xs
xsm
sm
md
lg

สมคิดขีดเส้นส.อ.ท.1เดือนสมคิดขีดเส้นส.อ.ท.1เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลัง การหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ส.อ.ท.ว่า ได้สั่งการให้ส.อ.ท.ไปรวบรวมประเด็นข้ออุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกระทรวงการคลังภายใน 1 เดือนนี้ เพื่อที่จะนำมาปรับปรุงและแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเป้าหมายหลักของการหารือและดำเนินการเพื่อเป็นการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยให้สูงขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายการเปิดเสรีทางการค้าหรือ FTA กับประเทศต่างๆ
" การทำงานได้เสนอให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างคลังกับส.อ.ท.ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น กระทรวงการคลังพร้อมที่จะรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถนำไปปฎิบัติแก้ไข ขณะเดียวกันเอกชนก็จะต้องมีแผนที่จะช่วยตัวเองด้วย เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรมมากขึ้น หลังจากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปก็จะได้นำเสนอครม.ให้พิจารณาต่อไป ส่วนประเด็นในเรื่องของราคาน้ำมันนั้นไม่ได้มีการหารือกันแต่อย่างใด" นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ยังมอบนโยบายให้หาแนวทางที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(SMEs) ,การวิจัยและพัฒนา (R&D) การฝึกให้ความรู้พัฒนาบุคลากร รวมถึงการศึกษาพัฒนาเครื่องจักรสมัยใหม่ โดยได้มีการเสนอถึงรูปแบบการจัดตั้งกองทุนของเอกชนขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่อง R&D และบุคลากรขึ้นมาโดยเฉพาะเพราะหากจะต้องการพัฒนาจากฝ่ายรัฐและสถาบันการศึกษาอย่างเดียวคงไม่พอ
***นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ กล่าวว่า วันที่ 11 มิ.ย.นี้ จะหารือกันในรายละเอียดระหว่าง ส.อ.ท. กับกรมจัดเก็บภาษีทั้ง 3 กรม เพื่อลงลึกในรายละเอียด เนื่องจากโครงสร้างภาษีศุลกากรกำลังแก้ไขอยู่ยังมีเรื่องค้างอีกประมาณ 100 รายการ เพื่อเป็นการให้รัฐบาลช่วยเหลืออุตสาหกรรมทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำให้เป็นแบบเครือข่าย
ส่วนในสัปดาห์หน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะมีการหารือกับนักธุรกิจชั้นนำ 30 ราย และภาคเอกชนจากสมาคมต่าง ๆ นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็จะนำข้อเสนอหรือเรื่องที่หารือกับภาคเอกชนในวันนี้ (31 พ.ค.) ชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีรับทราบเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขร่วมกัน โดยเฉพาะการดูแลภาคอุตสาหกรรม 9 สาขาหลัก เช่น กลุ่มยานยนต์ สิ่งทอ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตรแปรรูป ภาคการก่อสร้าง ปิโตรเคมี ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขันกับต่างประเทศได้.

แหล่งข่าวจากส.อ.ท.กล่าวว่า มาตรการทางด้านภาษีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ภาคอุตสาหกรรมเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส.อ.ท.ได้รวบรวมเบื้องต้นเพื่อประกอบการเสนอยุทธศาสตร์ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมดังนี้ 1. ปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรให้สอดคล้องกับโครงสร้างการผลิตของอุตสาหกรรม แผนการลดภาษีตามกรอบ AFTA และการลดภาษีภายใต้กรอบ FTA ต่างๆ ซึ่งการดำเนินการส่วนนี้คลังได้ทำเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังมีสินค้าหมวดปิโตรเคมี พลาสติก จำนวน 108 รายการที่เป็นวัตถุดิบอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ส.อ.ท.เห็นว่าควรจะต้องผลักดันการปรับลดภาษี รวมไปถึงเร่งรัดปรับภาษีฯนำเข้าวัตถุดิบที่ไม่มีผลิตในประเทศโดยเร็ว
นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเพื่อส่งเสริม SMEs และระหว่างที่ยังไม่มีการปรังปรุงให้คลังคงมาตรการชดเชยมุมน้ำเงินออกไปจากที่จะยกเลิกมาตรการนี้ในปี 2547 พร้อมกับขอให้สรรพกรเร่งรัดการจัดทำระบบซอฟแวร์อย่างง่ายสำหรับ SMEs หรือให้อัตราภาษีเหมาสำหรับ SMEs เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น