ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สมาคมกอล์ฟจังหวัดภูเก็ตเตรียม ดันภูเก็ตเป็น "สวรรค์นักกอล์ฟในเอเชีย" หรือ "Phuket-The Golf Paradise Of Asia" วางแผนจัดการ แข่งขันกอล์ฟ 5 สนาม 600 กว่าคน ที่ต้องบันทึกลง ใน Guinness Book โปรโมทถึงความพร้อม หวังดึงนักกอล์ฟจากเอเชียเข้ามาภูเก็ตนับ 3 หมื่นรายต่อปี คาดทำเงินสูงเกือบ 3 พันล้านบาท
นายสุรินทร์ บำรุงผล นายกสมาคมกอล์ฟจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมในเรื่องของสนามกอล์ฟ ที่มีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานที่เปิดให้บริการแล้วถึง 4 แห่ง และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่งในปลายปีนี้ ประกอบกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง แต่ที่ผ่านมาภูเก็ตไม่มีกิจกรรมที่เกี่ยวกับกอล์ฟเลย มีแต่กิจกรรมทางด้านอื่นๆ เช่น คิงคัพรีกัตต้า ตกปลานานาชาติ และไตรกีฬา เป็นต้น ทั้งๆ ที่สนามกอล์ฟในภูเก็ตสามารถทำรายได้เข้าภูเก็ตสูงถึงปีละ 2,700 ล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตปีละ 200,000 กว่าคน
ดังนั้น สมาคมกอล์ฟจังหวัดภูเก็ตและผู้ประกอบการสนามกอล์ฟ เห็นว่าน่าที่จะผลักดันให้ภูเก็ตเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟในเอเชีย (Phuket-The Golf Paradise Of Asia) เพื่อดึงให้นักกอล์ฟจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตให้เพิ่มมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านกีฬากอล์ฟ โดยตามแผนงานที่วางไว้ สมาคมกอล์ฟจังหวัดภูเก็ตจะร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมกอล์ฟที่เป็นกิจกรรมใหญ่ๆ ให้มีชื่อเสียงระดับโลกปีละ 1 ครั้ง ในปีแรกของการผลักดันให้ภูเก็ตเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟ ด้วยการจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการดึงนักกอล์ฟจากต่างประเทศ ที่เป็นนักกอล์ฟกลุ่มหลักของภูเก็ตมาเล่นกอล์ฟพร้อมกัน 5 สนาม ประมาณ 600 กว่าคน ททท.จะเป็นผู้เชิญนักกอล์ฟ และสื่อมวลชนด้านกอล์ฟ ที่ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 7 ชั่วโมงในเอเชีย โดยจะจัดการแข่งขันในวันที่ 6 มีนาคม 2548
"การจัดรายการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในครั้งนี้ สมาคมฯต้องการที่จะให้มีการบันทึกใน Guinness Book หรือเป็นการบันทึก World Record เพื่อต้อง การที่จะให้มีการประชาสัมพันธ์การแข่งขันไปทั่วโลก เพื่อที่จะเป็นจุดดึงดูดให้นักกอล์ฟได้รับทราบถึงกีฬากอล์ฟในภูเก็ต และการจัดการแข่งขันดังกล่าวไม่ได้ ดึงนักกอล์ฟอาชีพที่มีชื่อเสียงมากแต่อย่างใด เพราะ นักกอล์ฟมืออาชีพเหล่านั้นไม่มีเวลา ต้องใช้เวลาในการแข่งขันรายการต่างๆ แต่นักกอล์ฟที่จะดึงเข้ามาร่วมการแข่งขัน จะเป็นกลุ่มที่เล่นกอล์ฟแบบมือ สมัครเล่น ที่มีเวลาในการเดินทางมาเล่นกอล์ฟที่ภูเก็ตอย่างแท้จริง เพราะต่อไปกลุ่มนักกอล์ฟเหล่านี้จะเป็นกลุ่มที่เข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตเป็นประจำ"
สำหรับนักกอล์ฟชาวต่างชาติที่เดินทางมาเล่นกอล์ฟในภูเก็ต มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี และเป็นกลุ่ม นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง รวมทั้งเดินทางเข้ามาเป็นครอบครัว จะส่งผลในการท่องเที่ยวด้านอื่นๆ ด้วย โดยกลุ่มหลักที่เข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตจะเป็นกลุ่มที่ใช้เวลาการเดินทางไม่เกิน 7 ชั่วโมง คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย (เพิร์ธ) และอินเดีย ส่วนยุโรปจะเข้ามาในลักษณะ ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนครั้งละหลายวันแล้วใช้เวลาส่วนหนึ่งในการเล่นกอล์ฟ แต่จะเข้ามาในช่วง ไฮซีซั่นเท่านั้น ส่วนกลุ่มเอเชียจะเจาะตรงเข้ามาเล่นกอล์ฟโดยเฉพาะ โดยเฉพาะกลุ่มจากญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาเล่นกอล์ฟที่ภูเก็ตมาก เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า ในประเทศ
นายสุรินทร์ เผยอีกว่า ภูเก็ตมีความพร้อมที่จะผลักดันให้เป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟในเอเชียมาก เพราะขณะนี้ภูเก็ตมีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานเปิดให้บริการแล้ว 4 แห่ง คือ สนามกอล์ฟบลูแคนย่อน คันทรี คลับ มีถึง 2 สนาม 36 หลุม ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกอล์ฟในรายการ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คลาสิก ซึ่งเป็น การแข่งขันระดับเวิลด์ ซีรีส์ ถึง 2 ครั้ง และรายการ เอเซียนเซอร์กิต 2 ครั้ง คือ ฮอนด้า อินวิเตชั่น และ โอเมก้า ทัวร์, สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ เป็นสนาม 18 หลุม และ 9 หลุม เคยจัดการแข่งขันกอล์ฟในรายการ โคไซโด้ เลดี้ส์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ และการแข่งขันกอล์ฟเอเชียนเซอร์กิต โปรเฟสชั่นแนล, สนามกอล์ฟ ล็อก ปาล์ม คันทรีคลับ เป็นสนาม 18 หลุม ที่เคยจัดการแข่งขันภายในประเทศสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น เช่น วอลโว่ ไฮเนเก้น บีเอ็มดับเบิลยู และสนามกอล์ฟลากูน่า
นอกจากทั้ง 4 สนามที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสนามกอล์ฟที่กำลังจะเปิดใหม่อีก 1 แห่งในช่วงปลายปีนี้ คือ สนามกอล์ฟ มิชชั่นฮิลส์ ที่ตำบลป่าคลอก อ.ถลาง ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟใหม่ล่าสุดระดับเวิลด์คลาส ที่ออกแบบ โดยแจ๊ค นิคลอส ถือว่าเป็นสนามที่อยู่ในความสนใจของนักกอล์ฟที่จะเดินทางมาออกรอบมาก และกำลังจะสร้างเพิ่มอีก 9 หลุม รวมทั้งสนามกอล์ฟล็อกปาล์มฯ ก็จะมีการลงทุนเพิ่มอีก 1 สนาม 18 หลุม ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน และเท่าที่ทราบมีนักลงทุนต่างชาติสนใจ ที่จะเข้ามาลงทุนสนามกอล์ฟในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีก แต่ติดปัญหาราคาที่ดินในภูเก็ตมีราคาสูงมาก
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า สนามกอล์ฟที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ คิดว่าเพียงพอกับความต้องการของ นักกอล์ฟที่เข้ามาภูเก็ตในขณะนี้ แต่ในอนาคตคิดว่านักกอล์ฟจะเดินทางเข้ามาภูเก็ตมากขึ้น เพราะนักกอล์ฟที่เข้ามาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คนท้องถิ่น ในภูเก็ตก็นิยมเล่นกอล์ฟกันมากขึ้น และคาดว่าหลังจากที่มีการประชาสัมพันธ์โครงการภูเก็ตกอล์ฟพาราไดส์ แล้ว หวังว่าจะมีนักกอล์ฟเข้ามาภูเก็ตไม่น้อยกว่าปีละ 300,000 คน
นายสุรินทร์ บำรุงผล นายกสมาคมกอล์ฟจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมในเรื่องของสนามกอล์ฟ ที่มีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานที่เปิดให้บริการแล้วถึง 4 แห่ง และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่งในปลายปีนี้ ประกอบกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง แต่ที่ผ่านมาภูเก็ตไม่มีกิจกรรมที่เกี่ยวกับกอล์ฟเลย มีแต่กิจกรรมทางด้านอื่นๆ เช่น คิงคัพรีกัตต้า ตกปลานานาชาติ และไตรกีฬา เป็นต้น ทั้งๆ ที่สนามกอล์ฟในภูเก็ตสามารถทำรายได้เข้าภูเก็ตสูงถึงปีละ 2,700 ล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตปีละ 200,000 กว่าคน
ดังนั้น สมาคมกอล์ฟจังหวัดภูเก็ตและผู้ประกอบการสนามกอล์ฟ เห็นว่าน่าที่จะผลักดันให้ภูเก็ตเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟในเอเชีย (Phuket-The Golf Paradise Of Asia) เพื่อดึงให้นักกอล์ฟจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตให้เพิ่มมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านกีฬากอล์ฟ โดยตามแผนงานที่วางไว้ สมาคมกอล์ฟจังหวัดภูเก็ตจะร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมกอล์ฟที่เป็นกิจกรรมใหญ่ๆ ให้มีชื่อเสียงระดับโลกปีละ 1 ครั้ง ในปีแรกของการผลักดันให้ภูเก็ตเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟ ด้วยการจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการดึงนักกอล์ฟจากต่างประเทศ ที่เป็นนักกอล์ฟกลุ่มหลักของภูเก็ตมาเล่นกอล์ฟพร้อมกัน 5 สนาม ประมาณ 600 กว่าคน ททท.จะเป็นผู้เชิญนักกอล์ฟ และสื่อมวลชนด้านกอล์ฟ ที่ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 7 ชั่วโมงในเอเชีย โดยจะจัดการแข่งขันในวันที่ 6 มีนาคม 2548
"การจัดรายการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในครั้งนี้ สมาคมฯต้องการที่จะให้มีการบันทึกใน Guinness Book หรือเป็นการบันทึก World Record เพื่อต้อง การที่จะให้มีการประชาสัมพันธ์การแข่งขันไปทั่วโลก เพื่อที่จะเป็นจุดดึงดูดให้นักกอล์ฟได้รับทราบถึงกีฬากอล์ฟในภูเก็ต และการจัดการแข่งขันดังกล่าวไม่ได้ ดึงนักกอล์ฟอาชีพที่มีชื่อเสียงมากแต่อย่างใด เพราะ นักกอล์ฟมืออาชีพเหล่านั้นไม่มีเวลา ต้องใช้เวลาในการแข่งขันรายการต่างๆ แต่นักกอล์ฟที่จะดึงเข้ามาร่วมการแข่งขัน จะเป็นกลุ่มที่เล่นกอล์ฟแบบมือ สมัครเล่น ที่มีเวลาในการเดินทางมาเล่นกอล์ฟที่ภูเก็ตอย่างแท้จริง เพราะต่อไปกลุ่มนักกอล์ฟเหล่านี้จะเป็นกลุ่มที่เข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตเป็นประจำ"
สำหรับนักกอล์ฟชาวต่างชาติที่เดินทางมาเล่นกอล์ฟในภูเก็ต มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี และเป็นกลุ่ม นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง รวมทั้งเดินทางเข้ามาเป็นครอบครัว จะส่งผลในการท่องเที่ยวด้านอื่นๆ ด้วย โดยกลุ่มหลักที่เข้ามาเล่นกอล์ฟในภูเก็ตจะเป็นกลุ่มที่ใช้เวลาการเดินทางไม่เกิน 7 ชั่วโมง คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย (เพิร์ธ) และอินเดีย ส่วนยุโรปจะเข้ามาในลักษณะ ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนครั้งละหลายวันแล้วใช้เวลาส่วนหนึ่งในการเล่นกอล์ฟ แต่จะเข้ามาในช่วง ไฮซีซั่นเท่านั้น ส่วนกลุ่มเอเชียจะเจาะตรงเข้ามาเล่นกอล์ฟโดยเฉพาะ โดยเฉพาะกลุ่มจากญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาเล่นกอล์ฟที่ภูเก็ตมาก เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า ในประเทศ
นายสุรินทร์ เผยอีกว่า ภูเก็ตมีความพร้อมที่จะผลักดันให้เป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟในเอเชียมาก เพราะขณะนี้ภูเก็ตมีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานเปิดให้บริการแล้ว 4 แห่ง คือ สนามกอล์ฟบลูแคนย่อน คันทรี คลับ มีถึง 2 สนาม 36 หลุม ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกอล์ฟในรายการ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คลาสิก ซึ่งเป็น การแข่งขันระดับเวิลด์ ซีรีส์ ถึง 2 ครั้ง และรายการ เอเซียนเซอร์กิต 2 ครั้ง คือ ฮอนด้า อินวิเตชั่น และ โอเมก้า ทัวร์, สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ เป็นสนาม 18 หลุม และ 9 หลุม เคยจัดการแข่งขันกอล์ฟในรายการ โคไซโด้ เลดี้ส์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ และการแข่งขันกอล์ฟเอเชียนเซอร์กิต โปรเฟสชั่นแนล, สนามกอล์ฟ ล็อก ปาล์ม คันทรีคลับ เป็นสนาม 18 หลุม ที่เคยจัดการแข่งขันภายในประเทศสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น เช่น วอลโว่ ไฮเนเก้น บีเอ็มดับเบิลยู และสนามกอล์ฟลากูน่า
นอกจากทั้ง 4 สนามที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสนามกอล์ฟที่กำลังจะเปิดใหม่อีก 1 แห่งในช่วงปลายปีนี้ คือ สนามกอล์ฟ มิชชั่นฮิลส์ ที่ตำบลป่าคลอก อ.ถลาง ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟใหม่ล่าสุดระดับเวิลด์คลาส ที่ออกแบบ โดยแจ๊ค นิคลอส ถือว่าเป็นสนามที่อยู่ในความสนใจของนักกอล์ฟที่จะเดินทางมาออกรอบมาก และกำลังจะสร้างเพิ่มอีก 9 หลุม รวมทั้งสนามกอล์ฟล็อกปาล์มฯ ก็จะมีการลงทุนเพิ่มอีก 1 สนาม 18 หลุม ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน และเท่าที่ทราบมีนักลงทุนต่างชาติสนใจ ที่จะเข้ามาลงทุนสนามกอล์ฟในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีก แต่ติดปัญหาราคาที่ดินในภูเก็ตมีราคาสูงมาก
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า สนามกอล์ฟที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ คิดว่าเพียงพอกับความต้องการของ นักกอล์ฟที่เข้ามาภูเก็ตในขณะนี้ แต่ในอนาคตคิดว่านักกอล์ฟจะเดินทางเข้ามาภูเก็ตมากขึ้น เพราะนักกอล์ฟที่เข้ามาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คนท้องถิ่น ในภูเก็ตก็นิยมเล่นกอล์ฟกันมากขึ้น และคาดว่าหลังจากที่มีการประชาสัมพันธ์โครงการภูเก็ตกอล์ฟพาราไดส์ แล้ว หวังว่าจะมีนักกอล์ฟเข้ามาภูเก็ตไม่น้อยกว่าปีละ 300,000 คน