัดเจนที่สุด ซึ่งภาคธุรกิจขนส่งดังกล่าว เชื่อมโยงกับธุรกิจแทบทุกหมวดที่ต้องใช้การขนส่งสินค้า ขณะเดียวกันน้ำมันที่แพงขึ้น ส่งผลตรงต่อค่าไฟฟ้าที่เก็บจากภาคธุรกิจและผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย ต้องปรับตัวตามราคาน้ำมัน เกิดต้นทุนการดำเนินงานทางธุรกิจสูงขึ้น
ผลกระทบที่เกิดขึ้นในภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ 4 หมวดหลักของภาคอีสาน ภาคการเกษตร เกิดผลกระทบในส่วนของต้นทุนค่าขนส่ง เพราะต้องใช้การขนส่งสินค้าเพื่อขนส่งวัตถุดิบการเกษตร และผลิตภัณฑ์สู่ตลาด ส่วนภาคอุตสาหกรรมการผลิต ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ได้ทำให้ต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมปรับตัวตามไปด้วยทั้งจากค่าไฟฟ้าและค่าขนส่ง
นายเดชากล่าวต่อว่า ภาคการค้า มีแนวโน้มที่สินค้า อาจต้องปรับราคาขึ้น ตามต้นทุนค่าขนส่งสินค้า และเศรษฐกิจในภาคบริการ ได้รับผลกระทบ จากค่าไฟฟ้า และผลกระทบจากประชาชนลดการบริโภคและชะลอการใช้จ่าย ขณะนี้ธุรกิจก่อสร้างที่อยู่อาศัย เกิดปัญหาราคาวัตถุดิบก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น ทั้งปูน และเหล็ก ทำให้การก่อสร้างที่อยู่อาศัยโดยรวมชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อภาคธุรกิจต่างๆ และการจ้างงานในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพงในภาคอีสาน เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นและทั้งประเทศ ภาคอีสานได้รับผลกระทบไม่รุนแรงนัก เนื่องจากขนาดเศรษฐกิจของภาคอีสาน มีฐานรายได้ประชากรเพียง 11% ของประเทศ ผลกระทบในส่วนกลาง และภูมิภาคอื่น จะได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่ามาก
ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจลดแทบทุกหมวด
ผู้อำนวยกาสภาพัฒน์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวถึงผลการสำรวจภาวะธุรกิจไตรมาสที่ 1 ปี 2547 ว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไตรมาสแรกปี 2547 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าแย่ลง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ส่วนหนึ่งมาจากบรรยากาศทางการเมือง โดยเฉพาะปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การระบาดไข้หวัดนกและภาวะต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการในการดำเนินงานสุทธิลดลง
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจไตรมาสแรกปีนี้ ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายปี 2546 โดยเกือบทุกหมวดอยู่ในระดับต่ำกว่า 50% ยกเว้นกิจการโรงแรมและการประกันภัย ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจรวมลดลงมาอยู่ที่ระดับ 48.26%
การสำรวจภาวะธุรกิจของภาคอีสาน ได้สรุปจากการสอบถามผู้ประกอบการธุรกิจ 7 ประเภท ได้แก่ อุตสาหกรรม การค้าส่งค้าปลีก การก่อสร้าง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กิจการโรงแรม ภัตตาคารและประกันภัย โดยสำรวจในพื้นที่ 6 จังหวัดได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี หนองคาย และมุกดาหาร
ภาวะธุรกิจอุตสาหกรรมโดยรวมไตรมาสแรกปีนี้ชะลอตัวลง เทียบกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา แม้จะมีคำสั่งซื้อมาก ราคาต่อหน่วยเพิ่มขึ้น แต่ยอดขายและปริมาณการส่งออกไตรมาสแรกนี้ลดลง ขณะที่ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่ม ผลประกอบการสุทธิของกิจการลดลง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอ อุปกรณ์การขนส่งและชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมอาหาร ยกเว้นอุตสาหกรรมประเภทเครื่องดื่ม ที่มีผลการดำเนินงานดี
นายเดชา กล่าวถึงธุรกิจค้าปลีกค้าส่งว่า ไตรมาสแรกปีนี้ปรับตัวลงจากไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมา กิจการมียอดขายสินค้าลดลง มีสต็อกสินค้าและต้นทุนการดำเนินงานเพิ่ม เช่นเดียวกับธุรกิจก่อสร้าง ยังคงซบเซาต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา ปัญหาส่วนหนึ่งจากต้นทุนสินค้าก่อสร้างโดยเฉพาะเหล็กมีราคาสูงขึ้น และต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น และการกระจายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐมาสู่ภูมิภาคลดลง
ผู้ประกอบการในธุรกิจก่อสร้างส่วนใหญ่ เชื่อมั่นว่าธุรกิจในหมวดนี้จะยังคงซบเซาต่อเนื่องไปจนสิ้นไตรมาสที่สองปี 2547 เนื่องจากโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยของภาคเอกชนมีแนวโน้มลดลง
อย่างไรก็ตาม กิจการโรงแรม กลับปรับตัวดีขึ้น มีสาเหตุจากเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้ปริมาณการจองห้องพัก อัตราการใช้ห้องพัก และรายได้อื่นนอกเหนือจากค่าที่พักเพิ่มขึ้น โดยผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจประกันภัยปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน มีจำนวนเงินฝากประกัน และจำนวนผู้เอาประกันเพิ่มขึ้น ธุรกิจมีการขยายการลงทุน และจ้างงานเพิ่ม
ทั้งนี้มีข้อคิดเห็นจากผู้ประกอบการภาคอีสาน ที่สะท้อนถึงรัฐบาลควรมีมาตรการปลูกจิตสำนึกแรงงานภาคอุตสาหกรรม ให้มีทัศนคติของการเป็นผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อให้แรงงานมีคุณภาพ และลดปัญหาข้อขัดแย้ง และรัฐบาลควรส่งเสริมให้ประชาชนออมเงิน มากกว่าเอาเงินในอนาคตมาใช้เพื่อการบริโภค และแก้ปัญหาคอรัปชั่นอย่างจริงจังเพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ
ขณะเดียวกันนโยบายคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร ที่กระทรวงไอซีทีผลักดันให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้คอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึงนั้น ผู้ประกอบการได้สะท้อนในนโยบายดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการค้าด้านไอที เพราะเป็นการแทรกแซงราคาและส่งผลให้ภาวะการค้าชะงักงันเนื่องจาก รอราคาที่ทางการประกาศ ส่วนการธุรกิจในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และภัตตาคาร นั้นไม่สามารถประมวลผลได้ เนื่องจากมีผู้ตอบแบบสอบถามน้อย