สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า กรณีสื่อมวลชนประจำกระทรวง ไอซีที ออกมาระบุว่า มีการติดตั้งไมโครโฟนขนาดจิ๋วเพื่อดักฟังในห้องนักข่าวประจำกระทรวงและทางกระทรวง ได้ออกมาชี้แจงข่าวไปแล้ว และได้เชื้อเชิญ สมาคมนักข่าวฯ ให้ส่งตัวแทนเข้าเป็น 1 ในคณะกรรมการที่ รมว.ไอซีทีได้แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนในเรื่องนี้นั้น คณะกรรมการสมาคมฯได้มีการหารือร่วมกันแล้ว มีมติว่า จะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการ
ทั้งนี้เพราะสมาคมฯ จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1ชุด มีนายภัทระ คำพิทักษ์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพเป็นประธาน เพื่อทำการสอบสวนในเรื่องนี้เพราะถือว่า หากมีการกระทำเช่นนั้นจริง เป็นการละเมิดสิทธิและขัดกับรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมาย หลักของประเทศอย่างร้ายแรง ดังนั้นจึงต้องการให้มีการสอบสวนหาความจริง เป็นแบบคู่ขนานกัน
โดยนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ เลขาธิการสมาคมฯ ได้ประสานเพื่อขอความ ร่วมมือกับ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.ไอซีที. แล้วว่า สมาคมฯจะมีการตั้งคณะทำงาน เพื่อทำการสอบสวนเรื่องนี้และขอให้กระทรวงไอซีทีให้ความร่วมมือในการให้เอกสาร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวง สอบสวนเสร็จแล้วให้กระทรวงเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งรมว.ไอซีที ได้ตกลง ให้ความร่วมมือในข้อเสนอทั้งหมด
นอกจากนี้ที่ประชุมได้ ตั้งข้อสังเกตว่า คำชี้แจงของผู้ที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงไอซีทีนั้นยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่อีกหลายประการ ซึ่งคณะทำงานของ สมาคมฯจะรีบดำเนินการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้กระจ่างชัดโดยเร็ว เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนอย่างร้ายแรง และถือเป็นการละเมิดตามมาตรา 39 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุถึงสิทธิเสรีภาพของสื่อ การจำกัดเสรีภาพมิอาจทำได้
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.พ.สุรพงษ์ ยืนยันไม่มีเจตนาดักฟังการสนทนาในห้องสื่อมวลชนว่า ยิ่งฟังการชีี้แจงแล้ว ยิ่งชวนให้สงสัยว่า มีลับลมคมในอะไรกันมากมาย หรือไม่
ส่วน รมว.ไอซีที ควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไร นายบัญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้สำคัญอยู่ที่ว่ารัฐมนตรีรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และถือเป็นเรื่องที่จะต้องทำความชัดเจนให้ปรากฎ ทั้งนี้โดยปกติ ฝ่ายประจำระมัดระวังตัวอยู่แล้ว ไม่ชอบ ทำอะไรที่เป็นเหตุให้ตัวเองรับผิดชอบ เว้นแต่ว่า จะมีสัญญาณอะไรลงมา และครั้งนี้ ก็เป็น หน้าที่ของรัฐมนตรีที่จะต้องทำความเข้าใจ แต่สิ่งสำคัญคือ เมื่อทำความเข้าใจ แล้วสังคมจะเชื่อหรือไม่ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐมนตรีชี้แจงว่าห้องดังกล่าวเป็นห้องแถลงเดิม ที่ติดไมค์ ไว้เพื่อให้ได้ยินไปถึงห้องปฏิบัติการนั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า เวลาที่รัฐมนตรีหรือ ฝ่ายการเมืองแถลงข่าว ทุกส่วน ต้องอยู่ในความพร้อมที่จะแถลงอยู่แล้ว หากจะอะไรสงสัย ก็สามารถขอข้อมูลได้เรื่องที่จะใช้ไมโครโฟนให้ข้อมูล เพิ่มเติมนั้นไม่เคยมี
ทั้งนี้เพราะสมาคมฯ จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1ชุด มีนายภัทระ คำพิทักษ์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพเป็นประธาน เพื่อทำการสอบสวนในเรื่องนี้เพราะถือว่า หากมีการกระทำเช่นนั้นจริง เป็นการละเมิดสิทธิและขัดกับรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมาย หลักของประเทศอย่างร้ายแรง ดังนั้นจึงต้องการให้มีการสอบสวนหาความจริง เป็นแบบคู่ขนานกัน
โดยนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ เลขาธิการสมาคมฯ ได้ประสานเพื่อขอความ ร่วมมือกับ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.ไอซีที. แล้วว่า สมาคมฯจะมีการตั้งคณะทำงาน เพื่อทำการสอบสวนเรื่องนี้และขอให้กระทรวงไอซีทีให้ความร่วมมือในการให้เอกสาร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวง สอบสวนเสร็จแล้วให้กระทรวงเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งรมว.ไอซีที ได้ตกลง ให้ความร่วมมือในข้อเสนอทั้งหมด
นอกจากนี้ที่ประชุมได้ ตั้งข้อสังเกตว่า คำชี้แจงของผู้ที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงไอซีทีนั้นยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่อีกหลายประการ ซึ่งคณะทำงานของ สมาคมฯจะรีบดำเนินการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้กระจ่างชัดโดยเร็ว เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนอย่างร้ายแรง และถือเป็นการละเมิดตามมาตรา 39 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุถึงสิทธิเสรีภาพของสื่อ การจำกัดเสรีภาพมิอาจทำได้
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.พ.สุรพงษ์ ยืนยันไม่มีเจตนาดักฟังการสนทนาในห้องสื่อมวลชนว่า ยิ่งฟังการชีี้แจงแล้ว ยิ่งชวนให้สงสัยว่า มีลับลมคมในอะไรกันมากมาย หรือไม่
ส่วน รมว.ไอซีที ควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไร นายบัญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้สำคัญอยู่ที่ว่ารัฐมนตรีรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และถือเป็นเรื่องที่จะต้องทำความชัดเจนให้ปรากฎ ทั้งนี้โดยปกติ ฝ่ายประจำระมัดระวังตัวอยู่แล้ว ไม่ชอบ ทำอะไรที่เป็นเหตุให้ตัวเองรับผิดชอบ เว้นแต่ว่า จะมีสัญญาณอะไรลงมา และครั้งนี้ ก็เป็น หน้าที่ของรัฐมนตรีที่จะต้องทำความเข้าใจ แต่สิ่งสำคัญคือ เมื่อทำความเข้าใจ แล้วสังคมจะเชื่อหรือไม่ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐมนตรีชี้แจงว่าห้องดังกล่าวเป็นห้องแถลงเดิม ที่ติดไมค์ ไว้เพื่อให้ได้ยินไปถึงห้องปฏิบัติการนั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า เวลาที่รัฐมนตรีหรือ ฝ่ายการเมืองแถลงข่าว ทุกส่วน ต้องอยู่ในความพร้อมที่จะแถลงอยู่แล้ว หากจะอะไรสงสัย ก็สามารถขอข้อมูลได้เรื่องที่จะใช้ไมโครโฟนให้ข้อมูล เพิ่มเติมนั้นไม่เคยมี