xs
xsm
sm
md
lg

แบบจำลองบริษัท กกท.กับการซื้อหุ้นลิเวอร์พูล

เผยแพร่:   โดย: รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปล่งสำเนียงเสนาะ "ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า" เมื่อนโยบายการขายหวยเพื่อซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลถูกต่อต้านจากประชาสังคมไทย ท่านนายกรัฐมนตรีให้เหตุผล "ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า" ว่า เป็นเพราะการหาเงินด้วยการขายหวยเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง คนยากจนอาจพากันเล่นหวยลิเวอร์พูล เพราะมีรางวัลก้อนงามจูงใจ ทั้งๆ ที่รัฐบาลต้องการขายหวยแก่ผู้มีอันจะกิน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงเดินหน้าซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลอังกฤษต่อไป เพียงแต่เปลี่ยนแปลงวิธีการระดมเงินทุนเท่านั้น
ท่านนายกรัฐมนตรีแสดงความกล้าหาญที่ยอม "ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า" แต่ผมใคร่ขอเรียนว่า นโยบายการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลโดยพื้นฐานเป็นนโยบายที่ไม่ถูกต้อง มิเพียงแต่วิธีการระดมเงินจะไม่ถูกต้องเท่านั้น
ผมมีความเห็นว่า รัฐบาลมิควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสโมสรฟุตบอล เพราะมิใช่กิจธุระหรือหน้าที่ของรัฐบาล ในเมื่อรัฐบาลพรรคไทยรักไทยประกาศนโยบายการถ่ายโอนการผลิตจากภาครัฐบาลไปสู่ภาคเอกชน (Privatization) โดยอ้างว่า วิสาหกิจเอกชนมีประสิทธิภาพในการประกอบการสูงกว่าวิสาหกิจของรัฐ ถึงกับพยายามนำหุ้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยออกขายในตลาดหลักทรัพย์ การดำเนินนโยบายในแนวทางที่ไม่มีเหตุผลสอดรับกันปรากฏอย่างเด่นชัด ในด้านหนึ่งรัฐบาลพยายามแปรรูป กฟผ. ทั้งๆ ที่กิจการการไฟฟ้ากระทบต่อความผาสุกของประชาชนและความมั่นคงของชาติ ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลพรรคไทยรักไทยพยายามซื้อกิจการรถไฟฟ้า รวมตลอดจนซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล การณ์ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นความสับสนของรัฐบาลในการกำหนดบทบาททางเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างชัดเจน
การซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใด มิอาจก่อโภคผลดังที่ผู้นำพรรคไทยรักไทยกล่าวอ้างและพยายามโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาวงการฟุตบอลในประเทศ หรือประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย หากการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลให้ประโยชน์ถึงปานนี้ นานาประเทศก็คงพากันเลือกยุทธวิธีนี้ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ประเทศมหาอำนาจในกีฬาฟุตบอลและประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจมิได้เติบใหญ่ด้วยการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอล แม้แต่ประเทศเดียว
ผู้นำรัฐบาลและบริวารที่ปรึกษาพากันประโคมข่าวว่า การซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลจะได้ Global Brand เป็นผลพลอยได้ แต่ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า การนำยี่ห้อลิเวอร์พูลไปติดเป็นยี่ห้อสินค้าจากโครงการ "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์" ต้องจ่ายค่าเครื่องหมายการค้า ดังนั้น จึงต้องประเมินว่า รายได้ที่ได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นคุ้มกับรายจ่ายค่าเครื่องหมาย การค้าหรือไม่ ทั้งนี้ไม่มีหลักประกันว่า แฟนสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลจะภักดีต่อยี่ห้อถึงกับตามไปซื้อสินค้า OTOP ไทย โดยไม่คำนึงถึงว่า สินค้านั้นจะให้อรรถประโยชน์ในการบริโภคหรือไม่
ในเมื่อนโยบายการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลมิได้ให้ประโยชน์ที่ชัดเจนแก่สังคมไทย รัฐบาลมิควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสโมสรฟุตบอล หากเถ้าแก่หรือเจ้าสัวรายหนึ่งรายใดจะซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลมาประดับบารมี ก็เป็นเรื่องของเถ้าแก่หรือเจ้าสัวรายนั้น
การชี้นำในการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล โดยปราศจากแผนและวิธีการระดมเงินที่ชัดเจน มิเพียงแต่สร้างความสับสนแก่สาธารณชนเท่านั้น แต่ ยังความสับสนในหมู่ผู้นำรัฐบาลและข้าราชการอีกด้วย เพราะแผนและวิธีการ เปลี่ยนเกือบทุกวัน จนในที่สุดจบลงที่แผนที่ผมเรียกว่า "แบบจำลองบริษัท กกท."
ผมขอเรียนว่า แบบจำลองบริษัท กกท. เป็นวิธีการที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่งผู้ที่กอปรด้วยสุจริตธรรมพึงหลีกเลี่ยง
รัฐบาลต้องการให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นเจ้าภาพในการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ทั้งนี้ด้วยการตั้งบริษัทลูกเป็นกลไกในการนี้ ผมตั้งชื่อบริษัทลูกของ กกท. ว่า "บริษัท กกท." เพื่อให้เข้าใจง่าย พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2528 ให้อำนาจ กกท.ในการ จัดตั้งบริษัทธุรกิจได้หรือไม่ เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันได้ ในฐานะคนที่มีความรู้กฎหมายไม่มาก และไม่เคยทำหน้าที่เนติบริกร ผมไม่เข้าใจว่า องค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ "...มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมการกีฬาและควบคุมการดำเนินกิจการกีฬาได้กว้างขวางและมีประสิทธิภาพยิ่ง..." เหตุใดจึงสามารถประกอบธุรกิจได้ ไม่มีบทบัญญัติใดๆ ในกฎหมายนี้ที่ให้อำนาจ กกท. ประกอบธุรกิจโดยชัดเจน
สถานะของบริษัท กกท. ก่อให้เกิดข้อกังขาและส่งกลิ่นความไม่ชอบมาพากลอย่างรุนแรง ในเบื้องต้น ผู้นำรัฐบาลไม่ต้องการให้บริษัท กกท. เป็นรัฐวิสาหกิจ เพราะคงมีความกระดากใจที่รัฐบาลชูนโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แต่กลับมาจัดตั้งรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น คำถามพื้นฐานมีอยู่ว่า ในเมื่อบริษัท กกท. มิได้ตั้งใจให้เป็นรัฐวิสาหกิจ เหตุใด กกท. จึงเจ้ากี้เจ้าการในการจัดตั้งบริษัทนี้ ในเวลาต่อมาผู้นำรัฐบาลบางภาคส่วนเริ่มกล่าวถึงบริษัท กกท. ในฐานะรัฐวิสาหกิจ
ตามแผนการของรัฐบาล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติจัดสรรเงิน 1 ล้านบาทให้ กกท. จัดตั้งบริษัทลูกเพื่อซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และให้บริษัท กกท. ออกหวยขายแก่ประชาชน อำนาจในการออกหวยเป็นอำนาจผูกขาดของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อันเป็นที่มาของแรงดูดซับส่วนเกินทางเศรษฐกิจจากประชาชน การผ่องถ่ายอำนาจการออกหวยไปให้แก่บริษัท กกท.มีผลในการถ่ายโอนกำไรจากการผูกขาดจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไปให้แก่บริษัท กกท. โดยที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมิได้รับผลต่างตอบแทน ผู้กุมอำนาจการบริหารจัดการบริษัท กกท.อยู่ในฐานะที่จะสวาปามกำไรจากการผูกขาดนี้ หากการบริหารจัดการบริษัทปราศจากธรรมาภิบาล
การถ่ายเงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อจัดตั้งบริษัท กกท. และการผ่องถ่ายอำนาจการออกหวยไปให้บริษัท กกท. เป็นเรื่องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นประเด็นข้อกฎหมายที่ถกเถียงกันได้ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นขุมทรัพย์ที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยใช้ล้วงเงินไปดำเนินนโยบายต่างๆ บางนโยบายก็เป็นคุณต่อแผ่นดิน แต่การถ่ายเงินและการผ่องถ่ายอำนาจการออกหวยให้แก่บริษัท กกท. โดยที่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า บริษัท กกท. มีสถานะเป็นวิสาหกิจเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ น่าจะเป็นประพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล เหตุไฉนรัฐบาลจึงสามารถล้วงเงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไปใช้ในโครงการอะไรก็ได้ ช่องโหว่ดังกล่าวนี้น่าจะเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณต่อระบบการคลัง เพราะการใช้เงินนอกงบประมาณปลอดพ้นจากการถ่วงดุลและการตรวจสอบจากรัฐสภา
มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้จัดสรรดังนี้
(1) ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัล
(2) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 28 เป็นรายได้แผ่นดิน
(3) ไม่เกินกว่าร้อยละ 12 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร ซึ่งรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย
บทบัญญัติในมาตรา 22 ไม่เกื้อกูลให้ฝ่ายบริหารล้วงเงินได้ ยกเว้นการ ล้วงจาก (3) ในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายการบริหาร ซึ่งไม่น่าจะเป็นการล้วงเงินที่ชอบด้วยเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย ในประการสำคัญ กฎหมายฉบับนี้มิได้ให้อำนาจคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่องถ่ายอำนาจการออกหวยให้ผู้อื่น
ตามแผนการของผู้นำรัฐบาล บริษัท กกท. จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย แต่การเป็นบริษัทจดทะเบียนต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทที่เพิ่งจัดตั้งมิอาจแปรสภาพเป็นบริษัทจดทะเบียนโดยฉับพลัน แต่ผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์รับลูกรัฐบาลอย่างดียิ่ง จนก่อให้เกิดคำถามว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นของใคร
แผนการที่จะให้บริษัท กกท. เป็นบริษัทจดทะเบียน นอกจากจะทำให้บริษัท กกท. ระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ได้แล้ว หุ้นบริษัท กกท.ยังเป็นกลไกในการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ด้วย ซึ่งอาจช่วยเสริมความคึกคักของตลาด
ตามแผนการของผู้นำรัฐบาล บริษัท กกท.ประกอบธุรกรรมเพียง 2 ประเภท ด้านหนึ่ง ซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล อีกด้านหนึ่ง ขายหวย รายได้จากการถือหุ้นมีเฉพาะแต่เงินปันผลที่ได้รับจัดสรรจากสโมสรฟุตบอล ลิเวอร์พูล ซึ่งมีสภาวะความไม่แน่นอนอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคำนึง ถึงข้อเท็จจริงที่ว่า สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ในการสร้างสนามใหม่ รายได้ที่เป็นกอบเป็นกำมาจากการขายหวยจำนวน 10,000 ล้านบาท จ่ายเงินรางวัล 4,000 ล้านบาท และจ่ายเงินซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล 4,600 ล้านบาท คงเหลือเงิน 1,400 ล้านบาท ซึ่งยังมิได้หักค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายหวย ดังนี้ จะเห็นได้ว่า ด้วยการผ่องถ่ายอำนาจ การขายหวยจากสำนักสลากกินแบ่งรัฐบาล บริษัท กกท. มีกำไรจากการขาย หวยระดับพันล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากการใช้อำนาจทางการเมือง ผลที่ตามมาก็คือ บริษัท กกท. นอกจากจะมีสินทรัพย์ในรูปเงินสดระดับพันล้านบาทแล้ว ยังได้หุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลเป็นสินทรัพย์อีกด้วย โดยที่ผู้ที่ข้องเกี่ยวกับบริษัท กกท. มิได้ควักกระเป๋าตัวเองแม้แต่สตางค์แดงเดียว
ประชาชนที่ซื้อหวยจากบริษัท กกท. 1,000 บาท จะได้ถือหุ้น 200 บาท หุ้นที่ถือนี้เป็นหุ้นบริษัท กกท. หาใช่หุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลดังที่โฆษณาชวนเชื่อไม่ (ดูแผนภาพ)

ไม่ทันที่บริษัท กกท. จะจัดตั้งขึ้น การเจรจาซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอล ลิเวอร์พูลเริ่มต้นขึ้นแล้ว บริษัท กกท.มิเพียงแต่มิได้แต่งตั้งคณะผู้แทนการเจรจา หากยังมิได้กำหนดเงื่อนไขการเจรจาด้วย การเดินหน้าในการเจรจามาจากการสั่งการของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว หากนายกรัฐมนตรีต้องการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลเอง นายกรัฐมนตรีชอบที่จะตั้งตัวแทนได้ แต่ต้องรับภาระต้นทุนการเจรจาเอง
ในเมื่อการเจรจาเพื่อซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลใช้ทรัพยากรของแผ่นดิน และองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการนี้ กกท. เข้าไปร่วมถือหุ้น กระบวนการเจรจาจักต้องกระทำด้วยความโปร่งใส จึงจะเป็นปฏิบัติการอันชอบด้วยสุจริตธรรม ประชาชนควรจะได้รับรู้เงื่อนไขการเจรจา รวมทั้งราคาหุ้นที่ตกลงจ่าย ในเมื่อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลมิได้จดทะเบียนใน London Stock Exchange ย่อมไม่มีราคาหุ้นในตลาดที่จะอ้างอิงได้ ราคาหุ้นที่จะซื้อจะขายจึงขึ้นอยู่กับอำนาจต่อรองระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ความไม่โปร่งใสในกระบวนการเจรจาก่อให้เกิดข้อกังขาในใจประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า ราคาหุ้นที่จ่ายแพงเกินไปหรือไม่ ในเมื่อการจ่าย Kickbacks เป็นประพฤติกรรมปกติในวงการฟุตบอลอังกฤษ ข้อกังขาเช่นนี้จะหมดไป หากกระบวนการเจรจาเป็นไปอย่างโปร่งใส
แบบจำลองบริษัท กกท. เป็นแบบจำลองการจัดตั้งบริษัทธุรกิจ โดยอาศัยอำนาจทางการเมือง ในกรณีนี้ได้แก่ การผ่องถ่ายอำนาจการออกหวย จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บริษัทมีเงินทุนสำหรับการประกอบการจากกำไรที่ได้จากการขายหวย โดยที่ผู้เกี่ยวข้องมิได้ควักกระเป๋าตัวเองแม้แต่สตางค์แดงเดียว แบบจำลองบริษัท กกท. จึงเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจทางการเมืองหาผลประโยชน์ส่วนบุคคลจากการใช้อำนาจทางการเมืองนั้น ไม่ต่างจากสภาพการณ์ในทศวรรษ 2490 และทศวรรษ 2500 ความไม่ชอบมาพากลของแบบจำลองบริษัท กกท. ปรากฏโดยชัดแจ้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น