พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดตู้ไปรษณีย์ร้องทุกข์ ว่า มีเขียนมาทุกเรื่อง เจ้าหนี้ก็มี ลูกหนี้ก็มี เรื่องถูกฟ้องไม่เป็นธรรมก็มี
“ ไม่เกิน 3 เดือนนี้ หนี้นอกระบบจะถูกย้ายเข้าไปเป็นหนี้ในระบบหมด”
เมื่อถามว่า จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อคัดแยกหรือไม่
นายกฯ กล่าวว่า มี ตนมีสตาฟ และจะแยกบางเรื่องส่งไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
บางเรื่องส่งไปทีมวิชาการ หรือส่งไปยังผู้ปฏิบัติการในพื้นที่ เช่น เรื่องการถูกข่มขู่ ทำร้าย
เมื่อถามว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านจากต่างจังหวัดหลายราย ต้องการที่จะยื่นเรื่องร้องทุกข์กับมือ นายกรัฐมนตรีโดยตรง นายกฯกล่าวว่า วันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะสั่งในครม. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดติดตั้ง แต่ถ้าหากชาวบ้านยังมองว่าทางจังหวัดยังไม่ให้ความเป็นธรรม จะเข้ามาใน กทม.ก็ไม่เป็นไร
ส่วนที่ผ่านมาเคยมีการร้องเรียนในหน่วยงานต่างๆ แล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตรงนี้เราจะดูหมด อย่างคราวที่แล้วที่ตนเดินทางไปดูในต่างจังหวัด ส่วนต่างๆเราก็ให้เข้าไปช่วยเหลือ เมื่อถามว่าปัญหามีเยอะจะแก้ไขอย่างไร
นายกฯกล่าวว่า ไม่เป็นไร มีหน้าที่แก้ ก็แก้ไป อย่างน้อยประชาชนก็มีทางออกว่า เรื่องของเขาได้มีการรับฟังแล้ว และเขาก็รู้ว่า อีกเดี๋ยวก็จะมีการแก้กัน ต้องหาจังหวะ
หากมาร้องเรียนในเรื่องของพวกมาเฟีย หรือพวกผู้มีอิทธิพล จะดำเนินการอย่างไร
นายกฯกล่าวว่า เราให้เก็บเป็นความลับอยู่แล้ว และบางเรื่องถ้าเรามองแล้วว่าจะเป็นอันตรายต่อคนๆ นั้น เราจะไม่ไปโดยตรง เรามีวิธี
ส่วนการที่ชาวบ้านเรื่องที่จะมาส่งที่ กทม.โดยตรงมากกว่าส่งตามต่างจังหวัดนั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ และทางจังหวัดเองก็ละเลยซึ่งจะต้องมีการลงโทษหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า แน่นอน อย่างคนต่างจังหวัดมาส่งถึงที่
แสดงว่า เขาคับแค้น อย่างไรก็ตาม อะไรที่เป็นความบกพร่อง หรือ ละเลยต่อหน้าที่ ทำงานไม่ดี กลั่นแกล้งประชาชนต้องโดนอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดตู้วันแรก สะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า
บางทีกลไกจากทำเนียบฯ กว่าจะไปถึงพื้นที่มันอาจจะยังมีปัญหาขลุกขลักอยู่ ฉะนั้นประชาชน อาจจะยังไม่ได้รับการบริการ หรือความเป็นธรรมที่ดีพอ ก็จะสะท้อนให้เราเห็นและ เอาไปแก้ได้ ปัญหามันต้องแก้ตลอดเวลา ส่วนสะท้องให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เองก็ยังเข้าถึงประชาชนได้ไม่เต็มที่ ด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า แน่นอน เจ้าหน้าที่ 2 ล้านคน ทั่วประเทศแต่ประชาชน 60 กว่าล้านคน มันก็ต้องมีอะไรที่บกพร่องเป็นธรรมดา แต่เราจะแก้ปัญหา เพื่อให้ประชาชนไม่มีความรู้สึกว่าเขาจน เขาไม่รู้จักใคร จึงไม่ได้รับการดูแล แบบนั้นไม่ได้
นายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย กล่าวถึง กรณีที่จะให้ทุกจังหวัดตั้งตู้ไปรษณีย์ รับเรื่องราวร้องทุกข์ ว่า ตอนนี้กระทรวงมหาดไทย มีศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องราวร้องทุกข์อยู่แล้ว และกำลังเร่งรัดให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายยิ่งขึ้น โดยจะดึงภาคเอกชนมาร่วมกัน และจะให้มีคนรับโทรศัพท์รับเรื่องร้องทุกข์ 24 ชั่วโมง เพื่อว่าราษฎรเดือดร้อนตอนไหน ก็จะได้โทรเข้ามาได้ ซึ่งตนได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย เตรียมการในเรื่องนี้แล้ว ขณะเดียวกันเห็นว่าหากมีตู้ปณ.ที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอีกก็น่าจะยิ่งเป็นผลดียิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่ติดขัดเดือดร้อนมีช่องทางที่ร้องเรียนได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะหากมีช่องทางเดียว ประชาชนอาจจะไม่ทราบว่าจะให้โทรไปที่ไหน เบอร์อะไร
ส่วนจะแยกแยะ เรื่องที่ร้องเรียนอย่างไรให้ให้ซ้ำซ้อนนั้น นายโภคิน กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพียงแต่ว่า เราเปิดช่องให้สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ โดยสะดวกตรงไหน ก็ไปตรงนั้น แต่การแยกแยะ เรื่องก็เหมือนเดิม คือ จะมีการแยกแยะเป็นเรื่องประเภทต่างๆ และ สิ่งไหนแก้ไขได้ ก็แก้ไขเลย หรือสิ่งไหนที่จะต้องส่งไปหน่วยงานอื่น ก็ จะดำเนินการให้ พร้อมกับแจ้งตอบผู้ที่ยื่นมาให้ทราบว่า เวลานี้ขั้นตอนไปถึงไหน อย่างไร เพื่อให้คนที่เดือดร้อนได้สบายใจ
“ ไม่เกิน 3 เดือนนี้ หนี้นอกระบบจะถูกย้ายเข้าไปเป็นหนี้ในระบบหมด”
เมื่อถามว่า จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อคัดแยกหรือไม่
นายกฯ กล่าวว่า มี ตนมีสตาฟ และจะแยกบางเรื่องส่งไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
บางเรื่องส่งไปทีมวิชาการ หรือส่งไปยังผู้ปฏิบัติการในพื้นที่ เช่น เรื่องการถูกข่มขู่ ทำร้าย
เมื่อถามว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านจากต่างจังหวัดหลายราย ต้องการที่จะยื่นเรื่องร้องทุกข์กับมือ นายกรัฐมนตรีโดยตรง นายกฯกล่าวว่า วันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะสั่งในครม. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดติดตั้ง แต่ถ้าหากชาวบ้านยังมองว่าทางจังหวัดยังไม่ให้ความเป็นธรรม จะเข้ามาใน กทม.ก็ไม่เป็นไร
ส่วนที่ผ่านมาเคยมีการร้องเรียนในหน่วยงานต่างๆ แล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตรงนี้เราจะดูหมด อย่างคราวที่แล้วที่ตนเดินทางไปดูในต่างจังหวัด ส่วนต่างๆเราก็ให้เข้าไปช่วยเหลือ เมื่อถามว่าปัญหามีเยอะจะแก้ไขอย่างไร
นายกฯกล่าวว่า ไม่เป็นไร มีหน้าที่แก้ ก็แก้ไป อย่างน้อยประชาชนก็มีทางออกว่า เรื่องของเขาได้มีการรับฟังแล้ว และเขาก็รู้ว่า อีกเดี๋ยวก็จะมีการแก้กัน ต้องหาจังหวะ
หากมาร้องเรียนในเรื่องของพวกมาเฟีย หรือพวกผู้มีอิทธิพล จะดำเนินการอย่างไร
นายกฯกล่าวว่า เราให้เก็บเป็นความลับอยู่แล้ว และบางเรื่องถ้าเรามองแล้วว่าจะเป็นอันตรายต่อคนๆ นั้น เราจะไม่ไปโดยตรง เรามีวิธี
ส่วนการที่ชาวบ้านเรื่องที่จะมาส่งที่ กทม.โดยตรงมากกว่าส่งตามต่างจังหวัดนั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ และทางจังหวัดเองก็ละเลยซึ่งจะต้องมีการลงโทษหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า แน่นอน อย่างคนต่างจังหวัดมาส่งถึงที่
แสดงว่า เขาคับแค้น อย่างไรก็ตาม อะไรที่เป็นความบกพร่อง หรือ ละเลยต่อหน้าที่ ทำงานไม่ดี กลั่นแกล้งประชาชนต้องโดนอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดตู้วันแรก สะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า
บางทีกลไกจากทำเนียบฯ กว่าจะไปถึงพื้นที่มันอาจจะยังมีปัญหาขลุกขลักอยู่ ฉะนั้นประชาชน อาจจะยังไม่ได้รับการบริการ หรือความเป็นธรรมที่ดีพอ ก็จะสะท้อนให้เราเห็นและ เอาไปแก้ได้ ปัญหามันต้องแก้ตลอดเวลา ส่วนสะท้องให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เองก็ยังเข้าถึงประชาชนได้ไม่เต็มที่ ด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า แน่นอน เจ้าหน้าที่ 2 ล้านคน ทั่วประเทศแต่ประชาชน 60 กว่าล้านคน มันก็ต้องมีอะไรที่บกพร่องเป็นธรรมดา แต่เราจะแก้ปัญหา เพื่อให้ประชาชนไม่มีความรู้สึกว่าเขาจน เขาไม่รู้จักใคร จึงไม่ได้รับการดูแล แบบนั้นไม่ได้
นายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย กล่าวถึง กรณีที่จะให้ทุกจังหวัดตั้งตู้ไปรษณีย์ รับเรื่องราวร้องทุกข์ ว่า ตอนนี้กระทรวงมหาดไทย มีศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องราวร้องทุกข์อยู่แล้ว และกำลังเร่งรัดให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายยิ่งขึ้น โดยจะดึงภาคเอกชนมาร่วมกัน และจะให้มีคนรับโทรศัพท์รับเรื่องร้องทุกข์ 24 ชั่วโมง เพื่อว่าราษฎรเดือดร้อนตอนไหน ก็จะได้โทรเข้ามาได้ ซึ่งตนได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย เตรียมการในเรื่องนี้แล้ว ขณะเดียวกันเห็นว่าหากมีตู้ปณ.ที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอีกก็น่าจะยิ่งเป็นผลดียิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่ติดขัดเดือดร้อนมีช่องทางที่ร้องเรียนได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะหากมีช่องทางเดียว ประชาชนอาจจะไม่ทราบว่าจะให้โทรไปที่ไหน เบอร์อะไร
ส่วนจะแยกแยะ เรื่องที่ร้องเรียนอย่างไรให้ให้ซ้ำซ้อนนั้น นายโภคิน กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพียงแต่ว่า เราเปิดช่องให้สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ โดยสะดวกตรงไหน ก็ไปตรงนั้น แต่การแยกแยะ เรื่องก็เหมือนเดิม คือ จะมีการแยกแยะเป็นเรื่องประเภทต่างๆ และ สิ่งไหนแก้ไขได้ ก็แก้ไขเลย หรือสิ่งไหนที่จะต้องส่งไปหน่วยงานอื่น ก็ จะดำเนินการให้ พร้อมกับแจ้งตอบผู้ที่ยื่นมาให้ทราบว่า เวลานี้ขั้นตอนไปถึงไหน อย่างไร เพื่อให้คนที่เดือดร้อนได้สบายใจ