xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ใหญ่ลีในหนังโฆษณา : แง่คิดใหม่จากของเก่า

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

ท่านผู้อ่านที่อยู่ในวัย 10 ปีขึ้นไป ในปี พ.ศ. 2504 คงเคยได้ยินเพลงล้อเลียนพฤติกรรมองค์กรโดยรวมของข้าราชการในสังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ภายใต้ชื่อเพลงผู้ใหญ่ลี และมีอยู่ไม่น้อยที่จำเนื้อร้องของเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี

เพลงนี้ได้นำเอาตัวละครที่ชื่อผู้ใหญ่ลีมาเป็นตัวแทนความไม่เข้าใจคำสั่งการจากเจ้านายเหนือขึ้นไป และผ่านทางพฤติกรรมที่แสดงออกเป็นธรรมชาติของผู้ใหญ่ลี ทำให้ผู้ฟังมองเห็นช่องว่างแห่งวุฒิภาวะของผู้สั่ง และผู้รับคำสั่งผ่านทางการสื่อความหมายที่เข้าใจไม่ตรงกันได้เป็นอย่างดี

เริ่มด้วยการบรรยายบุคลิกภาพที่ขาดความรู้ ความเข้าใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ผ่านอากัปกิริยาของผู้ใหญ่ลี ในขณะขี่ม้าเดินทางประชุมท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัด และได้นำแว่นดำมาใส่ทำให้มองเห็นท้องฟ้ามืดครึ้ม และกลัวว่าฝนจะตกลงมาจึงได้ถอดแว่นตาออก และในทันใดนั้นปรากฏว่าท้องฟ้าเจิดจ้าขึ้นมา

โดยนัยแห่งเนื้อเพลงท่อนนี้เป็นการปูพื้นเพื่อให้ผู้ฟังมองเห็นอัตวิสัยของคนที่เข้าใจสรรพสิ่งตามที่ตาเห็นโดยมิได้มีการหาเหตุผลเพิ่มเติม

อีกท่อนหนึ่งของเพลงได้บรรยายให้เห็นความแตกต่างแห่งวุฒิภาวะระหว่างผู้สั่งกับผู้รับคำสั่ง ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดช่องว่างในการสื่อความหมาย และเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายในการปฏิบัติงาน โดยผ่านทางพฤติกรรมของผู้ใหญ่ลีในการประชุมลูกบ้านเพื่อแจ้งให้ทราบว่า ทางราชการได้สั่งให้ชาวบ้านเลี้ยงเป็ดและสุกร

แต่เมื่อถูกลูกบ้านที่ชื่อตาสีถามว่า สุกรคืออะไร ผู้ใหญ่ลีก็ลุกขึ้นตอบโดยไม่ลังเลว่า คือหมานั่นเอง

โดยนัยแห่งเพลงท่อนนี้ ทำให้ผู้ฟังมองเห็นความไม่พร้อมในการเตรียมการเพื่อพัฒนาประเทศที่ระดับนโยบายได้ออกนโยบายมาโดยไม่คำนึงถึงความพร้อมของผู้ที่จะรับนโยบายไปปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบุคลากรที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาของนโยบายที่สั่งลงมา

อีกประการหนึ่ง เพลงนี้ได้เกิดในขณะที่รัฐบาลเร่งการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ และมีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชาติขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อว่า สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และมีการประกาศใช้แผน 1 ในช่วงนี้

ดังนั้น เหตุเกิดหรือที่มาของเพลงนี้น่าจะมีส่วนมาจากนโยบายเร่งพัฒนาประเทศ โดยการออกนโยบายใหม่มาและไม่สอดคล้องกับความรู้ความสามารถของข้าราชการในระดับปฏิบัติก็เป็นไปได้

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเพลงนี้จะมีเจตนารมณ์เพื่อการล้อเลียนระบบราชการอยู่บ้าง แต่โดยเนื้อหาสาระแล้ว ถ้าผู้ฟังมีวิจารณญาณในการคิดใคร่ครวญแล้วก็มองเห็นว่า เพลงนี้ได้ให้ปรัชญาแห่งการบริหารบุคคลไว้ชัดเจนในประเด็นที่ว่า ในการสั่งการนั้น คำสั่งจะต้องสั้นและชัดเจน ไม่ต้องตีความ ทั้งจะต้องมีความรู้ความสามารถตลอดจนถึงความเข้าใจของผู้รับคำสั่งด้วยจึงจะเกิดประโยชน์ ทั้งหมดนี้คือการมองในแง่ของสาระที่ได้จากเพลงผู้ใหญ่ลี

แต่ถึงแม้ว่าไม่มองลงลึกไปถึงแง่คิดที่อยู่เบื้องหลังของการเขียนเพลงผู้ใหญ่ลี ก็ได้รับนิยมชมชอบจากผู้ฟังในยุคนั้นอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ น่าจะมาจากเหตุผลดังต่อไปนี้

1. คำร้องของเพลงนี้เขียนด้วยภาษาถิ่นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้แต่งได้สรรหาคำที่ฟังแล้วทำให้มองเห็นภาพอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบาย เหมือนกับที่เราๆ ท่านๆ นั่งฟังเพลงพร้อมกับดูมิวสิกวิดีโออย่างไรอย่างนั้น ดังจะเห็นได้จากเนื้อเพลงที่บรรยายถึงอากัปกิริยาของผู้ใหญ่ลีที่ว่า "ผู้ใหญ่ลีขี่ม้าสัญจร แดดฮ้อนๆ ใส่แว่นตาดำ ผู้ใหญ่ลีกลัวฝนจะตกงำ ถอดแว่นตาดำฟ้าแจ้งจางปาง" เป็นต้น

2. ทำนองได้ใช้ดนตรีพื้นบ้านผสมกับดนตรียุคใหม่ บรรเลงคล้องกับเนื้อร้องได้อย่างกลมกลืนชนิดฟังแล้วเข้าใจเป็นอย่างดี ประกอบกับนักร้องหญิงที่ร้องเพลงนี้ก็ร้องได้ไพเราะน่าฟังด้วย

ไม่ว่าเพลงผู้ใหญ่ลีจะมีเนื้อหาล้อเลียนระบบราชการ และเป็นที่นิยมของผู้ฟังในยุคนั้นขนาดไหน แต่ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลหนึ่งบุคคลใดจากระบบราชการได้ออกมาทักท้วงผู้ประพันธ์ ผู้ร้อง และสถานีวิทยุซึ่งเป็นผู้เผยแพร่แต่ประการใด นี่คือเหตุการณ์เกี่ยวกับเพลงผู้ใหญ่ลีเมื่อ 40 กว่าปีมาแล้ว

บัดนี้ ผู้ใหญ่ลีกลับมาอีกครั้งในหนังโฆษณาของธนาคารกรุงไทย โดยการนำเนื้อหาของเพลงเดิมมาดัดแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจของธนาคาร ด้วยการยกเอาบทของผู้ใหญ่ลีตอนเรียกประชุมลูกบ้าน และแจ้งให้ทราบว่ามีการให้ทำผลิตภัณฑ์โดยเริ่มจากการนำท่อนซุงขนาดใหญ่มาทำเป็นเรือ แต่ปรากฏว่าไม่เป็นเรือตามที่ต้องการ จึงเปลี่ยนทำเป็นชุดรับแขก แต่แล้วชุดรับแขกก็ไม่บรรลุผล จึงเปลี่ยนเป็นเขียงแทน และแล้วเขียงก็เป็นเขียงที่ใช้การไม่ได้อีก สุดท้ายจึงทำได้แต่ไม้จิ้มฟัน แล้วปิดท้ายหนังโฆษณาเรื่องนี้ว่า "ถ้าขาดทุนทางปัญญา เงินที่ได้มาก็ไม่เหลือ"

ผู้ใหญ่ลีในเรื่องนี้ก็ไม่ต่างไปจากผู้ใหญ่ลีในยุคก่อน คือ ไม่สามารถจะนำนโยบายที่รับมาจากหน่วยเหนือมาวางแผน แล้วนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติได้เช่นเคย และที่เป็นเช่นนี้น่าจะมาจากข้อบกพร่องในแง่การจัดการอย่างน้อย 2 ประการ คือ

1. เมื่อรับนโยบายมาจากรัฐในการนำทุนเงินมาพัฒนาหมู่บ้านแล้ว แทนที่ผู้ใหญ่ลีจะเปิดโอกาสให้ลูกบ้านที่เข้าร่วมประชุมได้มีส่วนในการร่วมคิดในลักษณะการประชุม เพื่อระดมสมอง แต่กลับสั่งการโดยอาศัยความคิดของตนเองเพียงผู้เดียว ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและมีอยู่ในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ประชาชนมีส่วนในการคิด และกระทำในสิ่งที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการกระทำนั้น

ดังนั้น ถ้าจะเปรียบผู้ใหญ่ลีในยุคก่อนที่ปกครองในระบอบเผด็จการ ผู้ใหญ่ลีในยุคนี้สะท้อนความบกพร่องของระบบการปกครองได้ยากกว่าในยุคก่อน และมองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนโยบายการให้ประชาชนมีแหล่งเงินทุน แต่ไม่สร้างทุนทางปัญญาควบคู่ไปด้วย และก่อให้เกิดปัญหาหนี้เสียกับธนาคารที่ปล่อยกู้ได้ในที่สุด และนี่เองที่ผู้เขียนคิดว่าสิ่งที่ผู้ทำหนังโฆษณาเรื่องนี้ต้องการจะสื่อ มิใช่เพื่อต้องการจะล้อเลียนผู้ใหญ่บ้านเป็นรายบุคคล หรือทั้งระบบแต่อย่างใด

แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ได้มีนายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ออกมาทักท้วงในหนังเรื่องนี้ว่าเป็นการหมิ่นสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และขอร้องให้ผู้เกี่ยวข้องกับโฆษณาชิ้นนี้แก้ไข

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้เขียนได้ยินข่าวนี้แล้วก็รู้สึกเห็นใจกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในฐานะถูกอ้างอิง หรือนำมาเป็นตัวละครในการล้อเลียนระบบราชการ

แต่ในขณะเดียวกัน ก็เข้าใจเจตนารมณ์ของผู้ทำโฆษณาชิ้นนี้ รวมไปถึงธนาคารกรุงไทยด้วยว่า โดยแท้จริงแล้วคงไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นดูแคลนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นรายบุคคลหรือโดยรวม โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่คิดดีทำดีเพื่อประเทศชาติอันเป็นส่วนรวม เพราะบทของผู้ใหญ่ลีในหนังโฆษณาชิ้นนี้ก็เป็นเพียงปัจเจกบุคคลที่ถูกนำมาเป็นตัวอย่าง เพื่อสื่อให้เห็นถึงความเสียประโยชน์ของประชาชนโดยรวมเท่านั้น และที่สำคัญโดยความเป็นจริงผู้เขียนเชื่อว่าในหมู่คนจำนวนแสน ไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือแม้กระทั่งในหมู่นักบวช ก็มักจะมีปัจเจกบุคคลที่บกพร่องและผิดพลาดอยู่ ทั้งที่โดยเจตนาและไม่เจตนา แต่คนที่คิดดีและทำดีก็ไม่เคยคิดว่า การที่สังคมหรือกฎหมายลงโทษ ผู้ที่กระทำผิดนั่นว่าเป็นการดูถูกดูหมิ่นสมาชิกโดยรวมของหมู่นั้น สังคมนั้นแต่อย่างใด เพราะคนผิดก็คือคนผิด คนถูกก็คือคนถูก จะนำไปพบกันคงไม่ได้

และนี่เองคือสิ่งที่ผู้เขียนอยากแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น