xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการผนึกช่อง11NEWS1 เกาะสถานการณ์เลือกผู้ว่าฯกทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

‘ผู้จัดการ’ ร่วมมือพันธมิตร เกาะติดกระแสเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ให้คนกรุงมีข้อมูลในการตัดสินใจ เผยผลโพล11 ปัญหาในเมืองหลวงที่คนกรุงอยากให้แก้ไข ปัญหายาเสพติดอันดับแรก ขณะที่ปัญหาจราจร เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ผู้ว่าฯต้องรีบจัดการ

วานนี้(30 พ.ค.) สถานีโทรทัศน์ช่อง11 NEWS 1 ได้แถลงข่าว เปิดตัวโครงการ “ร่วมกันทำกรุงเทพฯให้ดีขึ้น” โดยเป็นการจับมือกับพันธมิตรที่ประกอบด้วย น.ส.พ.ผู้จัดการรายวัน บ.ไทยเดย์ดอทคอม BTV สถานีโทรทัศน์ช่อง11 บริษัทดีแทค และ มหาวิทยาลัยหอการค้า เพื่อนำเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

นายสุวัฒน์ ทองธนากุล บรรณาธิการอำนวยการ หนังสือพมิพ์ ผู้จัดการรายวัน กล่าวว่า โครงการดังกล่าว ถือเป็นการจุดพลุครั้งแรก ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือผู้จัดการขณะนี้ ถือว่า เป็นระบบมัลติมีเดีย ที่สมบูรณ์แบบ เพราะมีทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ คือ ผู้จัดการรายวัน รายสัปดาห์ และ รายเดือน และ มีสื่ออิเลกทรอนิกส์ คือ วิทยุผู้จัดการ และ สทท.11 NEWS 1 อย่างครบถ้วน โดยจะมีการบูรณาการสื่อทุกรุปแบบ เพื่อสนองสังคมที่ขณะนี้ถือว่าเป็นสังคมแห่งข้อมูลข่าวสาร และในสภาวการณ์ ขณะนี้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. ไม่เพียงเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของชาวกทม.เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนทั้งประเทศ เนื่องจาก กทม.ถือเป็นมหานครใหญ่ที่รวบรวมทุกปัญหาเอาไว้ด้วยกัน ดังนั้นเราจึงต้องการจะเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน แก่ชาว กทม.เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์ในการนำไปตัดสินใจเลือกผู้บริหาร
 
ทั้งนี้ สถานี สทท.11 NEWS 1 จะเป็นรายการข่าว ตลอด 24 ชม.และแพร่ภาพทาง UBC 19 ระบบเคเบิ้ล และ UBC 77ในระบบดาวเทียม ซึ่งโครงการ “ ร่วมกันทำกรุงเทพฯให้ดีขึ้น” นั้นจะเป็นโครงการต่อเนื่อง 3 เดือน นับจากนี้จนไปกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง นอกจากจะมีการจัดเวทีให้ผู้สมัครมานำเสนอนโยบาย เพื่อให้ชาว กทม.ได้มีข้อมูลสำหรับการตัดสินใจแล้ว ยังจะมีการนำเสนอปัญหาที่ผ่านมุมมองของตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพต่างๆ ซึ่งอยากให้ผู้ว่าฯกทม.ได้นำไปพิจารณาในการแก้ไขปัญหาอีกด้วย

อย่างไรก็ตามในการเปิดตัวโครงการดังกล่าว ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า โดย นายธนวัช ผลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์ ได้เปิดผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อ11 ปัญหาเร่งด่วน ที่คนกทม.อยากให้ผู้ว่าฯกทม.เร่งแก้ไข ซึ่งปรากฏว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง1,515 ตัวอย่าง ใน50 เขตปกครอง ระหว่าง วันที่ 25-27 พ.ค. พบว่า ร้อยละ 91.3 ระบุว่า จะไปเลือกตั้งในครั้งนี้ และร้อยละ 42.7 ได้ตัดสินใจแล้วว่า จะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯกทม. ส่วนร้อยละ 53.3 ยังไม่ตัดสินใจด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไม่มีข้อมูลข่าวสารที่เพียงพอ ยังไม่มีบุคคลและ ยังไม่มีนโยบายที่น่าสนใจ

ส่วนเหตุผลที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครนั้น ร้อยละ 71.4 จะดูที่ความซื่อสัตย์สุจริต รองลงมาร้อยละ 53.1จะต้องไม่มีประวัติด่างพร้อย ร้อยละ 47.3 จะต้องมีนโยบาย ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณธรรม

สำหรับ11ปัญหา ที่กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า มีความรุนแรงมากที่สุดได้แก่ 1.ปัญหายาเสพติดและสถานบริหารกลางคืน ร้อยละ75.5 2. ปัญหาการจราจรร้อยละ 74.8 3.ปัญหาสิ่งแวดล้อมเช่นน้ำท่วม มลพิษขยะ ร้อยละ69.5 4.ปัญหาการศึกษาเด็ก และเยาวชนร้อยละ 68.7 5 .ปัญหาสลัม คนเร่ร่อนร้อยละ 48.6 6.ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินร้อยละ 39.5 7. ปัญหาการท่องเที่ยวและกีฬา สวนสาธารณะร้อยละ 35.3 8.ปัญหาการให้บริการของ กทม.ร้อยละ 31.7 9. ประสิทธิภาพการบริหารงานของทีมผู้ว่าฯกทม.ร้อยละ 31.4 10.ปัญหาหาบเร่ แผงลอย 31.1 และ 11.ปัญหาการขยายตัวอย่างไร้ทิศทาง(การวางผังเมือง) 28.6

ส่วนปัญหาที่ควรจะได้รับการแก้ไขเร่งด่วน 5 อันดับแรก คือ 1.ปัญหาการจราจร รวม 2. ปัญหายาเสพติดและสถานบริหารกลางคืน 3. ปัญหาการศึกษาเด็กและเยาวชน 4. ปัญหาสิ่งแวดล้อม 5. ปัญหาสลัมคนเร่ร่อน1,675 คะแนน
นายธนวัช กล่าวว่า การทำสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้า ที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะเป็นลักษณะของโพล และ การวิจัยเชิงลึก เพื่อให้รับทราบความต้องการในการแก้ไขปัญหาของคนใน กทม. ในแต่ละเขตปกครองว่า ต้องการอะไรโดยขอบเขตการศึกษาจะทำทั้งสิ้น10 ครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ ต่อครั้ง ต่อ กลุ่มตัวอย่างประมาณ 1,500 คน ถึง 2,000 คน และในเดือนส.ค. จะทำทุกสัปดาห์ โดยมีเป้าหมายกลุ่มตัวอย่าง 5,000 คน คิดเป็นเขตละ100 คน และในวันเลือกตั้ง จะมีการทำเอ็ทซิทโพล ใน500 หน่วยเลือกตั้ง โดยจะมีการเปิดเผยผลสำรวจ หลังการปิดหีบเลือกตั้งแล้ว ทั้งนี้ คณาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้า มีความพร้อมในการทำสำรวจเพื่อที่จะให้เป็นข้อมูลให้กับชาว กทม.ในการที่จะตัดสินใจเลือกผู้บริหาร และ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ว่าฯกทม.คนต่อไป ที่จะเข้าไปแก้ปัญหาได้ตรงจุด
กำลังโหลดความคิดเห็น